ขณะที่อัปสรสวรรค์กำลังจะล้มตัวลงนอน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“จะห้าทุ่มอยู่แล้ว ใครกล้าโทรมากวนฉันเนี้ย” หญิงสาวกดรับสาย และอ้าปากจะด่าให้สาสมกับที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา แต่...
“ลงมาหาผมหน่อยสิครับท่านประธาน”
“นี่นาย... กล้าดียังไงโทรมาหาฉันดึกๆ ดื่นๆ เนี้ย”
หล่อนแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นคณพัทรที่โทรมากวน
“อย่าลืมสิครับ ว่าผมเป็นอะไรกับท่านประธาน”
“ผู้ช่วยฯ เท่านั้นยะ”
“แน่ใจหรือครับ”
“แน่ใจยะ!”
เสียงหัวเราะขบขันดังมาตามสาย ก่อนที่คำพูดนุ่มๆ แต่ฟังแล้วขนลุกซู่จะดังตามมา
“ผู้ช่วยฯ ที่จูบจนท่านประธานเข่าอ่อนได้น่ะเหรอครับ”
“หุบปากเชียวนะ!”
“ไม่เอาครับ อย่าอารมณ์เสีย... ลงมาหาผมหน่อยนะครับ ผมอยู่นอกรั้วบ้านของท่านประธานครับ”
หล่อนกระโจนลงจากเตียง และพุ่งตัวไปแหวกผ้าม่านดูภายนอก แต่เพราะความมืดทำให้มองไม่เห็นอะไรนัก
“แล้วนายมาทำไม กลับไปนะ”
“ผมมีงานมาให้ท่านประธานเซ็นน่ะครับ”
“พรุ่งนี้ก็ได้ กลับไปได้แล้ว”
“ผมจะรอท่านประธานสิบนาทีนะครับ”
“ฉันไม่มีวันลงไปหานายหรอกยะ ไสหัวกลับไปได้แล้ว และอย่ามาวุ่นวายที่นี่อีก เข้าใจไหม นายคณพัทร!”
หล่อนทั้งตวาดทั้งตะคอก ทั้งคาดโทษ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเลย
“หลังจากสิบนาที ถ้าท่านประธานยังไม่ลงมา ผมจะปีนรั้วเข้าไปนะครับ”
“อย่า... อย่าทำอะไรบ้าๆ เชียวนะ!”
“ก็ลงมาหาผมสิครับ ท่านประธานคนสวย”
นี่หล่อนกำลังเจอะเจอกับเรื่องบ้าบออะไรอยู่นะ ทำไม... ทำไมต้องมาเป็นฝ่ายถูกข่มขู่แบบนี้ด้วย ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิต หล่อนเป็นคนควบคุมคนอื่นมาตลอด
“ผมเริ่มจับเวลาแล้วนะครับ”
แล้วคณพัทรก็วางสายไป ท่ามกลางความตื่นกลัวของอัปสรสวรรค์
“ถ้าหมอนั่นปีนรั้วเข้ามาจริงๆ รปภ. ก็ต้องเห็น และจับเขาเอาไว้ แล้วตำรวจก็จะมา แล้วหมอนั่นก็จะต้องประจานความสัมพันธ์ในคืนนั้น...” อัปสรสวรรค์หน้าซีดเผือด หล่อนรีบกดเบอร์โทรกลับไปทันที
“สวัสดีครับท่านประธานคนสวย”
หล่อนเกลียดเสียงเย้ายวนของหมอนี่เหลือเกิน
“ตกลง! ฉันจะลงไปหานายเดี๋ยวนี้แหละ”
“พูดง่ายๆ แบบนี้ ค่อยน่ารักหน่อยครับ”
“ไม่ต้องมาชม เพราะถ้าฉันมีโอกาส ฉันจะร้ายกลับใส่นายเป็นล้านเท่า จำเอาไว้”
“ผมจะรอนะครับ”
อัปสรสวรรค์ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป นอกจากตัดสายทันที
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้คนบ้า!”
อัปสรสวรรค์เดินผ่านรั้วขนาดใหญ่ของบ้านพักสุดหรูออกมาด้านนอก และก็เดินมายังรถยนต์คันหนึ่งที่จอดติดเครื่องอยู่
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ หล่อนก็เห็นเรือนร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มยืนพิงกับตัวรถ ใบหน้าของเขาเงยสูงขึ้นคล้ายกับกำลังจ้องมองท้องฟ้า
เท้าเล็กชะงัก เพราะภาพที่เห็นช่างดูมีเสน่ห์ และทรงพลังอย่างที่ไม่พานพบมาก่อน
ตอนนี้คณพัทรเหมือนพระเอกในซีรีส์จีนไม่มีผิด ตัวสูงโปร่ง ล่ำสัน ผิวขาว ปากแดง และกำลังยืนเหม่อมองท้องฟ้า
ผู้ชายคนนี้คือไอ้ตัวร้ายกาจ และเขาก็กำลังข่มขู่หล่อนอย่างไม่น่าให้อภัย
เสียงหนึ่งดังขึ้นในสมอง และมันก็ทำให้อัปสรสวรรค์ได้สติกลับคืนมา
“ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย” หล่อนบ่นพึมพำ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหยุดห่างประมาณสองเมตรกว่า
คณพัทหันหน้ามามองหล่อน และระบายยิ้ม สีขาวสะอาดของฟันที่เรียงตัวกันสวยของเขาทำให้หล่อนตะลึงไปชั่วขณะ
แต่ไม่นานก็ได้สติกลับคืนมา...
ไอ้ผู้ชายร้ายกาจ!
“ไหน มีงานอะไรด่วนที่ฉันต้องเซ็นคืนนี้ยะ”
แล้วเขาก็ยืดตัวตรง ก้าวเดินเข้ามาหยุดใกล้หล่อนมากขึ้น
ระยะห่างสองเมตรกว่าตอนนี้เหลือเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งเมตร แต่เพราะความหยิ่งจองหองทำให้อัปสรสวรรค์ไม่ขยับหนี
เดี๋ยวจะหาว่าหล่อนกลัว...
“คุณดูแปลกตาไปมากเลยนะครับ เวลาไม่ได้สวมชุดทำงาน”
นี่เขากำลังชมหล่อนหรือว่าหลอกด่ากันนะ
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดมาก ไหน... จะให้เซ็นอะไร”
หล่อนถามห้วนๆ และก็พยายามตีหน้ายักษ์ใส่ ทั้งๆ ที่ในใจรู้สึกหวั่นไหวจนอดแปลกใจในตัวเองไม่ได้เลย
“ไม่มีอะไรต้องเซ็นหรอกครับ”
“ฮะ?! นี่นายกล้าหลอกฉันอย่างนั้นเหรอ”
หล่อนโกรธจนตัวสั่น แต่พ่อเจ้าประคุณกลับหัวเราะขบขัน แล้วก็ยื่นมือเข้ามาจับสองแขนทั้งสองข้างของหล่อนเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะ ไอ้คนบ้า!”
“ถ้าผมไม่บอกว่ามีงาน คุณจะยอมลงมาหาผมหรือครับ”
“นายนี่มัน เจ้าเล่ห์สิ้นดีเลย!”
เขาไม่สนใจความเกรี้ยวกราดของหญิงสาวแม้แต่น้อย
“ผมก็แค่มาทวงรางวัลประจำวันของผมเท่านั้นเองครับ”
“ราง... วัลบ้าบออะไร”
หล่อนเริ่มเสียงสั่น เมื่อเขาโน้มหน้าลงมาหา กลิ่นลมหายใจของผู้ชายคนนี้ช่างทำให้กายสาวปั่นป่วนเหลือเกิน
“ก็รางวัลของคนที่เก็บความลับเก่งยังไงล่ะครับ”
“อะไรนะ? อุ๊บบบบ”
แล้วเขาก็จูบหล่อน...
จูบหล่อนอีกแล้ว...
จูบปากของหล่อนอย่างดูดดื่ม และครั้งนี้สอดแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากของหล่อนอีกด้วย
อัปสรสวรรค์ถึงกับตัวชาดิก ร่างกายร้อนผ่าวเหมือนถูกสุมด้วยเพลิงกัลป์ สติล่องลอยจางหาย สมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก ดื่มด่ำอยู่กับรสจุมพิตนั้นอย่างเต็มใจ
อา...
คณพัทรถอนปากออกไป รอยยิ้มเต็มนัยน์ตาคมเข้มเมื่อเห็นท่านประธานสาวคนสวยยังคงหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้ม
“ผมจะทวงรางวัลกับคุณทุกวัน”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้คนที่กำลังหลงทางอยู่ในรสจุมพิตหวานล้ำได้สติกลับคืนมา
สองแก้มแดงระเรื่อ ใบหน้านวลร้อนผ่าว ความอับอายกระแทกใส่หน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หล่อนผลักคนตัวโตออกห่างสุดแรง จากนั้นก็ยกมือขึ้นจะฟาดหน้าหล่อเหลานั้น แต่คณพัทรคว้ามือเล็กเอาไว้เสียก่อน