หลังจบจากงานชมบุปผาในครั้งนั้น เสิ่นจ้านก็ไม่ได้ย่างเท้าไปที่ใด เพราะนอกจากจวนตระกูลเสิ่นกับค่ายทหารที่อยู่นอกเมืองออกไปไม่ไกลแล้ว ตัวเขาก็แทบไม่มีเวลาว่างไปที่อื่นอีก ด้วยเพราะชายหนุ่มจะต้องคอยอยู่ดูอาการป่วยของผู้เป็นปู่แทบทุกวัน เหตุเพราะอาการป่วยของเสิ่นหยวนนั้นนับวันดูท่าว่าจะทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งหมอหลวงจากในวังยังแอบกระซิบบอกให้ทำใจเผื่อไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทว่าความกังวลเดียวของชายชรากลับเป็นเรื่องการหมั้นหมายแต่งงานของเขา ที่ท่านยังทำไม่สำเร็จลุล่วงอย่างที่ตั้งใจไว้ ชายหนุ่มเคยถามผู้เป็นปู่ว่าเหตุใดจึงปักใจกับบุตรสาวตระกูลหลานนัก ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับเป็นเพียงเสียงครางอืออาฟังไม่ได้ศัพท์ ด้วยเพราะผู้เฒ่าเสิ่นนั้นนับเป็นไม้ใกล้ฝั่งที่เริ่มผุเริ่มเปื่อยเต็มที เวลานี้เขาจึงพูดจาอันใดไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว “จ้านเอ๋อร์ แม่ว่าส่งแม่สื่อไปหาตระกูลหลานดูอีกสักรอบดีหรือไม่?” เสิ่นฮูหยินเอ่ยก