หลายวันผ่านไปเขาก็มาทำงานเหมือนอย่างปกติ ส่วนหลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอแจนเลยเพราะเหมือนหญิงสาวไม่ค่อยว่าง เห็นว่าไปเรียนรู้งานที่บริษัทและเย็นนี้ได้ถือโอกาสนัดทานข้าวกันอีกวัน เขาจะเปิดใจและลองคุยกับเธอใหม่อีกครั้ง แต่ถ้านิสัยยังเหมือนเดิมคงต้องคุยกันใหม่อีกที
"อ่าวหนูนิด จะไปไหนกันคะ"
"ไปทานข้าวค่ะ ไปด้วยกันมั้ยคะ พอดีว่าหนูนิดจะไปอุดหนุนเพื่อนพอดีไปด้วยกันหลายคนสนุกนะคะ"
"เอาสิพี่ไปด้วย"
เจมส์ที่กำลังจะออกไปหาอะไรทานช่วงกลางวันก็ตามหนูนิดและคนอื่นๆไปด้วย เขาไปเห็นไอจีของแจนแล้วเจอภาพถ่ายของสองคนด้วยกัน เขาจึงรู้ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากและหนูนิดก็บอกว่าเพื่อนเธอเป็นคนน่ารักและนิสัยดีมาก ถ้าจะบอกว่าร้ายคงไม่ใช่แน่นอนซึ่งมันทำให้เขาอยากรู้จักเด็กคนนี้มากขึ้นไปอีก
"ร้านไหนคะ"
"นั่งไปกับหนูนิดมั้ยคะ ไปด้วยกันเลยเปลืองน้ำมันค่ะ"
"ได้สิ งั้นพี่ขับให้"
เจมส์ หนูนิดและคนอื่นๆนั่งรถไปด้วยกันใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงร้านที่เธอจองไว้ เจมส์นิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะมันเป็นร้านเดียวกับที่แจนเคยทำวีรกรรมไว้ในครั้งแรกที่เราสองคนมาเจอกัน
"ร้านเพื่อนหนูเหรอ"
เจมส์เอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ หนูนิดพยักหน้าก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"ค่ะ เพื่อนสมัยเรียนมัธยมแล้วค่ะ เพื่อนปาร์ตี้ของแจนเลยนะสองคนนั้นไปไหนกันบ่อยมาก ถ้าพี่เจมส์ได้เจอแจนบ่อยๆยังไงต้องพามาที่นี่แน่นอน"
"แสดงว่าแจนสนิทกับคนที่นี่มาก"
เจมส์เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว แสดงว่าเธอมาที่นี่บ่อยเพราะเราสองคนเจอกันครั้งแรกก็มาที่นี่อย่างที่หนูนิดเคยพูด
"ค่ะ พนักงานที่นี่รู้จักแจนหมดเพราะนางมาบ่อย เข้าไปกันเถอะค่ะ"
เขาเดินตามหนูนิดไปข้างในก่อนจะมองสำรวจทั่วร้านก็เจอกับพนักงานคนที่เคยทำน้ำหกใส่แจน อ่าว... แล้วไหนบอกว่าผู้จัดการไล่ออกไปแล้วไง นี่ตกลงมันยังไงกันเนี้ย
"พี่เจมส์สั่งอาหารเลยค่ะ"
"หนูนิดสั่งเลยพี่ทานได้หมดแหละ"
หนูนิดพยักหน้าก่อนจะสั่งเมนูง่ายๆเผื่อพนักงานคนอื่นๆด้วยจะได้ทานด้วยกัน ร้านนี้เป็นร้านของวิวเพื่อนของเธอและแจนสมัยเรียนตั้งแต่มัธยม แต่ด้วยความที่คุณป๋าค่อนข้างหวงเธอมากจึงสนิทกับเพื่อนคนอื่นไม่มากเท่ากับแจนที่คุณพ่อคุณแม่ตามใจออกไปไหนก็ได้ เจมส์ที่นั่งงงเท้าคางมองพนักงานคนนั้นอย่างสงสัยก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วว่า ถ้าเกิดเธอสนิทกับพนักงานในร้านจริงๆแสดงว่าต้องแกล้งเล่นละครใส่เขาแน่นอน ถ้าไม่ได้แกล้งพนักงานคนนั้นคงไม่ได้ทำงานที่นี่ต่อ
'แล้วเธอจะทำแบบนั้นทำไมล่ะ...'
เขาหยุดความสงสัยไว้ก่อนจะนั่งทานข้าวที่พนักงานเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ คนในโต๊ะเริ่มประเด็นการสนทนาไปในเรื่องงานมากกว่าจนเขาลืมคิดถึงเรื่องที่ยังสงสัย
ตกเย็นหลังจากที่เขากลับมาทำงานอีกครั้งก็ได้ออกมาตามนัดอีกรอบไม่ใช่ว่าพวกเขาอยากจะนัดเจอกันแต่ครอบครัวเป็นคนนัดให้เอง
เจมส์นั่งรอแจนอยู่ตรงม้านั่งตรงบันไดทางขึ้นชั้นสามของห้าง หญิงสาวที่เจอชายหนุ่มพอดีก็กระแอมเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงเข้าไปหา
"สวัสดีค่ะ"
แจนยกมือไหว้ชายหนุ่ม ยังไงเธอก็เด็กกว่าเขาเยอะมากการเคารพผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ทางบ้านสอนมาตั้งแต่เด็ก เจมส์เงยหน้ามองเธอก่อนจะยิ้มออกมาอย่างคนเป็นมิตร
"สวัสดีค่ะ"
"รอนานมั้ยคะพอดีว่าไปทำงานมาค่ะ มีประชุมด้วยก็เลยออกมาช้า"
"ไม่นานหรอกค่ะ ไปหาอะไรกินกันมั้ยนี่มันเย็นมากแล้วด้วย"
แจนพยักหน้าก่อนจะเดินนำชายหนุ่มเช้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง จะทำแบบเดิมไม่ได้แล้วเพราะร้านนี้เธอไม่รู้จักใคร ขืนร้ายออกมาเดี๋ยวเป็นข่าวกันวุ่นวายอีก ยังไงเธอต้องรักษาภาพพจน์ของตัวเองกับสื่อ เพราะที่บ้านมีธุรกิจซึ่งถ้าเธอทำชื่อเสียงของครอบครัวพังมันกระทบหลายอย่าง
"ทานอาหารอิตาเลียนแล้วกันนะคะ"
"ค่ะ หนูสั่งเลยนะ"
แจนหยิบเมนูมาสั่งสองอย่างก่อนจะเท้าคางมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้า เจมส์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอพอดีก็มองเธออย่างสงสัย
"มีอะไรรึเปล่าคะ"
"พี่เจมส์ไม่มีแฟนเหรอคะ เอาจริงๆวัยพี่ควรมีได้แล้วอ่ะ ถ้ามีบอกกันเลยนะแจนเชื่อว่าพวกผู้ใหญ่ไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ"
เธอพยายามหลอกถามเขาหลายอย่าง บางทีเขาอาจจะมีผู้หญิงซุกซ่อนไว้ก็ได้แต่ด้วยความที่ผู้ใหญ่บังคับต้องปกปิดไว้เหมือนละครหลังข่าวอะไรแบบนี้อ่ะ
"ทำไมถึงคิดว่าพี่จะมีคะ"
เจมส์ย้อนถามอย่างสงสัย วัยแบบนี้นี่จะโสดไม่ได้เลยเหรอ... นี่สามสิบสี่ปีนะไม่ใช่ห้าสิบกว่าช่วงเวลาอายุเท่านี้ใครๆเขาก็โสดกันทั้งนั้นแหละ
"ก็ไม่รู้สิคะ แจนแค่ไม่อยากมารู้ทีหลัง อย่างน้อยก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไปเราสองคนควรจะได้เรียนรู้กันก่อนไม่ใช่เหรอคะ"
"แต่พวกผู้ใหญ่หาฤกษ์ให้เราสองคนแล้วนะ คุณพ่อหนูไม่ได้บอกเหรอ"
แจนตาโตอย่างตกใจ ล่าสุดคือคุณพ่อให้มาเจอพี่เขาให้บ่อยที่สุดทุกวันเลยยิ่งดีจะได้รู้จักกันมากขึ้นเขาบอกแค่นั้นจริงๆ
"พี่กำลังพูดเพื่อแกล้งอยู่ใช่มั้ย"
"ไม่นะ โทรศัพท์ไปถามสิพี่รู้เพราะแม่พี่บอกเมื่อวานว่าวันนี้พวกท่านนัดกันไปหาหลวงพ่อที่วัด และเท่าที่ทราบน่าจะแต่งภายในเดือนนี้ด้วย"
เจมส์เท้าคางมองเธอด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก เขาไม่ได้โกหกเพราะพวกผู้ใหญ่ต้องการให้เราสองคนแต่งงานกันให้ไวที่สุดซึ่งพอรู้เหตุผลมาว่าเด็กน้อยตรงหน้าค่อนข้างต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้มาก แค่สงสัยว่าเขาไม่ดีตรงไหนเธอถึงไม่อยากแต่งงานด้วยถึงต้องแสดงออกร้ายๆมากขนาดนี้
"คุณพ่อนะคุณพ่อ"
แจนเริ่มกุมขมับด้วยสีหน้าที่เครียดขึ้น เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะชวนหญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุย
"ว่าแต่น้องแจนชอบเที่ยวที่ไหนมั้ย วันนี้พี่จะพาไปเที่ยว"
แจนเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างระแวง เขามาทำดีกับเธอแปลกๆจนอดสงสัยไม่ได้ว่ามีแผนอะไรรึเปล่า แบบนี้ต้องแกล้งให้เข็ดจะได้อยากหนีเธอไปไกลๆ
"หมายถึงเที่ยวกลางคืนเหรอคะ"
"ใช่... อยากไปนั่งชิวๆที่ไหนมั้ยพี่พาไป"
แจนยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยออกมาเล่นเอาชายหนุ่มสำลักน้ำแทบจะพุ่ง
"ชอบไปเที่ยวบาร์โฮสต์ค่ะ"
แค่กๆๆๆ !!!!
"อะ...อะไรนะ!!!"
"ทำไมคะ ก็สาวโสดแบบแจนก็ชอบไปเที่ยวแบบนั้นแหละ หนุ่มที่นั้นน่าเลี้ยงดูจะตาย"
เธอยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจที่ได้เห็นปฏิกิริยาของเขาที่ทำหน้าตกใจจนอดขำไม่ได้
"พูดเล่นใช่มั้ยคะ"
"เล่นที่ไหนกัน แจนพูดจริงค่ะ"
เขากลืนน้ำลายลงคอดังอึก เด็กคนนี้มันจะแก่นเกินผู้หญิงไปแล้ว นี่เขาจะเจอเธอแผลงฤทธิ์อะไรอีกรึเปล่าไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ...