“นั่นสิคะ...คุณแน่ใจได้ยังไงคะว่า ‘เด็ก’ ในท้องฉัน เป็นสายเลือดของเบลอนจริงๆ”
เป็นคำถามที่เขาเป็นคนเริ่มต้นถามก่อนแท้ๆ แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับใช้คำถามนั้นย้อนกลับมาถามเขา เคลตันถอนใจแรงๆ คำถามนี้มีคำตอบไว้แล้ว...
“มันก็ไม่ยากหรอกนะ มีหลายวิธีที่จะพิสูจน์ ขอแค่ตอนนี้เธอยอมหุบปาก หลังจากนั้นค่อยว่ากัน” เคลตันไม่ใช่นักต่อรองที่ดี เขาชอบวิธีง่ายๆ และจบเร็วๆ ด้วยการใช้สิ่งที่เขามีปิดปาก และเขาคิดว่าผู้หญิงตรงน่าไม่น่าพูดยาก หากเธอแบะท่ามาว่าต้องการอะไรตอบแทน
“อ้อ...คุณคงกลัวว่าน้องสาวของคุณจะเสียใจ” มานีแค่นยิ้ม เขาห่วงคนในครอบครัว แต่กับคนอื่นแล้วชายตรงหน้าไม่แยแส
“ใช่...มาริเบลมีค่ากว่าคนอย่างเธอ หลายเท่านัก”
มานีเจ็บจี๊ด เขาดูแคลนเธอ เพราะการกระทำของไลลา เธออยากจะเถียง แต่ก็เถียงไม่ออก เรื่องนี้ไลลาผิดเต็มประตู รู้ทั้งรู้ว่าคริสเตียเป็นคนมีเจ้าของ น้องของเธอก็ยังไปยุ่งกับเขา จนเกิดปัญหากวนใจแก้ไม่ตกนี่ขึ้นมา มานีสงสารเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไม่อยากให้เขาโตมาอย่างยากลำบาก เพราะหากไม่มีใครสักคนยอมรับเขา ไม่ว่าจะพ่อ หรือแม่ เด็กคนนี้จะเป็นยังไง หญิงสาวเม้มปากแน่น “คุณจะเอายังไงคะ?”
“เธอต้องเก็บตัว และหุบปากซะ รอให้งานวิวาห์ของคริสเตียโน่จบลง ฉันจะมาตกลงกับเธออีกที ช่วงนี้ห้ามเป็นข่าวด้วยนะ ฉันไม่อยากทำอะไรรุนแรง” เคลตันไม่ได้ขู่ หากมีข่าวของหล่อนปูดขึ้นมาอีกนิดเดียว เขาจะกำจัดหล่อนทิ้ง ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าหล่อนกำลังอุ้มท้องอยู่หรือไม่
“หึ!!” มานีกระแทกลมหายใจแรงๆ “คุณต้องการให้ดิฉันเก็บตัว เพื่อให้งานวิวาห์ของคุณเบลอนไม่สะดุด แล้ว...”
“เธอจะได้เจอกับคริส เขาจะเอาไงกับเธอ เวลานั้นค่อยตกลงกัน ฉันยอมให้ได้เท่านี้ เพราะหากฉันลงมือเองล่ะก็ เธอไม่ได้มาลอยหน้าเถียงฉันอยู่แบบนี้หรอก เพราะการมีคนตายสักคนในเมลเบิร์น มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”
อำนาจเงินของเขากลบข่าวร้ายๆ ได้อย่างดี ผู้หญิงจนกร็อบ ไม่มีแม้แต่ผู้ปกครองอย่างหล่อน ครอบครัวล้มละลายเพราะผู้นำครอบครัวไม่เอาไหน น่าเสียดายสมบัติตระกูลที่ถูกผลาญไปจนหมด
มานีสะท้านวูบ ความกลัวผุดขึ้นกลางใจ เมื่อสบนัยน์ตาสีดำที่เปล่งประกายวูบวาบ
หญิงสาวกัดริมฝีปากล่าง...เธอรวบรวมสติจะมาขวัญกระเจิงตอนนี้ไม่ได้
“ฉันจะหาที่อยู่ให้ สำหรับให้เธอเก็บตัว”
“ดิฉันเอาคนไปอยู่เป็นเพื่อนได้ไหมคะ?” มานีไม่แน่ใจ ผู้ชายตรงหน้าดูลึกลับ เธอควรทำตามที่เขาพูด หรือดึงดันที่จะพบเจอคริสเตียโน่เหมือนที่ไลลาต้องการ
“เชิญ...” เคลตันไหวไหล่...เขาต้องการให้เรื่องมันจบเงียบๆ
เวลากระชั้นเสียจนตัดสินใจเด็ดขาดไม่ได้
มานีคิดจนปวดหัวหลังตกลงกับชายผู้นั้น เธอพยายามติดต่อหาไลลา แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง ปลายสายก็เงียบฉี่ แถมยังไม่มีการโทรศัพท์กลับมา เธอเดินวนอยู่ในห้องพักแคบๆ หลังเลิกงาน คิดจนหัวจะแตก เธอจะสลับตัวกับน้องสาวยังไงดี เมื่อมีผู้ชายหน้าดุ เฝ้าไม่ยอมห่าง
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้โง่เลย หลังตกลงกันรู้เรื่อง เคลตันให้การ์ดของเขาตามประกบเธอไม่ยอมให้คลาดสายตา
“ไลลา...ไปอยู่ที่ไหนนะ พี่จะบ้าอยู่แล้วนะ”
หญิงสาวบ่นพึมพำ ยกมือตบหน้าผากรอบที่ร้อย เธอต้องการเวลาสำหรับการติดต่อน้องสาวให้นานที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์สิ้นดี
กระเป๋าเดินทางถูกลากออกมาวางตรงพื้นหน้าเตียง มานีโยนเสื้อผ้าใส่ลงไปในนั้นเท่าที่พอจะหาได้ เธอผุดลุกผุดนั่ง กระวนกระวายไปหมด ใกล้เวลานัดเข้าไปทุกขณะ เธอยังติดต่อกับไลลาไม่ได้เลย
“เอางี้แล้วกัน” หญิงสาวตัดสินใจในสามนาทีสุดท้าย
มานีเขียนใส่กระดาษ วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกับเช็คที่เพิ่งรับมาสดๆ ร้อนๆ จากผู้ชายคนนั้น ไลลาต้องใช้เงินอีกเยอะ ช่วงนี้ไลลาคงทำงานไม่ได้ ต้องเตรียมของใช้เด็กหลายอย่างสำหรับวันที่เขาจะออกมาลืมตาดูโลก เธอยอมอายเพื่อหลาน สายตาหมิ่นแคลนนั่นมองมานี ตอนที่เธอหยิบเช็คนั่นยัดใส่กระเป๋ากางเกง มานีถอนใจ... เธอได้แต่หวังให้ไลลามาเจอสารที่เธอวางไว้ ตอนนี้เธอต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อน้องสาวและหลานของเธอนั่นเอง
ก๊อกๆ ...
เสียงเคาะประตูดังเบาๆ
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ” หญิงสาวลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้องพัก พร้อมกับรีบล็อกประตู
“เชิญครับ คุณเคซีรออยู่”
เคลตันไม่ได้เหยียบขึ้นไปบนห้องแถวโทรมๆ เขาเหยียดปากสมเพชหญิงผู้นั้นในใจ คงเพราะความอัตคัดทำให้หล่อนผู้นั้นพยายามถีบตัวเองให้พ้นจากความลำเค็ญ และหล่อนก็ทำสำเร็จเสียด้วยเมื่อมาเจอกับผู้ชายหัวอ่อนแต่ร่ำรวยแบบคริสเตียโน่ นับจากนี้ไป ‘ลูก’ ของหล่อนคงทำเงินให้เจ้าหล่อนไม่น้อย แต่นั่นต้องหมายความว่าหลังพิสูจน์ DNA แล้ว เด็กในท้องหล่อนมีสายเลือดของเบลอนปนอยู่นะ
เพราะถ้าไม่ใช่...หล่อนคงหมดทางหาเงิน
เคลตันไม่ชอบถูกคนด้อยกว่าลูบคม หากหล่อนหัวหมอ หล่อนต้องมาเหนือชั้นกว่าเขา
และต้องไม่ให้เขาจับได้ด้วย...
รถยนต์หรูจอดเทียบประตูทางออก ประตูด้านข้างเปิดรอให้เธอก้าวเดินขึ้นไป มานีถอนใจแรงๆ เธอก้มหน้าลงค้อมตัวมุดเข้าไปนั่งบนเบาะด้านหลัง พยายามไม่มองใครในที่นั้น เพราะยังไม่อยากอารมณ์เสีย ผู้ชายบ้าอำนาจคนนั้นนั่งอยู่ตรงเบาะด้านหน้าของเธอ เขามองตามเธอทุกนาที และหากแววตาของเคลตันเป็นใบมีดโกน เสื้อเชิ้ตบนตัวเธอคงขาดไม่เหลือชิ้นดี
มานีหย่อนก้นลงนั่ง หลุบเปลือกตาลง ยกมือประสานกันไว้ที่หน้าตัก แอบผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ
“ฉันไม่ค่อยได้อยู่ที่นั่นหรอกนะ แต่รับประกันเรื่องความปลอดภัย”
เคลตันเปรยลอยๆ วันนี้เขาสามารถเก็บผู้หญิงคนนี้ไปจากหน้าสื่อได้แล้ว
แต่ยังไม่มีเวลาสำหรับเค้นคอหล่อนเพื่อให้หล่อนยอมเปิดปากสารภาพความจริง ไม่เป็นไร... ขอแค่ผู้หญิงคนนี้ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับมาริเบลในช่วงนี้ รอให้งานวิวาห์ผ่านพ้นไปด้วยดี จากนั้น... เขาจะลงลุยด้วยตัวเอง และจบปัญหากวนใจนี่เสียเลย
“เราจะไปที่ไหนกันคะ?” มานีถามเบาๆ อย่างน้อยเธอก็ควรรู้จักจุดหมายปลายทาง
“ฉันมีบ้านพักแถวอ่าวฮ็อบสัน เธอไปอยู่ที่นั่นจนกว่าคริสจะติดต่อไป”
มานีแอบเบ้ปาก เธอหมั่นไส้ชายหน้าตึงด้านหน้า คนรวยนี่ดีจังเลยนะ เขามีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองใหญ่ แต่ก็มีบ้านพักหลังเล็ก หลังน้อยซุกอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวด้วย เพราะหากเทียบกับคนทั่วไป การมีบ้านสักหลังคือภาระหนัดสุดๆ เมื่อที่ดินราคาแพงจนแตะต้องไม่ได้
“หวังว่าคงไม่พาฉันไป ฆ่านะคะ” เธอเลยเผลอพูดแดกดันออกมา
“หากทำแบบนั้นแล้วไม่ผิดกฎหมาย ก็น่าสนนะ” เคลตันตอบเสียงทุ้ม เขาหมุนตัวกลับมาจ้องหน้ามานี
“คนแบบพวกคุณ กลัวกฎหมายด้วยเหรอคะ?” มานีถามกลับ เธอประสานสายตากับเขาแบบไม่มีความกลัวในแววตาคู่นั้นเลย
“ฉันเป็นแค่ประชากรคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ใต้กฎหมายเหมือนพวกเธอนี่”
“เหรอคะ...ฉันนึกว่าคนรวย อยู่เหนือกฎเกณฑ์พวกนั้นเสียอีกค่ะ”
มานีไม่ใช่ไลลา เธอไม่ได้อ่อนปวกเปียก มานีพร้อมสู้ หากสิ่งที่เธอทำคือความถูกต้อง
“เธอคิดแบบนั้นมาตลอดสินะ”
“เปล่าคะ เพราะฉันเห็นแบบนั้นเป็นส่วนใหญ่” เท่าที่เคยผ่านตา ส่วนมากแล้ว คนร่ำรวยทำอะไรไม่เคยผิด เขาใช้สิ่งที่เขามีอำนวยความสะดวกให้ตัวเอง
“ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก สบายใจได้” เคลตันมีศักดิ์ศรีพอ เขาไม่เคยใช้วิธีคดโกง แม้บางครั้งจะมีคนยื่นข้อเสนอให้
“ก็ดีค่ะ...ฉันจะได้แน่ใจว่าฉันจะไม่ถูกฆ่าปิดปาก”
ชายหนุ่มผินหน้ากลับไปทางเดิม เขากัดกรามจนสันกรามปูด ผู้หญิงคนนี้เก่งเรื่องยั่วประสาทผู้ชาย นับตั้งแต่เจรจากับหล่อน อารมณ์ของเขาขึ้นๆ ลงๆ เหมือนกับสาวใหญ่วัยทอง นับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เคลตันแทบควบคุมตัวเองไม่ได้
“ไอ้เวรคริส ชอบหล่อนตรงไหนวะ?”
เคลตันถามตัวเองในใจ ผู้หญิงแบบนี้ไม่น่าใช่สเปคของคริสเตียโน่ หรือบางที...คริสเตียโน่อาจจะเบื่อความจำเจ เลยอยากลองอะไรที่มันแตกต่างบ้างก็ได้...แต่กระด้างแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ