ตอนที่ 7
คุณหนูเอมี่ ปะทะ แฟนเก่า (1)
ในช่วงอายุใกล้เลข 3 ของ ‘เอมี่’ สาวสวยเจ้าของร้านอาหารชื่อดังในกรุงเทพฯ ช่างน่าปวดหัวอย่างยิ่ง วันๆ เจอแต่คำพูดที่ว่า
‘เมื่อไหร่จะแต่งงาน’
‘เมื่อไหร่จะมีลูกสักที พี่สาวตัวเองมีลูกไปสองคนแล้วนะ ทำไมชักช้าแบบนี้'
อย่าว่าแต่เมื่อไหร่จะมีแต่งงานหรือมีลูกน้อยเลย แม้แต่ผัว คุณหนูเอมี่อย่างเธอก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
เธอมีพี่สาวหนึ่งคนและพี่ชายหนึ่งคน พี่สาวแต่งงานเป็นคนแรกของพี่น้องจนตอนนี้มีลูกสาวที่น่ารักถึง 2 คน ส่วนพี่ชายแม้ยังไม่แต่งงานมีลูกแต่ก็มีคนรักและมีแพลนจะแต่งงานในอีก 2 ปีข้างหน้าแล้ว ส่วนเธอที่เป็นน้องคนเล็ก หลังจากเลิกกับแฟนไปเมื่อ 6 ปีก่อนก็ไม่ได้สานต่อกับใครทั้งนั้น แห้งเหี่ยวมาหลายปีเพราะมัวแต่ทำงานและเอาเวลาที่เหลือไปนอนดูซีรีส์
แค่คำพูดพวกนี้ออกมาจากปากของพ่อแม่ เธอก็เบื่อจะแย่ แต่วันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ญาติๆ นัดรวมตัวกันที่บ้านของเธอ ก็ยิ่งหนีคำพูดเชิงลบแบบนี้ไม่พ้น
ดังนั้นคนสวยที่สุดอย่างเธอก็คงต้องหาข้ออ้างหนีจากพวกเขาทั้งหลาย โดยการอ้างว่าเธอมีนัดคุยงานเรื่องหาพื้นที่ที่ต่างจังหวัดเพื่อเปิดร้านอาหารอีกสาขาที่นั่น ซึ่งพอเห็นเรื่องงานก็ไม่มีใครมาขัดขวางเธอ
และเช้าวันถัดมาเอมี่ก็แสร้งแต่งตัวออกไปทำงานตามปกติแต่แท้จริงแล้วก็กำลังจะเดินไปพักผ่อนหลบหลีกจากความวุ่นวายจนกว่าพวกญาติๆ จะพากันกลับบ้านตัวเองไปซะ
ส่วนร้านอาหารของเธอก็ฝากผู้จัดการดูแล เท่านี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง
จังหวัดที่เธอเลือกก็คือภูเก็ต เมื่อออกมาจากสนามบินก็มีรถจากโรงแรมมารับพาไปส่งที่ที่พัก
ที่พักกว้างและการตกแต่งตามสไตล์เรียบๆ แต่หรูหรา เธอเดินไปที่ริมระเบียงเพื่อมองวิวทะเล เนื่องจากที่พักที่นี่ติดริมชายหาดจึงทำให้มองเห็นได้ชัดเจน
“สวยไม่เปลี่ยนเลย” เอ่ยออกมาเบาๆ พร้อมรอยยิ้มบางๆ
อยู่ๆ เธอก็หวนนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนขึ้นมา เธอเคยมีความสุขตอนมาที่นี่เมื่อวันวาน ไม่ใช่แค่สถานที่ที่ทำให้เธอมีความสุขแต่เป็นคนอีกคนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อเธอมากในตอนนั้น
แฟนเก่าของเธอเอง…
เราทั้งคู่เคยมาที่นี่ด้วยเมื่อครั้งยังเรียนมหาวิทยาลัยแต่หลังกลับไปได้ไม่กี่เดือนจากนั้นเธอก็ถูกเขาบอกเลิก โดยที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอทำอะไรผิดไป
จ๊อก~ จ๊อก~
เพราะเธอไม่ได้กินข้าวเช้าก่อนออกมา ท้องจึงร้องประท้วงแบบนี้ เอมี่หยุดคิดเรื่องเก่าๆ ชั่วขณะ เธอหันมาสนใจเรื่องอาหารแทน ก่อนจะออกไปจากห้องเธอก็จัดการเปลี่ยนชุดใหม่อีกครั้ง
เสื้อสายเดี่ยวสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีครีมบางๆ กางเกงยีนส์ขาสั้น และรวบผมขึ้นอย่างลวกๆ แต่ดูดีไม่น่าเกียจสักนิด พร้อมแว่นตากันแดดที่เสียบไว้บนหัวราวกับเป็นที่คาดผม
เอมี่เลือกนั่งร้านอาหารของโรงแรมที่อยู่ติดริมถนนตรงข้ามชายหาด
อาหารทะเลหลายอย่างพร้อมข้าวสวยถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ เธอยกน้ำส้มคั้นขึ้นจิบเล็กน้อยก่อนเริ่มลงมือจัดการอาหารบนโต๊ะอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ
…
ชายหนุ่มหน้าตาดีที่มาพร้อมกับหุ่นอันล่ำบึกเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมถ่ายแบบชุดว่ายน้ำสำหรับผู้ชาย
‘เดม่อน' หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาหลังเปลี่ยนชุดเสร็จแต่ยังสวมชุดคลุมทับเอาไว้ เขานั่งรอในห้องรับรองชั้นล่างของโรงแรมที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมไว้
ที่จริงแล้วเดม่อนนั้นไม่ใช่นายแบบมืออาชีพ เขาไม่ได้มีความชอบด้านนี้สักนิดแต่เพราะน้องสาวต่างแม่ของเขาที่ตอนนี้เป็นเจ้าของแบรนด์ชุดว่ายน้ำเดินทางมาขอร้องถึงในไร่ ทำให้เขาต้องมาป็นนายแบบชั่วคราวให้ในตอนนี้
ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยมือของแมน หรือ แมนดี้ ชื่อในวงการที่เจ้าตัวเป็นคนตั้งเอง แมนดี้เป็นลูกน้องคนสนิทของน้องสาวเขาที่น้องสาวเขาส่งมาดูแลระหว่างที่ถ่ายแบบ แมนดี้เดินเข้ามาพร้อมกับขวดน้ำส้มคั้นในมือ
“นี่ค่ะ น้ำส้มคั้นที่พี่สุดหล่อต้องการ”
“ขอบคุณครับน้องแมนดี้” เดม่อนรับมาพร้อมขอบคุณ
แมนดี้ขวยเขินกับคำเรียกที่หวานหูก่อนจะนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวอีกตัว
เดม่อนกระดกน้ำส้มคั้นในขวดเข้าปาก ใบหน้าของเขาแสดงออกมาว่ากำลังรู้สึกสดชื่น น้ำส้มคั้นเป็นเครื่องดื่มที่เขาชอบที่สุด ได้ดื่มทีไรก็รู้สึกสดชื่นทุกที
“อีกสิบนาทีเตรียมแสตนบายนะคะ”
เสียงดังของทีมงานกองถ่ายแบบดังเข้ามาในห้องทำให้เดม่อนและแมนดี้เตรียมตัวลุกออกไป
การถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเซตแรกที่ริมสระของโรงแรมเป็นไปได้ด้วยดี อาจเพราะมีแมนดี้และช่างภาพช่วยบรีฟมาอย่างดีจึงไม่มีอะไรติดขัดมากนัก
ยังมีอีกเซตที่ยังต้องถ่าย เดม่อนกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดอีกครั้งแล้วจึงออกมาเตรียมถ่ายต่อ เซตที่สองเป็นเซตคู่ถ่ายกับนางแบบหญิงอีกคนที่เป็นนางแบบมืออาชีพ
ในขณะที่นายแบบชั่วคราวและนางแบบกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่นั้น ก็ได้มีสายตาคู่หนึ่งที่ไม่ใช่ทีมงานมองผ่านเข้าไปเห็นพอดี
ดวงตาของเธอวูบไหว แม้จะมองอยู่จากมุมไกลๆ แต่เธอก็จำคนๆ นี้ได้แม่นยำ
“เดม่อน”
…
การถ่ายแบบชุดว่ายน้ำของเดม่อนเสร็จสิ้นเกือบ 4 โมงเย็น หลังเลิกกองและเปลี่ยนชุดเสร็จ เขาก็แยกกับแมนดี้เพราะเขาอยากค้างที่ภูเก็ตสักคืน ส่วนแมนดี้ก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ล่วงหน้าไปก่อน
มือหนาเสียบคีย์การ์ดเพื่อเปิดเข้าห้องพักแต่กลับมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นที่ด้านหลัง ทำให้มือเขาชะงัก
“ไม่เจอกันเลยนะ เดม่อน”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยแบบนี้ ไม่ต้องหันไปมองเดม่อนก็รู้ว่าเป็นใคร
“ทำไมไม่หันมามองกันหน่อยล่ะ” เอมี่ถามพลางเอื้อมมือไปจับไหล่เขาบังคับให้หันหน้ามาหาเธอ
เดม่อนยอมหันกลับมาตามแรงจับอันน้อยนิดของเธอ เขาแสดงสีหน้าที่เรียบเฉยต่อหน้าเธอแต่ในใจนั้นอัดอั้นไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ยากจะพูดออกมา
“มีอะไรงั้นเหรอ”
คำถามที่ไร้เยื่อใยแสนเย็นชาทำเอาเอมี่จุกจนพูดไม่ออก จนสีหน้าที่แสดงออกว่าบึ้งตึงเมื่อครู่กลับสลดลงไป
เธอเองก็ไม่แน่ใจกับตัวเองว่าเธอจะเดินมาหาเขาทำไม อาจจะเพราะมีความค้างคาในใจในเรื่องวันนั้นที่เขาบอกเลิกเธออย่างไร้สาเหตุก็ได้ที่ทำให้เธอมายืนตรงนี้ต่อหน้าเขา
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
มือของเดม่อนละจากประตู เขามองเธอเพื่อจะฟังว่าเธอต้องการอะไรด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกไปแม้แต่น้อย
“วันนั้น เหตุผลที่นายบอกเลิกฉันมันคืออะไร”
“แน่ใจเหรอว่าจะอยากฟังจริงๆ เธอจะรับได้เหรอ”
เอมี่ผงะเล็กน้อย คำพูดของเขาเล่นเอาใจเธอหล่นวูบ เริ่มกลัวว่าคำตอบมันจะร้ายแรงแค่ไหน เหตุใดสีหน้าของเขาถึงจริงจังขนาดนั้น
“ว่าไงล่ะ เธอพร้อมฟังไหม”
“พร้อมสิ ทำไมจะไม่พร้อมล่ะ” เธอเอ่ยด้วยความมั่นใจแม้มันจะตรงข้ามความรู้สึกของเธอ
เดม่อนแสดงสีหน้าเรียบเฉย เขาก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของอดีตคนรักที่เคยคบกันนาน 2 ปี
“ที่ฉันบอกเลิกเธอก็เพราะ… เซ็กส์ของเธอมันไม่ได้เรื่อง”
TBC.