เรื่องคนร้ายดูเหมือนจะไม่คืบหน้า แต่เรื่องความสัมพันธ์ดูเหมือนจะไม่ใช่ เมื่อสองหญิงชายมีความใกล้ชิดกัน มิหนำซ้ำยังอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน
เช้าเจอหน้า เย็นเจอหน้า กลางวันยังเจอกันอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้หัวใจของพวกเขาหวั่นไหวได้อย่างไร
“มุก มัดมุก มัวแต่มองคุณโจฮันอยู่นั่นแหละ เป็นอะไรเนี่ย” เสียงเรียกมาจากทางด้านหลัง แต่หญิงสาวไม่สนใจเพราะมัวแต่มองเจ้านายหนุ่มที่เพิ่งเดินจากไปเมื่อสักครู่
หลังจากที่เขามาคุยเรื่องงานกับหัวหน้าเสร็จ หัวใจของเธอกำลังเต้นแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้เห็นการปรากฏตัวของเขา ทั้งที่เจอกันอยู่ทุกวันในบ้านหลังใหญ่
“มุกเป็นอะไร มุก” บดินทร์เรียกซ้ำด้วยความเป็นห่วงพลางสะกิดที่ต้นแขนเพื่อให้เธอรู้สึกตัว
“พี่บอสเรียกมุกเหรอคะ” คนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหันกลับไปมองรุ่นพี่ที่กำลังขมวดคิ้วจ้องมองตน
“ใช่ พี่ถามว่าเราเป็นอะไรไหม ทำไมมองท่านประธานแบบนั้น”
“อ้อ เปล่า ๆ ไม่ได้เป็นอะไร แล้วพี่บอสมีอะไรถึงได้เรียกมุกเสียงดังเชียว”
“พี่เรียกเราเบา ๆ แล้วแต่เราไม่ได้ยิน”
“ตกลงเรียกมุกทำไม มีอะไรเหรอ”
“พี่จะถามว่าเย็นนี้ว่างไหม จะชวนไปกินข้าว”
“เย็นนี้เหรอ อืม ว่างค่ะ มุกไม่ได้ไปไหน ไม่ทำโอทีด้วย”
“งั้นดีเลย เลิกงานแล้วเราไปหาอะไรกินกันนะ แถว ๆ บ้านมุกก็ได้เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
เพื่อนรุ่นพี่ของหญิงสาวเอ่ยชวนด้วยความตื่นเต้น เพราะตนนั้นชอบรุ่นน้องคนนี้มานาน แต่ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึก มัดมุกมีความลังเลว่าจะตอบตกลงหรือปฏิเสธ
ใจหนึ่งก็อยากกลับบ้านเร็ว ๆ แต่อีกใจก็ไม่กล้าปฏิเสธเพื่อนร่วมงาน พอเห็นใบหน้าของบดินทร์แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะตอบตกลง ในจังหวะที่กำลังจะพูดออกมา อยู่ ๆ เจ้านายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกไปจากแผนกก็เดินกลับเข้ามาใหม่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ท่านประธานมีอะไรจะสั่งเพิ่มเติมเหรอครับ”
“ไม่มีครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับมัดมุก”
“คุณโจฮันมีเรื่องอะไรจะคุยกับมุกเหรอคะ”
“ไปคุยกันที่ห้องของผม”
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าแบบงง ๆ ก่อนจะก้าวเท้าตามหลังเจ้านายที่ดูนิ่งเงียบกว่าปกติไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสงสัยของบดินทร์ที่รู้สึกว่าสองคนนี้มีอะไรแปลก ๆ เพราะเรื่องที่มัดมุกไปอาศัยอยู่ที่บ้านของโจฮันยังไม่มีใครรู้
แม้กระทั่งอิงลดาเพื่อนสนิทของหญิงสาวที่กำลังมองบดินทร์ด้วยความสงสาร เนื่องจากรู้ดีว่าชายหนุ่มแอบชอบเพื่อนของตนตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษัทใหม่ ๆ เมื่อหลายปีก่อนแต่เขาไม่กล้าสารภาพรัก
“พี่บอสกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” อิงลดาเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นรุ่นพี่ขมวดคิ้วราวกับมีเรื่องต้องคิดหนัก บดินทร์เอียงคอซ้ายทีขวาทีคล้ายไม่ได้ยินในสิ่งที่หญิงสาวถามจึงไม่ตอบ
“พี่บอส ทำไมไม่ตอบ เป็นอะไรไหมเนี่ย” เธอสะกิดเขาที่แขนเบา ๆ บดินทร์ถึงได้รู้สึกตัว แล้วหันมามองคนตัวเล็กด้วยท่าทางงง ๆ ก่อนตั้งคำถาม
“อ้าว อิงมาตอนไหน มีอะไรกับพี่เหรอ”
“มานานแล้วค่ะ อิงถามว่าทำไมทำหน้าแบบนั้น มีอะไรรึเปล่า”
“อ้อ พี่กำลังสงสัย มุกกับเจ้านายดูสนิทกันยังไงก็ไม่รู้”
กระซิบบอกเธอเบา ๆ เพราะกลัวมีใครได้ยินในสิ่งที่ตนสงสัยพลางมองซ้ายมองขวาทำราวกับว่ามันคือความลับใหญ่ก็ไม่ปาน อิงลดาจึงส่ายศีรษะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำถามไร้สาระของบดินทร์ที่ยังทำหน้าทำตาคิดหนักไม่เลิก
“คิดมากไปแล้วค่ะ เจ้านายกับยัยมุกจะไปสนิทกันได้ยังไง แค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นแหละ”
“อืม คงงั้นแหละเนอะ พี่คิดเยอะไปเองแหละ พี่กำลังชวนมุกไปกินข้าวเย็น แต่มุกยังไม่ได้ให้คำตอบเลย”
“เดี๋ยวนางกลับมาพี่ค่อยถามอีกครั้งก็ได้ ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมง”
ในขณะที่อิงลดากำลังพูด โทรศัพท์ของบดินทร์ก็มีข้อความส่งเข้ามา ชายหนุ่มจึงกดเข้าไปอ่าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกคนตัวเล็กด้วยท่าทางเศร้าสร้อยคล้ายคนอกหัก
“ไม่ต้องถามแล้ว มุกไลน์มาบอกพี่ว่าเย็นนี้ไม่ว่างแล้ว มีธุระด่วน”
“อ้าวเหรอ แล้วพี่บอสจะเอายังไง”
“ไม่รู้เหมือนกัน พี่คงไปกินข้าวคนเดียว”
“เอางี้ ยัยมุกไม่ว่างแต่อิงว่างค่ะ ถ้าพี่ไม่รังเกียจเดี๋ยวอิงไปแทนเอง ไหน ๆ บ้านของเราสองคนก็อยู่ทางเดียวกันแล้ว”
“ไม่รังเกียจอยู่แล้ว ถ้าอิงว่างพี่ก็โอเค ดีกว่าไปนั่งกินข้าวคนเดียว”
“โอเค งั้นเจอกันเย็นนี้นะคะ”
อิงลดายิ้มหวาน ก่อนจะเดินกลับไปนั่งโต๊ะของตนเองเพื่อลงมือทำงานต่อให้เสร็จ
ในขณะที่บดินทร์ยังยืนอยู่จุดเดิมและไม่คลายความสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาว ซึ่งเขารู้สึกมาสักพักแล้วว่ามันแปลก ๆ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อสองคนนั้นคือเจ้านายกับลูกน้องอย่างที่อิงลดาบอก หรือเขาจะคิดมากไปจริง ๆ
“ไม่มีอะไรหรอก มึงคิดมากไปเองไอ้บอส” เขาพึมพำและส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนเอง จากนั้นก็เริ่มทำงานที่ค้างคาทันที แต่ในใจก็ยังคิดเรื่องของสองหนุ่มสาวคู่นั้นเหมือนเดิม