‘โอ๊ย!’ พลันในมโนสำนึกของหญิงสาวก็ปรากฏเรื่องราวของใครบางคนที่หน้าตาคล้ายกับฟางลี่ถิง ตั้งแต่เกิดจนอายุเข้าห้าหนาว เด็กสาวคนนั้นได้รับพระราชทานการหมั้นหมายจากฮ่องเต้องค์ก่อน เดิมทีการหมั้นหมายของนางนั้นจะต้องอภิเษกกับบุตรชายคนโตของฮ่องเต้ ตามคำมั่นสัญญาในกาลก่อนซึ่งพระองค์เคยให้คำมั่นไว้กับสหายคนสนิท นั่นก็คือบิดาของฟางลี่ถิง แต่เพราะมารดาของนางให้กำเนิดบุตรชายเป็นคนแรกแทน มิหนำซ้ำมารดายังมีสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก อาจจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีก จึงเป็นสาเหตุให้หลี่เฟยฟา ซึ่งในตอนนั้นเป็นองค์รัชทายาท จำเป็นต้องอภิเษกกับคุณหนูที่มาจากตระกูลจางแทน แล้วก็เป็นฮองเฮาในปัจจุบัน เหมือนกับว่าสวรรค์กำลังเล่นตลก เพราะหลังจากนั้นอีกห้าปีต่อมาฟางลี่ถิงก็ถือกำเนิดขึ้น ฮ่องเต้จึงเปลี่ยนราชโองการให้นางหมั้นหมายและอภิเษกกับชินอ๋องแทน ในราชโองการยังระบุอีกว่า เมื่อฟางลี่ถิงอายุครบวัยปักปิ่น ต้องเข้าพิธีอภิเษกตามราชโองการทันที ซึ่งความทรงจำในวัยเด็กของฟางลี่ถิงกับหลี่เฟยหลงนั้นทั้งสองไม่ค่อยพูดคุยกันมากนัก ซ้ำยังมีเพียงเด็กสาวที่ปักใจในบุรุษผู้นั้นไปเองฝ่ายเดียว เมื่อมิวได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมครบทั้งหมด นางก็ลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงของท่านเทพแห่งโชคชะตา
“เจ้าต้องจดจำเรื่องราวในอดีตของฟางลี่ถิงไว้ให้ดี เพราะมันจะมีผลต่อการทำภารกิจของเจ้าในภายหน้า ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้ ดังนั้นถ้าหากทำภารกิจไม่สำเร็จ เจ้าจะต้องตายลงภายในสิบห้าวัน และวันที่ครบกำหนดก็คือวันที่เจ้าอายุครบสิบห้าหนาว แล้ววิญญาณของเจ้าก็จะไม่ได้ไปเกิดอีก มันจะแตกสลายไปโดยไม่มีข้อแม้ใด เหตุเพราะว่าฟางลี่ถิงผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมนั้นยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณเพื่อให้เจ้ามาสานต่อความต้องการแทนนางที่ปรารถนาอยากมีชีวิตรักกับหลี่เฟยหลง บุรุษที่เป็นรักแรก และเจ้าเองก็ปรารถนาอยากมีรักแท้ ข้าให้สัญญา หากเจ้าทำภารกิจสำเร็จ เมื่อชะตาถูกเปลี่ยนให้มีวาสนากับบุรุษผู้นั้น ด้ายแดงพันผูกเหนียวแน่นไม่มีวันแยกจาก เจ้าจะได้ใช้ชีวิตตามที่ปรารถนา มีความสุขสมหวังไปจนแก่เฒ่านับจากวันนี้ ข้าขอให้เจ้าโชคดี...”
จากวันนั้นที่ได้รับความทรงจำเดิมของฟางลี่ถิง ร่างกายของหญิงสาวก็ได้รับประทานพรข้อที่สามจากเทพแห่งโชคชะตา ดรุณีน้อยเติบโตขึ้นเป็นสตรีโฉมสะคราญผู้มีรูปโฉมงดงามปานล่มเมือง กลิ่นกายของนางให้ความรู้สึกเย้ายวนชวนหลงใหล วันที่นางฟื้นความทรงจำขึ้นก็ผ่านมาได้ยี่สิบวันแล้ว และวันพรุ่งนี้ท่านแม่ทัพก็จะเดินทางมาถึงเมืองหลวงตามกำหนดการเดิม วันเวลาที่ผ่านล่วงเลยไปทำให้มิวที่มาอยู่ในร่างของฟางลี่ถิงนั้นมีความสุขมาก เพราะว่าได้พบกับครอบครัวที่อบอุ่นอย่างที่เคยปรารถนา มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายนั่นก็คือนอกจากจะต้องอยู่แต่ในห้องของตนเองและทำงานเย็บปักถักร้อยไปด้วยก็ไม่มีสิ่งใดให้นางทำบ้างเลย จึงทำให้ในแต่ละวันช่างผ่านไปช้ายิ่งนักในความคิดของหญิงสาว ในขณะที่ฟางลี่ถิงนั่งเท้าคางทำหน้าเหม่อลอยอยู่นั้น
จิ๋นอิ่งก็เปิดประตูเรือนเข้ามาพร้อมกับพูดเสียงดังจนนางต้องสะดุ้งตกใจ “คุณหนูเจ้าคะ ฮูหยินให้ท่านไปพบที่เรือนใหญ่เดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ” จิ๋นอิ่งพูดจบก็รีบตรงไปที่หีบใบใหญ่ที่ใช้เก็บเสื้อผ้าของหญิงสาวด้วยท่าทีที่เร่งรีบ
“มีเรื่องอะไรสำคัญหรือ เจ้าพอจะรู้หรือไม่” ถิงเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนหันไปมองสาวรับใช้ที่ยุ่งอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าให้นาง ราวกับว่าจะต้องไปพบแขกที่มีความสำคัญ
“บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ รู้เพียงแค่ว่าจะต้องแต่งตัวคุณหนูให้งดงามที่สุด” จิ๋นอิ่งพูดจบก็นำชุดจำนวนสามชุดมาวางเรียงไว้บนเตียงเพื่อให้คุณหนูเลือกสวมใส่
“นี่ข้าต้องแต่งตัวขนาดนั้นเลยหรือ คงมีแขกคนสำคัญมาที่จวน เช่นนั้นข้าจะไม่ทำให้มารดาขายหน้า” ถิงเอ๋อร์พูดจบก็เดินไปเลือกชุดที่ต้องการ
“ชุดสีชมพูที่ชอบดีไหมเจ้าคะ” จิ๋นอิ่งพูดอย่างเอาใจพร้อมกับชี้ไปที่ชุดสีชมพูที่มีความงดงาม เป็นสีโปรดของสตรี
“ข้าเบื่อสีชมพูแล้ว เจ้ามีสีอื่นหรือไม่” ฟางลี่ถิงพูดจบก็ทำสีหน้าเบื่อหน่าย เพราะตลอดยี่สิบวันที่ผ่านมานี้นางต้องสวมชุดที่เป็นสีชมพูมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบห้าวัน
“มีอยู่ชุดหนึ่ง แต่เป็นชุดสีขาวปักลายดอกโบตั๋นสีแดงเจ้าค่ะ”
จิ๋นอิ่งพูดยังไม่ทันจบคำดีก็เดินไปหยิบชุดสีขาวนั้นออกมาจากหีบอีกใบหนึ่งที่หญิงสาวไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไร
“ไม่เห็นเจ้าเคยบอกข้าว่ามีชุดสีขาวลายดอกโบตั๋นสีแดงด้วย” ฟางลี่ถิงเดินมานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลางส่องคันฉ่องแล้วก็หวีผมไปด้วย
“ก็คุณหนูเคยบอกว่าไม่ชอบชุดนี้นี่เจ้าคะ” จิ๋นอิ่งพูดเสียงเบาพร้อมกับหยิบชุดสีขาวปักลายดอกโบตั๋นสีแดงเดินไปหาหญิงสาว
“เจ้ารีบมาช่วยข้าแต่งตัวเถิด เดี๋ยวท่านแม่จะรอนาน” ฟางลี่ถิงหวีผมเสร็จก็จัดการแต่งหน้าทันที
“เจ้าค่ะคุณหนู” จิ๋นอิ่งขานรับ
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งก้านธูปหญิงสาวก็แต่งตัวเสร็จ นางใช้เพียงผ้าผูกผมสีขาวมัดผมไว้ครึ่งศีรษะ และปล่อยปอยผมสองข้างลงเล็กน้อยพร้อมกับแต่งหน้าบางเบา
“ไปกันเถอะจิ๋นอิ่ง” ฟางลี่ถิงบอกสาวใช้คู่กาย และพากันเดินไปยังเรือนใหญ่ทันทีเพื่อพบมารดาตามคำสั่ง