“โอเค ผมเข้าใจแล้ว ผมขอเตือนคุณไว้ก่อน เรื่องของผมและดวงดาวของผมต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามบอกใครเด็ดขาด พี่สาว หลานสาว หลานชาย หรือเพื่อนของคุณจะต้องไม่รู้เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณกลายเป็นเหมือนพวกเขา” คนตัวโตขู่แล้วชี้ไปที่ภาพบนหน้าจอซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสยดสยอง
“ได้อยู่แล้วค่ะ แต่คุณโจฮันต้องเล่ามาก่อนว่าคุณมาจากไหน มาทำอะไรที่นี่ และที่นั่นเกิดอะไรขึ้น”
คำถามของมัดมุกทำเอาโจฮันนิ่งไปสักพักใหญ่ พลางใช้ความคิดอย่างหนัก จะเอาอย่างไรดีกับหญิงสาวที่บังเอิญมารู้ความลับของตน
ปล่อยไปก็กลัวจะมีปัญหา เอาไว้กับตัวก็กลัวจะเกิดปัญหาอีกเหมือนกันไม่ว่าทางซ้ายหรือทางขวาก็เจอปัญหาอยู่ดี
คิดไปคิดมาเขาก็ตัดสินใจบอกว่าตนเป็นใคร มาจากไหน และมาที่นี่ทำไม แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคนบนดาวปิตูเรสบ้านเกิด ทำให้คนที่ตั้งใจฟังอดโมโหขึ้นมาไม่ได้ รู้สึกโกรธแค้นไอ้คนชั่วคนนั้นเป็นอย่างมาก ประหนึ่งว่าตนเองคือชาวปิตูเรสก็ไม่ปาน
ใบหน้าของมัดมุกจึงแดงก่ำด้วยความโมโห ก่อนจะลุกขึ้นมายืนแล้วมองเข้าไปในดวงตาของโจฮันด้วยความแน่วแน่ตั้งใจ
“เอาเป็นว่า นับจากนี้ต่อไปมุกจะเป็นคนช่วยคุณโจฮันเอง”
“ช่วย? คุณจะช่วยอะไรผม”
“ช่วยตามหาคนร้าย และช่วยปกปิดความลับเรื่องที่คุณโจฮันเป็นมนุษย์ต่างดาวไม่ให้ใครรู้ด้วย”
“ไม่ต้องหรอก ผมช่วยเหลือตัวเองได้ ขอแค่คุณอยู่เงียบ ๆ ทำเป็นไม่รู้อะไรก็พอ”
“ไม่ได้ค่ะ ในฐานะที่มุกเป็น FC มนุษย์ต่างดาว มุกต้องช่วยคุณโจฮัน”
“แต่ผมไม่…” / “ห้ามปฏิเสธ ถือว่ามุกกำลังช่วยโลกของตัวเองจากผู้ร้ายนอกโลกก็ได้ค่ะ อีกอย่าง ถือว่านี่คือน้ำใจของพวกเราชาวโลกที่พึงมีต่อเพื่อนบ้านอย่างดาว…เอ่อ…ดาวอะไรนะคะ เรส ๆ มุกจำชื่อไม่ได้”
“ปิตูเรส”
“นั่นแหละค่ะ นะคะ ๆ ให้มุกช่วยเถอะ พลีสสสสส”
“เฮ้อ ก็ได้ ๆ ผมยอมให้คุณช่วยผมก็ได้ แต่ผมมีเงื่อนไข”
“เงื่อนไขอะไรคะ มุกยินดีทำตามทุกอย่าง”
“คุณต้องมาอยู่กับผมที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ และอยู่ในสายตาของผมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“มาอยู่ที่บ้านหลังนี้! ยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“ใช่ ในฐานะคนรับใช้”
“คนรับใช้!”
ตกดึกนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนเป๊ะ มัดมุกยังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ด้วยความสับสนจะเอาอย่างไรกับชีวิตดีกับเงื่อนไขของโจฮัน
สุดท้ายก็ตัดสินใจลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปตรงระเบียง ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าอย่างคนคิดหนัก อยู่ ๆ ภาพคนบนดาว
ปิตูเรสก็ลอยเข้ามาในสมอง
ถึงแม้เธอจะไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจที่จะอยู่นิ่ง ๆ แล้วปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ใบหน้าของมัดมุกเริ่มผ่อนคลายเมื่อตัดสินใจแล้วว่าเธอจะช่วยเขา และยอมทำตามเงื่อนไขที่โจฮันต้องการ อีกอย่างก็เพื่อชาวโลกด้วย
ถ้าไวรัสตัวนั้นหลุดออกมาระบาดบนโลกใบนี้ รับรองตายหมู่แบบไม่เหลือซาก ขนาดชาวปิตูเรสที่โจฮันอวดนักอวดหนาว่าฉลาดยิ่งกว่าอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วคนบนโลกของเธอจะรอดเหรอ ยิ่งมีคนฉลาดเหลือไม่กี่คนเอง
“ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นไงเป็นกัน”
มัดมุกเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง แล้วเอาโทรศัพท์มาส่งข้อความหาเขาเพื่อให้คำตอบ แต่คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะตอบกลับมาเพราะมันดึกแล้ว
Mudmook : คุณโจฮันคะ มุกมีคำตอบแล้วค่ะ
Johun : ว่ายังไงครับ
Mudmook : อ้าว ยังไม่นอนอีกเหรอคะ
Johun : ผมรอคำตอบของคุณอยู่
Mudmook : อ้อค่ะ มุกยอมทำตามเงื่อนไขค่ะ
Johun : แน่ใจนะครับ ถ้าก้าวเข้ามายุ่งเรื่องนี้แล้ว คุณจะเปลี่ยนใจไม่ได้อีกเลย
Mudmook : ไม่เปลี่ยนใจค่ะ มุกยินดีช่วยคุณโจฮันเต็มที่ในฐานะ FC อิอิ แล้วคุณโจฮันจะให้มุกย้ายไปวันไหนคะ
Johun : พรุ่งนี้เช้า
Mudmook : พรุ่งนี้เช้า!
Johun : ครับ แล้วผมจะรอ
Mudmook : แต่มันเร็วไปนะคะ มุกยังไม่ทันตั้งตัว
Johun : หรือจะมาคืนนี้? ผมพร้อมไปรับคุณ
Mudmook : โอเคค่า พรุ่งนี้ดีกว่าเนอะ นอนหลับฝันดีนะคะ มุกง่วงแล้ว ฮ้าวววว ขอตัวไปนอนก่อน สวัสดีค่ะ
Johun : ครับ
ข้อความที่โจฮันส่งไปนั้นขึ้นมาว่า Read แต่ไม่มีการตอบกลับมา ทำให้ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ตรงมุมปากด้วยความรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูกที่ได้กลั่นแกล้งแม่สาวใจกล้าผู้มีน้ำใจงามอย่างมัดมุก
ก่อนจะนึกอะไรดี ๆ ออกจึงเดินเข้าไปยังห้องลับของตนเอง จากนั้นก็เอาเครื่องมือสุดล้ำที่มีชื่อว่า Hiden ออกมา ซึ่งประกอบด้วยนาฬิกาข้อมือสีดำและรองเท้าหุ้มส้นสีดำ ซึ่งคุณสมบัติของมันคล้าย ๆ กับคอปเตอร์ไม้ไผ่ของโดราเอมอน ทำให้เขาลอยขึ้นไปบนอากาศได้
แต่ Hiden ดีกว่าตรงที่ไม่มีเวลาจำกัดในการใช้งาน เขาจะใช้นานแค่ไหนก็ได้ เพราะขับเคลื่อนด้วยระบบบลูทูธคุณภาพสูง แต่มันก็มีข้อเสียเหมือนกันตรงที่ต้องใช้นาฬิกาเป็นตัวควบคุมรองเท้า หากนาฬิกามีปัญหาทุกอย่างก็จบ
หลังจากที่โจฮันสวมอุปกรณ์สุดล้ำเสร็จเรียบร้อยก็มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ของหญิงสาวทันที แต่เรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อเขาเห็นใครบางคนกำลังใช้ Hiden หายเข้าไปในตึกร้างซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตน
โดยไม่ต้องสืบให้เสียเวลาว่าเป็นใคร เพราะคนที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ได้ต้องมาจากปิตูเรสเท่านั้น
“เอเดอริก เกรเกอร์ไวท์ เจอกันสักทีนะ หึ ๆ”