เธอหันมอง เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นมารดาแล้วดีใจมากขนาดนี้ ร่างเล็กโถมเข้าหาสะอื้นไห้ทันที
“แม่ แม่ คุณลุงคุณป้าพี่เวย์แล้วก็ริน ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง!”
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ!”พิมลตราแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าเลย รอบๆ กายมีแต่ความวุ่นวาย
“แม่ทำยังไงดี พี่เวย์ไม่ฟื้นเลยตอนพลอยไปเจอ”
คนเป็นแม่จับไหล่ลูกสาวสองข้างแล้วจ้องมอง
“อย่าเพิ่งร้องไห้พลอย”
ไฟลุกโชติช่วงมอดดับลงแล้วเหลือเพียงแต่เถ้าถ่านสีดำ พลอยภัทรายืนมองเห็นเจ้าหน้าที่นำผ้าสีขาวเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนใช้แปลห้ามร่างดำเป็นตอตะโกออกมาในสภาพที่ไม่รู้ใครเป็นใคร เดินออกมาด้านนอกรั้วเธอมองมันดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างริมฝีปากสั่นระริก มือแม่ยกปิดตาลูก พิมลตราไม่อาจกลั้นน้ำตา ใจภาวนาให้สิ่งที่เห็นไม่ใช่อย่างที่คิด
“แม่นั้นอะไร...”เด็กสาวถามเสียงราวกับละเมอ รู้สึกเหมือนโดนค้อนทุกศีรษะมันหนักจนแทบระเบิดออกมา
พิมลตรากัดฟันแน่น หัวใจเต้นรัวไม่อยากเชื่อเลย ช่างโหดร้ายนักทำไมถึงได้ทำร้ายครอบครัวที่แสนดีแบบนี้ได้ลง ลูกสาวเธอจะทำใจได้เช่นไร เมื่อต้องสูญเสียคนสนิทไปอย่างไม่มีวันกลับ ข่มความเจ็บปวดเอาไว้ตอนนี้ต้องประคับประคองลูกไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องถามพลอย กลับไปบ้านได้แล้วที่เหลือแม่จัดการเอง”
“แม่... อะไร ที่พลอยเห็นคืออะไรคะแม่!”เด็กสาวร้องถามน้ำตานองหน้า
“แม่บอกว่าไม่ต้องถามไง กลับไปบ้านเราเดี๋ยวนี้พลอย!”พิมลตราสั่งเสียงแข็ง
“แม่เมื่อกี้ศพใช่ไหม ใคร เป็นใครกันแม่!”
เมื่อเห็นลูกไม่ฟัง เธอลากบุตรสาวออกมาจากบริเวณนั้นแล้วพาเข้าไปในบ้าน ให้นั่งตรงโซฟา เห็นสีหน้าลูกแล้วเรื่องนี้คงกระทบกระเทือนใจอีกนาน แล้วศพที่ถูกนำออกมาจากบ้านมีทั้งหมดสาม ตามที่บุตรสาวบอกเวย์คงรอดเพียงคนเดียว มันเรื่องอะไรกัน ทำไมมันกะทันหันแบบนี้ ครอบครัวนี้เป็นคนดีแท้ๆ เหตุใดสวรรค์ช่างกลั่นแกล้งนัก
“รอแม่อยู่ที่นี่เข้าใจไหมพลอย อย่าออกไปไหน”
เธอไม่ได้ยินเสียงใด นั่งนิ่งราวรูปปั้นซึ่งไร้จิตวิญญาณ ภาพที่เห็นมันยังวนเวียนไม่หายไปจากหัวเลย
“พลอยได้ยินแม่ไหม พลอย!”คนเป็นแม่จับไหล่ลูกไว้แน่น เมื่อเห็นสภาพแล้วแทบทนไม่ไหว
พิมลตราลุกยืนมองดูบุตรสาวอีกครั้งแล้วสาวเท้าออกมานอกบ้าน หยุดยืนมองดูศพทั้งสามถูกขนออกจากรั้วบ้าน เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรด้วยซ้ำ ก่อนอื่นคงต้องสืบหาว่าเวธัสถูกส่งไปที่ไหน
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเด็กที่บาดเจ็บเอาส่งโรงพยาบาลไหน”เธอถามเจ้าหน้าที่สีหน้ากังวล
เจ้าหน้าที่บอกข้อมูล พิมลตรารีบเดินทางไปที่นั้นทันที เธอติดต่อกับพยาบาลจนมาถึงห้องพักของบุตรชายเพื่อนบ้าน ซึ่งตอนนี้นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องพักฟื้น ไม่อยากคิดหากฟื้นขึ้นมาเวย์จะรู้สึกเช่นไรกับการสูญเสียคนในครอบครัว ในอกมันแน่นเสียจนอยากระเบิดออกมา เด็กคนนี้จะทนแบกรับความทุกข์ทรมานมากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน
เมื่อเห็นเวย์ปลอดภัยพิมลตราเดินทางมายังที่เกิดเหตุอีกครั้ง เห็นตำรวจหลายนายเริ่มมาตรวจสอบ หวังว่าคงเป็นแค่เพียงอุบติเหตุไม่มีอะไรเคลือบแฝง เธอกลับเข้าบ้านเห็นบุตรสาวนอนอยู่บนโซฟา คนเป็นแม่มองแบบนี้พลอยจะทำยังไงต่อไป เธอเองไม่รู้อะไรเลยคงต้องรอดูก่อน บางทีศพสามศพนั้นอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็เป็นได้
พิมลตราเดินทางมายังสถานีตำรวจตามคำเชิญเพื่อสอบปากคำ แม้แต่ตัวบุตรสาวเองก็โดนถามคำถามหลายต่อหลายครั้งจนสภาพจิตใจย่ำแย่ สุดท้ายสำนวนคดีสรุปเป็นอุบัติเหตุจากแก๊สรั้วในครัว สามศพที่พบคือคุณจารุนี จ่าเอกวิรุตม์ และเด็กหญิงมิริน พิมลตราแทบทรงกายไม่อยู่พยายามเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่มีอีกแล้วเพื่อนบ้านที่แสนดี เธอเดินออกมาด้านนอกสถานีตำรวจหัวใจหล่นร่วง สติรับรู้เลือนหายจนชนกับใครบางคน
“ขอโทษค่ะ”เธอบอกเขา ในขณะที่ร่างถูกโอบประคองไว้
“ไม่เป็นไรครับ”
ดวงตาสบกัน พิมลตรารู้สึกคุ้นหน้าชายคนนี้ แต่เมื่อได้สติจึงรีบเบี่ยงกายหนี
“ขอบคุณนะคะ”
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”เขาถามสีหน้าแสดงความห่วงใย
“ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อ... ขอตัวก่อนนะคะ”เธอบอกแล้วเดินหนีออกมา
ชายแปลกหน้ามองตามไม่วางตา เป็นครั้งแรกที่ถูกชะตากับใครสักคนแบบนี้ เขาสะบัดไล่ความรู้สึกเดินเข้าสถานีตำรวจเพื่อจัดการเรื่องวุ่นวายก่อน
พิมลตราเดินทางกลับมาบ้านเห็นบุตรสาวรออยู่ น้ำตาคลอหน่วย เด็กสาวลุกยืนมองหน้าแม่
“แม่คะ คุณลุงคุณป้าแล้วก็มิรินไม่อยู่อีกแล้วใช่ไหม”เธอถามน้ำเสียงสั่นเครือ
คนเป็นแม่นิ่งอึ้งไม่กล้าบอกออกไป
“ไปได้ยินมาจากไหนพลอย”
“พลอยรู้ค่ะแม่ ถึงแม่ไม่บอกพลอยไปสถานีตำรวจพลอยก็รู้แล้ว”
เธอเองไม่สามารถปิดบังลูกได้อีก ไม่มีใครไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรอก
“ใช่”
เด็กสาวยืนอึ้งน้ำตาอาบแก้ม ก่อนทรุดกายลงปล่อยโฮออกมา ราวกับคนจะขาดใจเสียให้ได้ คนเป็นแม่ยืนมองเม้มริมฝีปากแน่น เธอทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ใจดวงนี้เองก็เสียใจไม่ต่างกัน