พลอยภัทราเงยหน้าเห็นชายรูปร่างสูงโปร่งสวมเครื่องแบบตำรวจยืนอยู่ตรงหน้า ลุงวิรุตม์เป็นพ่อของพี่เวย์และริน ท่านใจดีแต่เธอมักรู้สึกประหม่าทุกครั้งเวลาอยู่ต่อหน้าเขา
“คุณจะทานข้าวเลยไหมคะ”
“ทานเลยจ้ะ”
วิรุตม์แยกทานอาหารคนเดียว ส่วนเด็กๆ พากันดูหนังในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง พลอยภัทราเริ่มรู้สึกง่วงงุนเพราะเวลาล่วงเลยเกือบห้าทุ่มแล้ว
“พลอยกลับไปนอนที่บ้านไหมลูก”จารุนีถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“พลอยไม่อยากกลับเลยค่ะคุณป้า”
“ถ้าไม่กลับงั้นนอนกับรินแล้วกันนะ”
“นอนกับเราก็ได้พลอย”มิรินยิ้มร่าด้วยความยินดี
เด็กสาวสองคนถูกส่งเข้านอน พร้อมด้วยบุตรชายอีกคน ก่อนที่สามีภรรยาจะนั่งปรึกษาทุกข์สุขของกันและกัน
“น่าสงสารพลอยนะคะ”ภรรยาออกปากก่อน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ทำยังไงได้ล่ะคุณ ในเมื่อคุณพิมลเธอเลือกจะทำงานแบบนั้น”
“แบบนี้หนูพลอยคงไม่มีเพื่อน เพราะชาวบ้านแถวนี้เอาแต่รังเกียจแม่ของพลอย”
“แค่เราไม่รังเกียจก็พอแล้วคุณ พลอยเป็นเด็กน่าสงสาร ผมไม่อยากให้เขาต้องมารับรู้เรื่องของแม่หรอก”
“นั่นสินะคะ”
สองสามีภรรยาเงียบไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมาอีก พลอยเป็นเด็กดีเรียนหนังสือก็เก่ง แต่ทางโรงเรียนกลับไม่สนับสนุนเลย เพราะมีแม่ที่ทำงานในไนต์คลับ ผู้คนแถวนี้ต่างมองเด็กคนนี้อย่างกับไม่ใช่คน นินทาว่าร้ายมารดาต่อหน้าอีกต่างหาก ยิ่งคิดยิ่งอดเวทนาไม่ได้ บางครั้งเธอยังอยากรับเด็กคนนี้มาเลี้ยงเองเสียยังจะดีกว่า
รุ่งเช้าอีกวันพลอยภัทราลืมตาขึ้นมาพร้อมเพื่อน เสียงโหวกเหวกหน้าบ้านทำให้เด็กสาวตื่นตระหนก เธอคุ้นเคยดีว่านั้นคือเสียงใคร ร่างเล็กรีบลงจากเตียงวิ่งไปยังหน้าบ้าน
“พลอย พลอย ได้ยินที่แม่เรียกไหม!”
เด็กสาววิ่งหน้าตาตื่นมายืนหน้าบ้าน เห็นคุณจารุนีและสามีมาเปิดประตูรั้ว พลอยภัทราตัวสั่นขึ้นมาทันทีที่เห็นแววตาแม่จ้องมองมา
“ทำไมไม่อยู่บ้าน แม่บอกแล้วใช่ไหมให้นอนที่บ้าน!”คนเป็นแม่ขึ้นเสียงทันที
“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีฉันเห็นว่าที่นั้นมีพลอยอยู่คนเดียวเกรงจะอันตรายน่ะค่ะ เลยชวนให้มานอนที่นี่ด้วย”จารุนีแก้ตัวแทนเพราะเกรงเด็กจะโดนตี
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลยัยพลอย แต่วันนี้ฉันขอรับตัวลูกกลับบ้านก่อน”พิมลตราบอกอย่างไว้ไมตรี เพราะอย่างน้อยมีเพียงครอบครัวนี้เท่านั้นที่ยอมรับเธอและลูกอย่างไม่รังเกียจ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
พลอยภัทราช้อนสายตามองแม่ก่อนหันมามองเวธัส มือแม่เอื้อมจับแล้วรั้งให้ลูกเดินตามไปที่บ้าน เมื่ออยู่กันเพียงสองคน เด็กสาวตัวสั่นขึ้นมาด้วยความกลัว
“แกอยู่บ้านคนเดียวมันจะตายหรือไงยัยพลอย!”คนเป็นแม่ส่งเสียงดุ
“เปล่าจ๊ะแม่”
“แล้วทำไมแกไม่อยู่ อยากให้ขโมยมันขึ้นมาหรือไง!”
“ถ้ามีขโมยจริงพลอยคงถูกมันฆ่าตายแน่เลยแม่ เพราะมีพลอยอยู่บ้านแค่คนเดียว”เด็กสาวตอบเสียงเครือ
พิมลตรานิ่งงันคำพูดลูกเป็นจริง ถ้าหากมีโจรลูกคงไม่รอดแน่ แต่เธอไม่อยากให้ไปรบกวนบ้านหลังนั้นมาก เกรงเขาจะหมดความอดทนสักวัน และเมินเธอกับลูกสาวเหมือนคนอื่น
“แต่เราจะไปรบกวนบ้านโน้นเขาทุกวันไม่ได้หรอกนะพลอย”
“พลอยรู้แล้วจ้ะแม่”
แววตาบุตรสาวทำให้เธอเข้าใจดี ที่เข้มงวดทุกวันนี้เพราะไม่อยากให้ลูกต้องทุกข์เหมือนตนเผชิญอยู่
“ตั้งใจเรียนให้ดีพลอย อย่าให้คนอื่นเขาว่าได้ แม่ไม่มีอะไรให้นอกจากทำงานส่งแกเรียนเท่านั้น”
“จ้ะแม่”
“เรามีกันแค่สองคน จะให้แม่มาดูแลแกคงไม่ได้ แกต้องดูแลตัวเองให้ดีเข้าใจไหม”
“เข้าใจแล้วแม่”
“ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะจะได้ไปโรงเรียน”
“จ้ะแม่”พลอยภัทรารับคำแล้วขึ้นห้อง
พิมลภามองแผ่นหลังลูกแล้วทรุดลงบนโซฟา ทุกวันนี้ทำทุกอย่างก็เพื่อลูกทั้งนั้น ถึงใครจะมองว่าเธอทำมาหากินเป็นผู้หญิงกลางคืน แต่ทำไงได้ในเมื่อไม่มีความรู้เลย คนรักก็มาตีจากหลังจากรู้ว่ามีลูกด้วย คงทำอะไรไม่ได้นอกจากฟันฝ่าอุปสรรคด้วยตนเอง และพยายามไม่ให้ลูกต้องเจริญรอยตาม
เด็กสาวอาบน้ำแต่งตัวสวมชุดเสื้อคอกะลาสีสำหรับนักเรียนมัธยมต้นออกมาจากบ้าน พิมลตรายื่นแบงค์ห้าสิบให้ลูกเพื่อเป็นค่าอาหารไปโรงเรียน เธอรับมาแล้วยกมือไหว้ก่อนเปิดประตูรั้วออกจากบ้าน เด็กสาวชะงักเมื่อเห็นครอบครัวข้างบ้านกำลังยืนรออยู่
“พลอยไปด้วยกันสิ”วิรุตม์เอ่ยชวน เพราะตนเองกำลังจะไปส่งลูกเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ”เด็กสาวปฏิเสธ เพราะไม่อยากขัดคำสั่งแม่
“ขึ้นมาเถอะลูก ไม่เป็นไรหรอก ลุงรับรอง”