ตอนที่ 3
ปารีส
มาเฟียหนุ่มประคองคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียลับของเขา เข้ามาภายในคฤหาสน์ หล่อนถึงกับสะดุ้งเมื่อประตูห้องปิดสนิท พร้อมกับร่างสูงและหน้าตาคมเข้มตัดกับผิวขาวใสที่ดูอ่อนกว่าวัยของชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าเจ้าของบ่อนกาสิโนที่ใหญ่สุดในกรุงปารีส
“กลัวอะไร ฉันไม่ใช่ยักษ์ใช่มารสักหน่อย” น้ำเสียงของเขาดุดัน
“ขอโทษค่ะ” พิมพ์รภัสเสียงสั่น
“มาสิ..ทำเหมือนไม่เคยไปได้ นาน ๆ ฉันถึงจะมาให้ความสุขเธอได้สักครั้ง” พูดเสร็จมาเฟียหนุ่มก็ผลักร่างบางให้หงายหลังลงไป ก่อนจะถลกกระโปรงผ้าไหมที่สั้นเหนือเขาขึ้นไปไว้บั้นเอว หญิงสาวรีบพาร่างบาง ๆ ของตัวเอง เคลื่อนหนีไปอย่างรวดเร็วอยู่กลางห้อง
พิมพ์รภัสต้องมาอยู่ที่นี่ในฐานะ ‘ผู้หญิงคนหนึ่ง’ ของมาเฟียเจ้าของบ่อน เป็นนกน้อยในกรงทอง อยากได้อะไรก็แค่บอกเขา และเมื่อหล่อนเรียนจบเขาก็ให้อำนาจดูแลบ่อนกาสิโนเวลาที่เขาไม่อยู่ ไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นนอกจาก...หน้าที่ของตัวเอง เขาบอกว่าถ้าเบื่อหล่อนเมื่อไรแล้วก็จะปล่อยไป แต่นี่ก็ผ่านมาหลายปี ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเขาจะปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระ
พิมพ์รภัสไม่เถียงว่าเขาคือผู้มีพระคุณของเธอ ในตอนนั้นบิดาของพิมพ์รภัสติดหนี้การพนัน และตัวเธอเองกำลังจะถูกเอาไปขายให้กับนายทุนคนหนึ่ง แต่ชญานนท์ก็ยื่นข้อเสนอด้วยเงินจำนวนมากเพื่อแลกซื้อตัวเธอมาอยู่ที่นี่จากบิดาของเธอ
ในตอนนั้นจำได้ว่าพิมพ์รภัสยังเรียนอยู่มัธยมปลาย หล่อนเลยต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ล่าสุดหลังจากที่กลับไปเมืองไทยตามที่ชญานนท์สั่ง พิมพ์รภัสก็ต้องเสียใจที่เห็นชญานนท์มีดาราสาวข้างกาย หนำซ้ำใช้คลิปเธอเป็นตัวทำให้นางเอกคนนั้นยอมจำนนท์ต่อเขาด้วยประการทั้งปวง
พิมพ์รภัสไม่ได้โลภ หรืออยากได้เงินทองของเขาแต่อย่างใด ที่ชีวิตเธอมาอยู่ที่นี่มันเริ่มต้นจากคุณพ่อของเธอล้มละลายแล้วกลายเป็นหนี้หลังจากนั้นบิดาของเธอก็หันไปเล่นการพนัน
อาที่เป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของพิมพ์รภัสก็ถูกเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนโกงไปอีก
บิดาของเธอจึงไร้ซึ่งหนทางและหันไปกู้ยืมหนี้นอกระบบ เลยทำให้เป็นหนี้สินและดอกเบี้ยก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ มิหน่ำซ้ำบิดาของเธอก็ยังมาติดการพนันจนถูกเจ้าหนี้ยึดบ้านไปอีก ถ้าไม่มีชญานนท์ช่วยเอาไว้เธอก็แทบจะไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอนแถมยังจะถูกขายให้นายทุนคนนั้นอีก แต่แล้วสุดท้ายต่อมาบิดาของเธอก็ถูกปลิดชีพไปจนได้โดยนายทุนคนนั้น เพราะเขาโกรธที่บิดาของเธอไม่ขายลูกสาวให้
แรก ๆ ชญานนท์ยื่นข้อเสนอให้เธอมาเป็นนางบำเรอของเขาเพื่อชดใช้หนี้ให้คุณพ่อ เธอจึงจำใจ ไม่อยากก็ต้องทำ แต่ชญานนท์ก็หลงรักเธอ และให้ทุกอย่างกับพิมพ์รภัส
ชญานนท์เอนตัวลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่ของตัวเองมองพิมพ์รภัสที่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ที่ปลายเตียง
“ภัส..มานี่สิ”
“คะ” พิมพ์รภัสกลืนน้ำลายลงคอ
“ยังไม่ชินอีกรึไง ต้องใช้เวลาอีกกี่ปีถึงจะปรับตัวได้กัน” หญิงสาวบีบมือตัวเองเบา ๆ รวบรวมกำลังใจ เพราะมันไม่ใช่เหตุผลนั้นสักหน่อย
เธอแค่ไม่พอใจที่เขามีคนอื่นต่างหากหญิงสาวจำใจเดินมานั่งตรงขอบเตียง
ชญานนท์จึงดึงร่างบาง ๆ ของเธอเข้ามาใกล้ ใช้นิ้วสางผมดำสวยของเธออย่างเบามือ
“ถอดเสื้อผ้าฉันออกสิ แล้วก็ของเธอด้วย ” เขาสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาดุดัน พิมพ์รภัสหน้าเป็นสีจัดแต่ก็จัดแจงถอดเสื้อคลุมออกตามที่เขาสั่งเอากองไว้กับพื้นแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มซ่อนรูปใต้บราเซียลายลูกไม้สีขาว
มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปาก จับมือนิ่มของเธอไว้แล้วแกะที่เหลือเนื่องจากว่าไม่ทันใจ เขาดึงเสื้อออกให้พ้นไหล่เนียน และโน้มตัวหญิงสาวเข้ามาใกล้
“จูบผมหน่อยสิ พิมพ์รภัส” พิมพ์รภัสเลื่อนริมฝีปากบางเข้าไปใกล้ริมฝีปากของเขาแล้วบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา
หล่อนไม่กล้ารุกล้ำเข้าไป จึงกลายเป็นชญานนท์ที่เป็นฝ่ายรุกเสียเอง
ชญานนท์พลิกตัวพิมพ์รภัสให้อยู่ใต้ร่างก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากบางลงไปอย่างรุนแรง พิมพ์รภัสเผยอปากรับลิ้นของเขาอย่างคุ้นเคย
ชญานนท์ลูบหลังเนียนของเธอเบา ๆ ลูบจนไปถึงสะโพกแล้วเลื่อนกลับขึ้นมาปลดตะขอบราเซียและกระตุกออกอย่างง่ายดายด้วยความชำนาญ
เขาปลดเสื้อผ้าของพิมพ์รภัสที่เหลือและของตัวเองออกทีละชิ้นจนหมด จากนั้นมาเฟียหนุ่มจึงเริ่มบรรเลงเพลงรักที่เร่าร้อนและรุนแรง
ชญานนท์ลูบต้นขาเนียนของหญิงสาวเบา ๆ ก่อนดึงให้แยกออกจากกัน เขากดแทรกแท่งรักลงไปด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“โอ๊ย คุณนนท์ โอ๊ยคุณนนท์ขา เบา ๆ อื้อ ภัส เจ็บ อื้อ”
“แน่นมากเลย..ที่รัก บอกก่อนนะว่าอยู่ที่นี่ห้ามเอากับไอ้พวกนิโกรเด็ดขาด”
“ลูกน้องคุณตามฉันเหมือนเป็นเงา ฉันจะไปมีอะไรกับใครได้”
“ดี ทำให้ได้อย่างที่พูด มิเช่นนั้นฉันจะขังเธอเอาไว้”
เขาถอนริมฝีปากออกจากหญิงสาวเลื่อนไปตามซอกคอปลุกอารมณ์ให้ประสานไปกับสะโพกที่ขยับเป็นจังหวะของเขา
มาเฟียหนุ่มทำอยู่อย่างนั้นและเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งรอยจูบและพละกำลัง
“อือ....” พิมพ์รภัสส่งเสียงผ่านลำคอ ชญานนท์จึงเลื่อนริมฝีปากมาดูดซับเสียงนั้นให้เงียบไป ได้ยินเพียงเสียงอู้อี้ด้วยแรงอารมณ์
เขาใช้มือดันแผ่นหลังของหญิงสาวให้สูงขึ้นจากที่นอนดึงเข้าหาตัวแล้วเริ่มบทรักที่รุนแรงอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนจะไร้ความปรานียิ่งกว่าเดิม
พิมพ์รภัสขยับตัวตื่นบนที่นอนของชญานนท์ หญิงสาวดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหันไปมองที่นอนข้าง ๆ แต่ก็ไม่เห็นมาเฟียหนุ่มเจ้าของบ่อนเสียแล้ว
เธอจึงหันไปมองนาฬิกาบนผนังบอกเวลาแปดโมง พิมพ์รภัสรีบลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าแต่ดูเหมือนเธอจะขยับไม่ได้อย่างใจคิด... รู้สึกเจ็บร้าวสืบเนื่องจากเมื่อคืน ชญานนท์มีพลังที่มากมายอย่างเหลือเชื่อจริง ๆ
พิมพ์รภัสหน้าแดงระเรื่อ หญิงสาวติดกระดุมเสื้อแล้วดึงเสื้อคลุมมาสวมทับเพื่อเดินตามหาเขา