ตอนที่ 9 ชื่อตอน เรือค้าทาส

1297 คำ
ยามผ่านไปมินานนัก ทั้งตำหนักก็วุ่นวาย เหล่าข้ารับใช้วิ่งตามหาพระสนมอ๋าว กรีดร้องน้ำตานองกันทั้งสิ้น ยามเรื่องไปถึงองค์ฮ่องเต้ ฝ่ามือแกร่งทุบโต๊ะดังปัง!!!! "เจ้าว่าอย่างไรนะ พระสนมอ๋าวหายไปเช่นนั้นหรือ บังอาจนัก คนมากมายทั้งตำหนัก ดูแลพระสนมผู้เดียวมิได้ ประกาศออกไป ว่าข้าจะประหารคนของนางเสีย หากนางมิยอมกลับมาอีก " เพียงเท่านี้ ทั้งตำหนักก็กรีดร้องร่ำไห้ในทันใด ใบหน้าคมจ้องไปจนทั่ว และเดินไปที่กรงตัวซ่างซู และตีหัวมันด้วยนิ้วเบาๆตวาดลั่น "เสี่ยวจง เจ้าออกไปดูเสีย ว่านางไปทางใด หากมิพบนาง อย่ามากินเมล็ดทานตะวันของข้าอีก!!! " เสี่ยวจงวิ่งหนีออกไปในทันใด ก่อนจะดมในอากาศและร้องเสียงดัง ตัวซ่างซูขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ ยืดลำตัวขึ้นและร้องจี้ดๆ ร่างแกร่งจึงเดินตามมันไป จนพบว่านางหนีออกไปหลังตำหนักเย็น ใบหน้าคมมืดครึ้มและตวาดลั่น "โบกปูนปิดทับช่องทางนี้เสีย ผ่านมานับสิบปีแล้ว ยังปล่อยรูนี้ไว้อีก รักษาวังเช่นใดกัน หละหลวมเช่นนี้ได้กัน !! " ทหารองครักษ์ตาโตและเอ่ยขัดขึ้นมาทันใด "เอิ่ม มิใช่ฝ่าบาทเองทรงตรัสว่า รูนี้นั้นจะเอาไว้ใช้ยามเบื่อหน่าย ยามอยากปลอมตนออกไปด้านนอกหรือพะยะค่ะ" ฉูหลงเจี๋ยใบหน้ามืดครึ้มในทันใด โบกพระหัตถ์ใส่หัวองครักษ์คนสนิทในทันใด "เจิ้นเคยตรัสเช่นนั้นมาก่อน แต่เพราะยามนั้น มิมีผู้ใดรู้และกล้าใช้มันเช่นนาง ยามนี้นางมาอยู่ในวังแล้วและนางถึงกับกล้าลอดรูสุนัขออกไปเช่นยามเยาว์ เจ้าจะให้ผู้อื่นทำตามนางอีกหรืออย่างไร ฟู่โหย่ว!!! " องครักษ์ฟู่โหย่วก้มหน้าลงน้อยๆและมิกล้าเอ่ยอันใดอีก ก่อนจะสั่งคนออกไปปิดล้อมในเมืองหลวงตรวจค้นจนถึงจวนสกุลอ๋าว เหล่าพี่ชายทั้งเก้าคนและผู้เฒ่าอ๋าวตื่นตกใจร่ำไห้ระงม ห่วงใยพระสนมอ๋าวเป็นอันมาก "ฮือ เสี่ยวปิงซวงของบิดา เจ้าอยู่ที่ใดกัน ถ้ามิกลับจวน บิดาจะไปตามหาเจ้าที่ใดกัน " พี่ใหญ่สกุลอ๋าวน้ำตาคลอ ตวาดข้ารับใช้ลั่นจวน ต่อหน้าทหารหลวงในทันใด "พวกเจ้ายังมิรีบออกไปตามหาน้องหญิงของข้าอีก นางออกจากวังมาแล้วมิกลับมาที่จวนนี้ นางจะไปที่ใดได้กัน เร่งตามหาอย่าให้เกิดเหตุร้ายได้ ส่งนักฆ่ารับจ้างฝีมือดีออกไป ประกาศให้คุ้มกันนางให้ทันท่วงที และสังหารผู้คนที่คิดทำร้ายนางเสีย อย่าให้นางบอบช้ำ แม้เส้นผมร่วงเส้นหนึ่งก็มิได้!!! " ทหารหลวงพากันถอนหายใจพลัน เมื่อมิพบสนมอ๋าวในจวนสกุลอ๋าว เช่นนี้ในเมืองหลวงจึงโกลาหลอีกครั้ง ส่วนพระสนมอ๋าวหน่ะหรือ นางนั่งในเรือน้อยตกปลา และปิ้งปลากินอย่างเอร็ดอร่อย มองดูเรือทหารผ่านไปลำแล้วลำเล่า ก่อนจะพบว่า ด้านหน้าเรือของนางมีเสียงร้องของเด็กๆ นางจึงแจวเรือไปใกล้ๆและลอบเข้าไปในเรือ ก่อนจะพบว่ามีเด็กมากมายถูกมัดไว้ในเรือ ร่างบางเร่งพยายามแกะเชือกและมิได้มองทางด้านหลังในมุมมืด ผั้วะ!!!! มือหนาหนักฟาดหลังคอนางจนสลบ และส่งสายตาดุร้ายส่งมาให้ และบีบคางนางดึงขึ้นมาดู "หึ สอดเรื่องชาวบ้านนัก เช่นนี้ก็ดียิ่ง จะได้นำไปขายด้วยอีกคนหนึ่งไป" ครานี้เด็กเล็กๆ ต่างร่ำไห้ระงม ร้องเรียกนางกันลั่นเรือ "เจี่ยเจี่ย เจี่ยเจี่ยท่านอย่าเป็นอันใดนะ เจี่ยเจี่ย" ยามอ๋าวปิงซวงออกจากเรือไป เรือของนางขวางทางสัญจรนักจึงถูกตรวจค้น ยามพบห่อผ้าของนางมีตราอาญาสิทธิ์ของสกุลอ๋าว คนของสกุลอ๋าว จึงเป่านกหวีดเรียกนักล่าสังหาร ออกมาสะกดรอยทันใด ลำน้ำทั้งหมดถูกตรวจค้น เรือทุกลำถูกไล่ล่า คนร้ายนำเด็กชายผูกปากและจูงไปที่ในทางมืดทึบเส้นหนึ่ง ส่วนสนมอ๋าวถูกปิดตา อุ้มพาดบนบ่าไปทางหนึ่ง อ่าวปิงซวง แกล้งหลับรอฟังสิ่งต่างๆที่คนคุยกันอย่างตั้งใจ นางมิตื่นตระหนก แม้นางจะถูกขืนใจหรือทำอันใดนางก็คงต้องยอมรับมัน แต่ทว่าเด็กๆเหล่านั้นนางทิ้งไปมิได้แน่ อ๋าวปิงซวงทำตัวแบบไร้กระดูกเช่นคนหลับ ฟังชายสองคนสนทนากัน และต้องกัดฟันแน่น ยามถูกลูบสะโพกไปมา คนแบกนางเอ่ยอย่างหื่นกาม กับคนอีกผู้หนึ่งทันใด "ข้ามิได้ชำเราสตรีมานานแล้ว วันนี้โชคดีนัก ที่นางแส่รนหาที่ตายเองชัดๆ แต่สตรีฆ่าไปก็เท่านั้นจริงมั้ยเพื่อน มิสู้เรามาสนุกกับนางเสียก่อน แล้วค่อยขายนางออกไป อย่างไรนางก็รูปร่างดีมิน้อย ผลัดกันคนล่ะสองสามรอบ นายท่านคงมิว่าอันใดนัก " "ดี ดีนัก เช่นนี้นำนางไปที่กระท่อมของข้าก่อน เจ้าไปดูต้นทางไว้ เผื่อนายท่านกลับมาไวนัก จะโดนดุเอาได้" สองคนร้ายนัดแนะกันดิบดี อ๋าวปิงซวงพยายามทำทีเป็นคนที่หลับไหลอยู่เช่นนั้น นางยังคิดอันใดมิออก แต่นางคิดว่า หากบุรุษผู้เดียวนางก็คงสู้ได้ หรือหากพลาดพลั้งอันใด นางเคยผ่านบุรุษมาแล้ว หากต้องเสียสละตนเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น นางก็ต้องยอม คิดเช่นนี้จึงคลายความกลัวลงและสงบใจลงได้ ทางด้านในลำน้ำ ยามทหารค้นไปจนทั่วแล้วก็จากไป เหล่านักฆ่าตามแอบมาค้นอีกคราหนึ่ง แอบเข้าในทุกจุดของเรือลำใหญ่ จนพบห้องลับ และพบว่ามีเรือลำหนึ่งมีถุงหอมของสตรีตกอยู่ ปักชื่อว่าเสี่ยวอ๋าว เช่นนี้แล้ว จึงส่งข่าวออกไป ตรวจสอบที่มาของเรือลำนั้นเป็นการด่วน ก่อนจะพบว่าคือเรือของหอกุ้ยเซียง หอคณิกาในเมืองถัดไป เหล่านักฆ่าแจ้งข่าวแก่สกุลอ๋าว และกระโดดไปตามหาคนรอบๆจากจุดจอดเรือทันใด แยกกันไปตรวจค้นเรือนและกระท่อมทุกหลัง จนพบว่ามีเสียงสตรีกรีดร้องดังออกมา "กรี้ดดด ปล่อยข้านะ ปล่อย!!! " ร่างบางถีบชายใบหน้าอัปลักษณ์ออกจากกายตนอย่างแรง ขัดขืนดิ้นรนจนถูกตบที่ใบหน้า และถูกกดลงที่พื้น ยามเสียงนางดังนัก ลอยไปนอกกระท่อม ชายผู้เป็นนายของคนทั้งสองจึงเร่งมา และตวาดลั่นทันใด "บังอาจนัก นางเป็นสินค้าชั้นดี ใครให้พวกเจ้าทำเช่นนี้กัน นำนางไปรวมกับเด็กๆที่ฟากนั้นซะ แล้วอย่าได้บังอาจทำเช่นนี้อีก !!!" มือหนากระชากร่างนางลุกขึ้นมาและดึงลอยขึ้น แล้วผลักไปที่ชายอีกคนหนึ่งที่ใบหน้าเรียบเฉย นางถูกแบกไปตามทาง และทิ้งลงในพื้นแข็งๆ ดังโครม โอ๊ยยย !!!! ยามนางร้องขึ้นมา เชลยภายในที่เป็นเด็ก และสตรีต่างเร่งขยับมาดูนาง และปลอบขวัญนางเบาๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม