ตอนที่ 8
พิมพ์รภัสตัดสินใจเดินดูรอบๆ คฤหาสน์ เพราะรู้สึกว่าชญานนท์ยังไม่ได้ไปที่กาสิโน
จนมาเฟียหนุ่มที่เห็นหล่อนเดินมาแต่ไกลจึงเข้าไปแอบ พอพิมพ์รภัสเดินมาหยุดใกล้ ๆ เขาจึงออกมาหาหล่อนทางด้านหลัง ลมหายใจของมาเฟียหนุ่มเป่ารดที่บริเวณข้างใบหู จนทำพิมพ์รภัสรู้สึกหวาบหวิว
ชญานนท์หยิบสร้อยเพชรเม็ดงามมาคล้องลำคอขาวเนียนให้กับภรรยาสาวเพื่อเป็นการเซอร์ไพร์ พิมพ์รภัสตกใจเล็กน้อย หล่อนหันมามองสามีหนุ่มด้วยความตะลึงงัน
“อะไรคะ”
“ผมอยากสวมสร้อยคอเส้นนี้ให้คุณตั้งแต่เมื่อวาน แต่บังเอิญเราทะเลาะกันเสียก่อน” ชญานนท์เห็นสายตาที่สงสัยหลังจากนั้นหล่อนก็รีบปฏิเสธ
“ไม่ได้ทะเลาะสักหน่อย” พิมพ์รภัสรีบปฏิเสธเสียงแข็ง จริง ๆ แล้วเรื่องเมื่อวานเธอแค่งอนเท่านั้น
ตั้งแต่กลับมาฝรั่งเศสครั้งนี้หล่อนรู้สึกว่าสามีแปลกไปมาก แล้วก็ยังมีสร้อยเส้นงามมาเป็นของขวัญให้เธออีกด้วย จนพิมพ์รภัสยิ้มหน้าบาน
“อีกสักครู่ผมจะแวะไปที่กาสิโน คุณจะไปด้วยหรือเปล่า”
“ไปสิคะ” พิมพ์รภัสรู้สึกเขินจากน้ำเสียงและสายตาของสามี หล่อนจึงพยายามเบี่ยงความคิดของตัวเอง ก่อนที่จะเขินแล้วทำอะไรเปิ่นๆ ออกไป
“คืนนี้คุณต้องออกงานกับผม”
“งานอะไรคะ”
“งานที่สถานเอกอัครราชทูต พอดีโรงแรมของเราเข้าร่วมออกร้านอาหารและของหวานไทยในงานเทศกาลส่งเสริมอาหารไทยและวัฒนธรรมไทยพอดีว่าปณตเพื่อนผมเค้าชวนน่ะ”
“งานใหญ่ขนาดนี้กล้าเอาภัสไปเหรอคะ”
“กล้าสิ นาน ๆ ผมจะได้พาคุณออกงาน คุณดีใจมั้ย”
“ก็ดีใจ แล้วเพื่อนพี่พิมพ์จะไม่ว่าเอาเหรอคะ”
“หมายถึงเจนนะเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“ไม่หรอก เจนเข้าใจผม ผมเคยช่วยเหลือเธอแล้วก็เพื่อนของเธอ และอีกอย่างเรื่องของคุณกับผม ผมก็ไม่เคยปิดบังพี่สาวคุณเลยสักนิด เพียงแค่”
“เพียงแค่อะไรคะ”
“เพียงแค่ ไม่ได้บอกกับคนอื่น ๆ ก็เท่านั้น อย่าใส่ใจเลยนะ ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทยสักหน่อย”
“ค่ะ ถ้าคุณนนท์มั่นใจว่าตอบคำถามของภรรยาที่อยู่เมืองไทยได้ ภัสก็ไม่มีปัญหาค่ะ”
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส
รถยุโรปคันหรูสีดำที่มีลูเซียนลูกน้องคนสนิทเป็นคนขับ และอีกสองคันที่เหมือนกันขับตามประกบหน้าหลัง รถที่ชญานนท์นั่งมาจะอยู่คนกลาง ทั้งสามคันขับเข้ามาจอดเคียงกันที่บริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูต มีผู้มาร่วมงานเป็นคนไทยจำนวนมากที่ ส่วนใหญ่แล้วจะมาเปิดธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารอยู่ที่นี่
ภายในงานตอนกลางวันถูกจัดขึ้นที่โรงแรมมีร้านอาหารไทยที่มาออกร้านขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งอาหารและของหวานไทยหลายชนิดที่ขึ้นชื่อ
ปณตเอกอัครราชทูตไทยตั้งใจที่จะส่งเสริมอาหารไทยและวัฒนธรรมไทยภายในงานนี้อีกด้วย
ชญานนท์ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเขาเปิดโรงแรมหรูระดับห้าดาวพร้อม ๆ ไปกับร้านอาหารไทยที่ฝรั่งเศส ซึ่งเขานำเมนูอาหารไทยมาเป็นตัวเลือกในอาหารสำหรับโรงแรมของเขาด้วย
ชญานนท์เลี้ยงคนไว้หลายประเภท ทั้งมีฝีมือหลากหลายด้าน เพื่อประดับบารมีและช่วยเบิกทางในธุรกิจในบางโอกาส เขาจึงเป็นที่หวั่นเกรงอยู่ไม่น้อย
“คุณชญานนท์ สวัสดีค่ะ” คุณหญิงเจนจิราภรรยาท่านทูตออกมาให้ต้อนรับชญานนท์และพิมพ์รภัสตั้งแต่ชญานนท์ยังเข้ามาไม่ถึงประตูด้านในด้วยซ้ำ เพราะเมื่อก่อนชญานนท์ก็เคยช่วยเหลือเธอ
ตอนที่ชญานนท์เปิดร้านอาหารที่นี่หล่อนก็ให้ความช่วยเหลือกับชญานนท์หลายต่อหลายครั้ง เพราะชญานนท์ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเปิดร้านอาหารสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเขาทำอาหารไทยได้เก่ง
เมื่อครั้งในอดีตชญานนท์เคยช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกมาทำงานที่นี่ให้ไปทำงานกับเขา อย่างน้อย ๆ ถ้าทำอาหารไม่เป็นก็เป็นลูกมือก็ได้ ตอนนั้นปณตยังไม่ได้ตำแหน่งเอกอัครราชทูตก็เห็นด้วยเขาจึงสนับสนุนเพื่อนอย่างเต็มที่ งานกลางวันชญานนท์ไม่ว่าง มีเพียงลูกน้องที่เป็นเชฟไทยฝีมือดีของเขานำอาหารขึ้นชื่อหลายอย่างของไทยมาออกร้านที่นี่
“สวัสดีครับคุณหญิง” ชญานนท์รีบยกมือไหว้ เพราะอย่างน้อยเจนจิราก็อาวุโสมากกว่า พิมพ์รภัสที่เดินตามหลังสามีมาจึงยกมือไหว้ตาม
คุณหญิงยิ้มบาง ๆ มองพิมพ์รภัสอย่างสำรวจ คืนนี้พิมพ์รภัสแต่งตัวสวย ด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพง ชุดเครื่องเพชรที่สวยระยิบระยับเสียจนสะกดสายตาแทบทุกคู่ภายในงาน เครื่องเพชรที่สวมใส่นั้นมีครบเซต ตั้งแต่สร้อยคอ 73 กะรัต ต่างหู 8 กะรัต และแหวนสองวงรวมกัน 8 กะรัต ซึ่งทั้งชุดเครื่องเพชรนี้รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 184 ล้านบาท ที่ชญานนท์สั่งซื้อมาเป็นของขวัญให้สำหรับเธอ และมันก็เข้าคู่กับต่างหูเพชรเม็ดเล็กที่ห้อยระย้าได้เป็นอย่างดี
ปกติเมื่อก่อนชญานนท์จะมาแค่ตัวเองกับลูกน้องคนสนิทเท่านั้น คุณหญิงเจนจิราจึงอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ว่าเด็กสาวที่เขาเคยเห็นมาตั้งแต่ตอนเธอยังเด็ก ๆ พิมพ์รภัสในวัยสดใสน่ารักและตั้งใจเรียน
ตั้งแต่หล่อนจบมหาลัยเจนจิราก็ไม่เคยเจออีกเลย แต่ในตอนนี้เธอโตขึ้นเป็นสาวสะพรั่งเลยทีเดียว
คุณหญิงนึกชมพิมพ์รภัสอยู่ในใจ เธอสวยไม่แพ้พี่สาวของเธอเลยจริง ๆ แต่ก็นึกตำหนิชญานนท์ที่เหมาพวกหล่อนมาเป็นเมียแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนพี่หรือคนน้อง และมีอยู่อย่างเดียวที่ชญานนท์ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนคือความสัมพันธ์ของเขากับแม่เลี้ยง เพราะจะมีแค่พชรมนและพิมพ์ชนกเท่านั้นที่รู้ และสิ่งที่พชรมนรู้มันก็ได้ถูกแก้ไขไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
“พิมพ์รภัสนี่คุณหญิงเจนจิรา ภริยาท่านเอกอัครราชทูต” ชญานนท์รีบแนะนำ พิมพ์รภัสจึงยกมือไหว้ ซึ่งคุณหญิงเจนจิราก็รับไหว้อย่างมีมารยาท
“แหม่!.. อยู่กันแค่นี้จะแนะนำตัวเป็นทางการทำไมคุณชญานนท์” เจนจิรารีบคุยเป็นกันเองทันที
“ตามสบายนะจ๊ะ หนูภัส” เจนจิรารีบหันมาหญิงสาว
พิมพ์รภัสเหลือบมองสามีนิดหนึ่ง.. และนึกขอบคุณที่เขาไม่แนะนำหล่อนไปมากกว่านี้ ไม่งั้นเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไร เพราะเจนจิราคือเพื่อนของพี่สาวเธอ
คุณหญิงเจนจิรายิ้มบาง ๆ ให้พิมพ์รภัสอีกรอบ ถึงชญานนท์จะไม่บอกเธอเรื่องความสัมพันธ์ แต่หล่อนก็รู้ เพราะเคยคุยกับพิมพ์ชนกพี่สาวของพิมพ์รภัสเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ในตอนนั้นพิมพ์ชนกอยากเขี่ยชาล๊อตที่เป็นกิ๊กของชญานนท์อยู่แล้ว เธอจึงพยายามขอให้น้องสาวของเธอช่วย จนวันหนึ่งชาล็อตเห็นชญานนท์นอนกับพิมพ์รภัส โดยที่เธอเป็นคนจัดฉาก เลยทำให้ชาล๊อตเสียใจและขอเลิกกับชญานนท์ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะเขาหลงพิมพ์รภัส และอีกอย่างเขาก็คบกับชาล๊อตเพียงแค่ผิวเผินเหมือนหญิงคนอื่นทั่วไป
ชญานนท์ก็รู้ว่าเจนจิรานั้นรู้ฐานะที่แท้จริงของพิมพ์รภัสดี เพียงแค่หล่อนไม่ถามหรือพูดออกมาก็เท่านั้น
“เชิญข้างในงานดีกว่าค่ะ เมื่อสักครู่ปณตก็มาถึงแล้ว” เจนจิรารีบบอกทั้งคู่ และพลางออกเดินนำไปเข้าประตูทางเข้าของงานซึ่งมีพนักงานใส่ทักซิโด้สีดำคอยเปิดประตูให้แล้วโค้งตัวอย่างนอบน้อมโดยอัตโนมัติเมื่อมีแขกเดินผ่าน
ชญานนท์แวะทักทายคนโน้นคนนี้อยู่หลายครั้ง กว่าจะหลุดเข้าไปในงานได้สำเร็จ
เขาเป็นที่รู้จักมากกว่าที่พิมพ์รภัสคิดเสียอีก... และเธอก็เพิ่งจะรู้ว่าเขาเคยขึ้นปกนิตยสารไทม์อีกด้วย ทั้งที่หล่อนอยู่กับเขามาก็หลายปีแล้ว แต่พิมพ์รภัสไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
“ไงวะเบส” ปณตเอ่ยทักอย่างเป็นกันเองทันทีที่ชญานนท์และพิมพ์รภัสเดินมาถึง
ปณตผิวคล้ำกว่าชญานนท์เล็กน้อย สูงพอ ๆ กัน ทั้งคู่หล่อกันคนละแบบ ปณตเป็นบุรุษที่ออกจะหล่อเนี๊ยบมากกว่าจะหล่อเทห์ ๆ แบบชญานนท์
“พวกนั้นกำลังเริ่มจะทำธุรกิจมืดกันอีกแล้วว่ะ” ชญานนท์เปิดประเด็นเรื่องนี้เพื่อคุยกับเพื่อน เรื่องที่มีบริษัทโฆษณาของนายพงศกรแอบขายบริการ
“พวกมันกลับมายึดอาชีพนี้อีกแล้วเหรอ”
“ใช่พวกมันเปิดบริษัทโฆษณาและประกาศหานางแบบไปถ่ายโฆษณาโป๊เปลือย ผู้หญิงที่หลงเชื่อก็จะถูกหลอกไปถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่อแบลคเมลล์ หลังจากนั้นพวกมันก็จะบังคับให้หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อขายบริการ”
“เห็นทีคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดอีกครั้ง”
“ใช่ แต่ตอนนี้เรายังไม่มีหลักฐาน”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวเอาไว้ฉันจะปรึกษากับทางตำรวจอีกที”
“ก็ดี” ชญานนท์ตอบสั้น ๆ และทั้งคู่ก็เลิกคุยเรื่องนี้ไป เพราะตอนนั้นมีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายทั้งคู่ หล่อนเป็นหลานสาวของปณตหลังจากที่หล่อนเดินมาเจอทั้งคู่ก็รีบยกมือไหว้ปณตและชญานนท์จากนั้นก็ยืนคุยกับชายหนุ่มทั้งสอง
มารียาสวมชุดราตรีสั้นสีแดงคว้านหลังลึก เธอสวยมากทีเดียว รูปร่างสูงโปร่ง ผมหยักศกสีน้ำตาลเป็นลอนหล่อนเป็นลูกครึ่ง ใบหน้าคมโฉบเฉี่ยว แม่ของเธอมาเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศส และพักอาศัยอยู่กับปณตจนพบรักกับหนุ่มชาวฝรั่งเศส และตอนนี้มารียาก็อาศัยอยู่กับบิดาที่ฝรั่งเศสส่วนแม่ของเธอกลับไปเป็นอาจารย์สอนมหาลัยอยู่ที่ประเทศไทย นาน ๆ ถึงจะมาหาลูกและสามีที่นี่ เมื่องานเลิกมาเฟียหนุ่มจึงพาตัวพิมพ์รภัสกลับคฤหาสน์ของเขา