"ท่ามกลางผู้คนมากมายที่รายล้อมในเมืองแห่งความวุ่นวายแต่กลับมีเพียงชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ใบหน้าคมได้รูป จมูกเป็นสันคมเข้ากับโครงหน้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบชวนมองที่ใครได้สบเป็นอันต้องหลงใหล รวมไปถึงริมฝีปากหยักได้รูปอมชมพูที่ทำให้เธอไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลย"
เจ้าของร่างเล็กของนาราได้แต่อ่านบทความที่สาธยายถึงชายหนุ่มในนิยายที่เธอกำลังอ่านระหว่างทางที่กำลังเดินไปยังร้านกาแฟที่เธอทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียน ใบหน้าสวยน่ารักได้แต่ยิ้มมีความสุขและจินตนาการไปตามบทละครที่ได้ขีดเขียนไว้
"ในชีวิตจริงเราจะได้เจอคนแบบนี้ไหมน่า...ต้องหล่อมากแน่ๆ เลย" หญิงสาวได้แต่พึมพำกับตัวเองพร้อมกับฉายรอยยิ้มสดใสมีความสุขไปกับภาพในจินตนาการของตัวเองในตอนนี้ที่วาดฝันใบหน้าของชายในนิยายเล่มโปรด ก่อนที่เธอจะก้มลงไปดูเวลาในโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองแล้วพบว่า...
"โอ๊ะ!...สายแล้วนารา" ปากเล็กขยับบ่นกับตัวเองเมื่อตอนนี้ใกล้ถึงเวลางานของเธอแล้ว มือเรียวรีบเก็บหนังสือนิยายเล่มโปรดลงไปในกระเป๋านักเรียนแล้วรีบวิ่งหมายจะไปให้ถึงที่ทำงานให้เร็วที่สุด
"...ฟู่วว เหนื่อยจัง" เธอลอบพ่มลมปากเพื่อระบายความเหนื่อยล้าจากการวิ่งมาระยะทางไม่ไกลมาก และตอนนี้เธอได้อยู่ตรงข้ามที่ทำงานเรียบร้อยแล้ว ดวงตากลมโตหันซ้ายขวาตั้งใจที่จะข้ามถนนที่ไม่ได้ใหญ่มากเพื่อที่จะรีบเร่งไปถึงที่ทำงานให้เร็วแต่ทว่า...
ปรี๊นนนนน!
เสียงแตรรถยนต์ที่วิ่งสวนมาบนถนนด้วยความเร็วดังขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ร่างบางที่หันไปตามเสียงนั้นต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่เท้าเรียวจะหยุดชะงักตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองไปที่แสงไฟตรงหน้าของรถยนต์ที่สาดส่องใกล้เข้าหาเธอเต็มทีด้วยลำตัวที่สั่นเกร็ง
พรึ่บ!
แต่แล้วก็มีมือหนาของใครบางคนก็ฉุดดึงร่างของเธอออกมาจากตรงนั้นจนลำตัวของทั้งสองกลิ้งไปมาบนพื้นคอนกรีตทางเท้าหลายตลบ
"..." หญิงสาวร่างบางได้แต่หลับตาปี๋ไปด้วยความสั่นกลัวภายในใจเอาแต่คิดภาพต่างๆ นานาเมื่อคิดว่าตัวเองถูกรถยนต์ชนเข้าแล้ว ทว่าเสียงหนาของใครอีกคนก็ดังขึ้นทำให้ดวงตากลมโตจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองอย่างช้าๆ...
"เป็นอะไรไหม" เสียงทุ้มต่ำของอีกฝ่ายที่เป็นคนช่วยดังขึ้นในระยะประชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนของกันและกัน แต่แล้วร่างเล็กก็ต้องชะงักนิ่งไปอีกครั้งเมื่อสายตาดันไปสบเข้ากับใบหน้าของเขาคนนั้น ใบหน้าที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลของอีกคนที่ไม่สามารถทำให้เธอผละความสนใจไปจากเขาได้เลย
"ฉันถามว่าเป็นอะไรไหม" หญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ก็ต้องสะดุ้งตกใจไปกับน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เปล่งถามเธออีกครั้ง
"เอ่อ...มะ ไม่เป็นอะไรค่ะ" นาราตอบด้วยน้ำเสียงติดขัดก่อนที่ใบหน้าเรียวจะค่อยๆ ฉายรอยยิ้มน่ารักออกมา
"ไม่เป็นอะไรก็ลุก จะนอนทับฉันอีกนานไหม" เสียงคมเข้มของอีกคนพูดขึ้น ทำให้นาราที่พึ่งจะได้สติก้มลงไปดูตัวของเธอจึงทำให้รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังนอนทับบนร่างใหญ่ของเขา นาราไม่รอช้ารีบเร่งลุกขึ้นผละออกจากลำตัวหนาของเขาทันที
"แหะ!...ขอโทษค่ะ" ร่างเล็กที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงรีบโค้งหัวขอโทษเขาไปทันทีก่อนที่เผยรอยยิ้มแห้งๆ น่ารักของเธอแก้ความเขิน
"ทีหลังจะข้ามถนนก็หัดดูรถให้มันดีๆ" ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ลุกขึ้นยืนตามเธอเอ่ยบอกด้วยท่าทีเข้มดุพร้อมกับปัดฝุ่นที่เสื้อสูทดูดีทำให้นาราที่โดนต่อว่าต้องก้มหน้างุดด้วยความกลัว แต่เมื่อจบประโยคนั้นเจ้าของร่างสูงโปร่งก็หันหลังเดินออกไปทันที
"เดี๋ยวค่ะ..." นาราเงยหน้าขึ้นจากพื้นแล้วเอ่ยเรียกเขาที่กำลังจะเดินขึ้นรถไปแต่มันก็ไม่ทันเสียงแล้วเพราะตอนนี้เขาคนนั้นได้ขับรถหรูออกไปเสียแล้ว
"ยังไม่ทันได้ขอบคุณเลย..." ริมฝีปากเล็กพึมพำกับตัวเองแล้วมองตามรถหรูที่ขับออกไปด้วยความรวดเร็ว แต่แล้วคนตัวเล็กก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อ...
"สายแล้วนารา!" เธอหันไปทางที่ทำงานทำให้นึกขึ้นได้ว่ามันเลยเวลางานของเธอมาแล้ว ดวงตากลมโตไม่รอช้าหันซ้ายขวาไปมองรถยนต์ที่วิ่งสวนกันบนถนนอีกครั้ง คราวนี้คนตัวเล็กก็ตั้งใจดูรถที่สัญจรไปมาเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อครู่อีก
"อ้าวนารา...ทำไมวันนี้ถึงมาสายล่ะ" นุ่นหญิงสาวรุ่นพี่ที่ทำงานเอ่ยถามเธอที่พึ่งจะเปิดประตูเข้ามาด้วยความรีบร้อน
"พอดีว่าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะพี่นุ่น"
"แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม" เจ้าของคำถามก็รีบเร่งเดินมาหารุ่นน้องสาวทันทีที่ได้ยิน
"ไม่เป็นไรค่ะพี่นุ่น มีคนมาช่วยหนูไว้"
"เฮ้อ...โล่งอกไปหน่อย ไม่ระวังเหมือนเดิมเลยเรา"
"แหะ!..." นาราก็ยิ้มตอบอย่างไม่มีอะไรแก้ตัว
"ไปทำงานเถอะ วันนี้พี่เมฆไม่ได้เข้า" นุ่นเอ่ยบอกเธอซึ่งเมฆที่ว่าก็คือเจ้าของร้านกาแฟที่เธอทำงานอยู่ตอนนี้
"งั้นนาราไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ" หญิงสาวตัวเล็กตอบรุ่นพี่สาวด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหมุนตัวไปเปลี่ยนเป็นชุดยูนิฟอร์มของทางร้านแล้วรีบเร่งมาทำงานทันที