บทที่ 5 เบาะแสคนร้าย (1)

974 คำ
โจฮันตามคนร้ายมาที่ตึกร้างด้วยความรวดเร็ว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเอเดอริกไหวตัวทันแล้วหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ชายหนุ่มหัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อเดินไปตรงซอกตรงมุมไหนก็ไม่เจอความผิดปกติ จึงตัดใจกลับบ้านของตนเอง และไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปสั่งเลขาฯ ให้ตรวจสอบข้อมูลแถวนี้ด้วย “ให้มันรู้ไป เราต้องได้เจอกันเร็ว ๆ นี้ เอเดอริก” เอ่ยลอดไรฟันก่อนจะล่าถอยแล้วกลับบ้านด้วยความหัวเสีย ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความดุดันจนน่ากลัว เอเดอริกที่หลบซ่อนอย่างมิดชิดจึงค่อย ๆ เดินออกมาเมื่อเห็นแผ่นหลังของโจฮันหายไปจากสายตาพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่สามารถหลบซ่อนตัวได้สำเร็จอีกครั้ง “อีกไม่นานหรอก มันใกล้สำเร็จแล้ว” เขายิ้มร้ายในขณะที่เดินไปยังตึกร้างที่อยู่ไม่ห่างกันมาก จากนั้นก็กดรีโมตควบคุมประตูเข้าออกห้องใต้ดิน ครู่เดียวพื้นปูนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรก็ค่อย ๆ เปิดออกพร้อมกับบันไดหลายขั้น ชายหนุ่มจึงเดินลงไปตามทางพลางกดปิดรีโมตอีกครั้ง ทำให้พื้นปูนกลับมาเรียบเหมือนเดิม ภายในห้องใต้ดินแห่งนี้มีอุปกรณ์ทันสมัยอยู่เต็มไปหมด ถ้าบอกว่าที่นี่คือสถานที่ถ่ายทำหนังหรือซีรีส์เกี่ยวกับงานวิจัยก็คงมีคนเชื่อ เพราะมองไปมุมไหนก็มีแต่อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ทั้งกล้องจุลทรรศน์ ขวดแก้ว ขวดสีชา และอีกหลากหลายชนิดที่เอาไว้ใช้ในห้องปฏิบัติการรวมถึงสารเคมีชนิดต่าง ๆ ด้วย “ทำไมไปนาน ผมนึกว่าคุณถูกคนของนายโจฮันจับได้ซะอีก” เจสัน คอร์ด หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ หันมาสอบถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเอเดอริกกลับมา หลังจากที่เอเดอริกได้ออกไปรับของสำคัญจากนายทุนใหญ่ของตนตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันและเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ “ก็เกือบโดนแล้ว โชคดีที่ผมไหวตัวทัน ว่าแต่คุณเถอะ วิจัยไปถึงไหนแล้ว” ชายผู้มาจากต่างดาวเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ มุมปากกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อคิดถึงโจฮัน สายตาของเขาหันไปเห็นการทดลองบนโต๊ะพอดีจึงเอ่ยถามถึงความคืบหน้า “ไม่สำเร็จ ผลออกมายังเหมือนเดิม” คำตอบของเจสันทำเอาเอเดอริกสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “เราต้องเร่งมือหน่อย ดูเหมือนไอ้โจฮันมันกำลังเร่งมือตามหาผม” “ผมจะพยายาม ไหนล่ะของที่ผมต้องการ คุณเอามาได้ไหม” “ได้ อยู่ในกระเป๋าใบนี้ เอาไปสิ” เจสันรับกระเป๋าสีดำจากเอเดอริกมาเรียบร้อยก็รีบเปิดออก ก่อนรอยยิ้มพึงพอใจจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อร้าย เพราะสารเคมีที่เขาต้องการและหายากมากอยู่ในกำมือแล้ว สถานีต่อไปคือลงมือทำและทดลองจนกว่าผลงานชิ้นนี้จะสำเร็จ อีกไม่นานคนบนโลกใบนี้ต้องจดจำชื่อของเขาไปจนวันตาย เจสัน คอร์ด นักวิทยาศาสตร์ผู้พัฒนาวัคซีนโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และกลายเป็นฮีโร่ของมนุษย์โลกที่สามารถคิดค้นยารักษาโรคมาให้ทุกคนได้ แม้ในความเป็นจริงเขาจะเป็นผู้ร้ายก็ตาม เอเดอริกยืนมองการทำงานของคู่หูด้วยสายตาเรียบนิ่ง สมองหวนย้อนคิดไปถึงวันที่เขาได้เจอกับเจสันเมื่อสองปีก่อนด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน วันนั้นเขาหนีการไล่ล่ามาจากดาวปิตูเรสพร้อมอาการบาดเจ็บ เมื่อมาถึงดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า โลก ก็ได้นำยานอวกาศที่ตนใช้โดยสารไปลงจอดบนภูเขา ที่ที่เคยจอดเป็นประจำเวลามาเที่ยว แต่ใครจะไปรู้ว่าบนเขาแบบนั้นจะมีคนกำลังหาบางสิ่งเพื่อเอาไปทำสิ่งไม่ดี ตอนนั้นเจสันขึ้นไปหาต้นไม้พิษที่มีอยู่เฉพาะบนภูเขาสูงเพื่อนำมาวิจัยและพัฒนาเป็นอาวุธร้าย ในขณะที่กำลังหาสิ่งที่ตนเองต้องการอยู่นั้น บังเอิญสายตาก็หันไปเห็นยานอวกาศลงจอดบนพื้นพอดิบพอดี และได้เห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์เดินออกมา เขาตกใจเป็นอย่างมากแต่ยังมีสติพอ เมื่อเห็นว่าคนที่เดินออกมามีอาการบาดเจ็บจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ และซักถามชายหนุ่มที่มาจากต่างดาวละเอียดยิบ จึงรู้ว่าเอเดอริกเป็นใคร มาจากไหน และมาทำไม “ผมจะเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ แลกกับการที่คุณต้องให้ผมมีส่วนร่วมพัฒนาวัคซีน” ประโยคที่ออกจากปากของเจสันทำเอาเอเดอริกนิ่งไปหลายวินาที แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้า เพราะรู้ดีว่าเขาต้องพึ่งพาใครสักคนบนดาวดวงนี้ หากต้องการให้สิ่งที่ตั้งใจทำประสบความสำเร็จ และเจสันดูเหมาะสมที่สุดในการช่วยเหลือตน นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เขากับเจสันก็ลงเรือลำเดียวกัน ภายใต้ความกระหายชัยชนะโดยไม่สนใจถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นแม้แต่น้อย “อีกไม่นานเราก็จะได้ใช้มันแล้ว” “ใช่ อีกไม่นาน” ชายสองคนมองไปยังขวดแก้วที่มีน้ำสีใสอยู่ข้างใน ก่อนจะหันไปมองภาชนะที่บรรจุเชื้อร้ายแล้วยิ้มมุมปาก จากนั้นต่างคนก็ต่างไปทำหน้าที่ของตนเองด้วยความมุ่งมั่นว่ามันจะสำเร็จในเร็ววัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม