หลายวันผ่านไป
“ไปกับพี่ไหม?”
“ไปไหนคะ”
“บ้านไอ้ปั้น วันนี้วันเกิดเพียงฝันน่ะ” ฉันเงียบไม่มีคำตอบให้พี่มิวในทันทีเพราะวันนี้ต้องเขียนงานให้เสร็จค่ะซึ่งเหลืออีกแค่สองตอน อีกอย่างนะเจ้าของวันเกิดก็ไม่ได้เอ่ยชวนซะด้วยสิ “คิดนานจัง”
“ไม่น่าจะไปนะคะหนูยังทำงานไม่เสร็จเลย”
“แต่พรุ่งนี้วันหยุดนะ”
“แต่เจ้าของวันเกิดเขาไม่ได้ชวนหนูสักหน่อยไม่ไปก็คงไม่น่าเกลียดมั้งคะ”
“ใครบอกว่าไม่ชวน” ได้ยินแบบนั้นถึงกับต้องหันไปมองค่ะ “ชวนตั้งหลายวันแล้วพี่ลืมบอกอะ” ไม่พูดเปล่าพี่มิวยังเอาแชทของเพียงฝันให้ฉันดูอีกด้วย
“พี่มิว!”
“ฮ่า ๆ พี่ขอโทษครับ”
“แล้วพี่จะไปตอนไหนคะหนูขอเวลาเคลียร์งานสักสองชั่วโมงจะทันไหม”
“ทันสิ ไปสี่ทุ่มยังได้เลย”
เลิกสนใจเขาฉันก็กลับเข้ามาในห้องรีบปั่นงานทันที เอาจริง ๆ สองชั่วโมงมันไม่ทันหรอกสมองไม่ได้แล่นขนาดนั้นแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ระหว่างเขียนงานก็มีเสียงแจ้งเตือนแชทเป็นระยะค่ะแต่ไม่ได้เปิดดูหรอกเพราะกำลังบังคับตัวเองให้ทำงานให้เสร็จก่อน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่พี่มิวจะเปิดประตูเข้ามา
“โทรศัพท์อยู่ไหนครับ”
“ชาร์จแบตอยู่ค่ะ” ปากตอบเขาแต่มือก็ยังคงวุ่นวายกับคีย์บอร์ดอยู่ “ทำไมเหรอคะ”
“ไอ้ปั้นมันโทรมาถามว่าจะไปหรือเปล่าพี่ก็เลยบอกว่าไป แต่พี่ไปคนเดียว”
“แล้วเขาว่าไง”
“ก็เงียบไป พี่เลยเดาว่าเราคงไม่ได้รับสายมันถึงได้โทรมาหลอกถาม”
“แต่พี่ก็หลอกเขาเหมือนกันนี่”
“แน่นอน!”
“พอกันทั้งคู่เลย”
คล้อยหลังพี่มิวฉันก็ละมือจากคีย์บอร์ดแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู แชทเยอะมากค่ะก็พี่ปั้นนั่นแหละแต่ไม่ทันจะอ่านก็มีวีดิโอคอลเข้ามาซะก่อน
“ค่ะ”
(โทรไปไม่รับนะ)
“หนูกำลังรีบเขียนงานอยู่” ไม่พูดเปล่าฉันยังตั้งกล้องให้คนในสายดูอีกด้วย
(ไม่มากับไอ้มิวเหรอ)
“ไปสิคะ”
(แล้วมันบอกว่าเราไม่ไปไง)
“ก็ตอนแรกว่าจะไม่ไปเพราะทำงานยังไม่เสร็จแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วค่ะ”
จากที่จะทำงานเงียบ ๆ กลายเป็นมีคนเฝ้าตลอดเวลาแทน เราไม่ได้คุยกันหรอกค่ะแค่ค้างสายไว้แบบนั้น ฉันก็ทำงานของฉันไปส่วนพี่เขาทำอะไรไม่รู้ได้ยินเสียงคุยเป็นระยะ
เป็นอยู่แบบนั้นกระทั่งครบสองชั่วโมงฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะ เหลือบมองนาฬิกาสองทุ่มกว่าแล้ว ไม่รู้ป่านนี้พี่มิวจะบ่นหรือเปล่า
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ขอสิบนาทีพี่อาบน้ำก่อน” จบประโยคก็วางมือถือแล้วเข้าห้องตัวเองไป
สามทุ่มตรงเราก็มาถึงค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้มาบ้านของเขาปกติจะมีแต่เขาที่มาบ้านฉันไง ไม่ใช่อะไรหรอกปาร์ตี้กันตามประสา
“มีสำนักงานทนายความด้วย”
“ก็น้าเพียงเขาเป็นทนายความ ส่วนลุงเก้าเขาก็มีกิจการร้านขายอะไหล่แต่ง” ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ แต่อย่างว่าแหละฉันไม่เคยถามนี่เนอะ “น้าเพียงใจดีมากลุงเก้าก็เหมือนกันแต่ว่าจะชอบทำหน้าดุ ๆ หน่อย”
“คนเยอะเหมือนกันนะคะ”
“เยอะสิ ลุงเก้าเขาเพื่อนเยอะอยู่แล้ว”
เดินตามพี่มิวเข้าไปในบ้านก็เจอกับผู้คนมากมายและหนึ่งในนั้นก็คือพี่เอิงเอยค่ะ เขาเป็นแฟนเก่าของพี่ปั้นฉันมารู้ตอนหลังว่าพ่อของเขาก็เป็นเพื่อนรักของพ่อพี่ปั้นเช่นกัน ลำบากใจเหมือนกันนะเจอกันแต่ละที
“คิดว่าจะไม่มาซะอีก” เจ้าของวันเกิดพูดขึ้นก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าฉัน
“ถ้าเธอไม่ชวนก็ไม่มาหรอก แล้วคนอื่นล่ะ”
“ใคร?”
“ก็เพื่อนเธอไง”
“ก็เธอไง” เอ่ยเสียงดังฟังชัดแล้วนั่งลงตรงที่ว่างข้างฉัน
“ทำหน้ามุ่ยอีกแล้วหงุดหงิดอะไรเนี่ย”
“เฮ้อ...”
“...” ความเงียบเข้าปกคลุมก่อนที่ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่ฉัน
“สนิทกันเหรอ” พี่มิวค่ะ
“สนิทบ้างไม่สนิทบ้างแล้วแต่สถานการณ์ค่ะ” ฉันบอกออกไปตามความจริงเพราะมันเป็นแบบนั้น เพียงฝันไม่ค่อยสุงสิงกับใครค่ะ
“ตามนั้นแต่ตอนนี้ขอยืมตัวน้องสาวพี่ก่อนนะคะ” ไม่รอให้พี่มิวได้ตอบฉันก็ถูกเพียงฝันรั้งแขนพาเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
“อะไรของเธอเนี่ย”
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอน “เธอรู้จักคนนี้ไหม?” โทรศัพท์เครื่องหรูถูกยื่นมาตรงหน้าฉันพร้อมกับโปรไฟล์โซเชียลของใครคนหนึ่ง
“คนนี้... เราติดตามพี่เขาด้วยนะ” พี่คนนี้เขาจะเงียบ ๆ ค่ะค่อนข้างเย็นชาเลยแหละฉันติดตามเพราะเอาบุคลิกของเขามาเป็นอิมเมจตัวละครในงานตัวเองบ่อย แต่ไม่ได้เอาเรื่องราวชีวิตใครมาเขียนนะคะแค่สมมุติขึ้นมาเท่านั้นเอง
“สืบให้หน่อยสิว่าเขามีแฟนหรือเปล่า”
“ห๊ะ!” ไม่ได้หูเพี้ยนไปแน่ ๆ ค่ะ “เท่าที่เห็นก็ไม่มีนะ”
“ไม่เปิดตัวก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนี่ เหมือนเธอกับพี่ปั้นไง”
“เธอรู้?”
“ไม่รู้สิแปลก”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“เดี๋ยวก็เป็น แต่นิสัยเจ้าชู้อะเนอะเธอคงต้องสั่งสอนหน่อย”
“เรื่องของเราช่างมันเถอะเอาเรื่องของเธอดีกว่า”
“อืม ก็คุย ๆ กันอยู่แต่เขาดูลึกลับไปหน่อย”
“เธอไม่ลึกลับเลยมั้งว่าแต่เขา”
“เถอะน่า... ความลับนะ!”
แกรก!
ยังไม่ทันไม่ตอบใครคนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาซะก่อน
“ทำอะไรกันครับ?” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยก่อนจะมองฉันกับเพียงฝันสลับกัน
“เรื่องของผู้หญิงค่ะ”
“แต่นี่ห้องพี่ครับ”
“คิกคิก” เพียงฝันป้องปากหัวเราะอย่างชอบใจ จะบอกว่าตอนเธออยู่กับคนอื่นแตกต่างกับตอนอยู่กับพี่ชายตัวเองมากนะ “พี่ต้องขอบคุณหนูนะคะ” จบประโยคก็รีบออกไปจากห้องทันทีทิ้งฉันไว้ราวกับว่าตัวเองเข้ามาคนเดียว
“มีความลับอะไรกันครับ?”
“บอกไม่ได้ค่ะความลับ!” ฉันว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะแทรกตัวผ่านหน้าเขาไปเพื่อที่จะออกจากห้องแต่ว่ามันไม่สำเร็จเพราะถูกเจ้าของห้องขวางไว้ “หลบสิคะ”
“ทำไมมาช้า”
“หนูทำงานไม่เสร็จพี่มิวก็เลยรอ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่เพียงฝันจะพูดอะไรสักอย่างแล้วเดินผ่านหน้าห้องไปคล้ายเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง
“ไปข้างนอกกันเถอะ”
“ค่ะ”
ก้าวเท้าพ้นประตูห้องก็เห็นเพียงฝันยืนรออยู่ เมื่อเห็นฉันออกมามือคู่เล็กก็รั้งแขนฉันอีกครั้งแล้วพาออกไปด้านนอกเหมือนเดิมค่ะ
“ไปไหนกันมาครับแล้วไอ้ปั้นล่ะ”
“ไม่รู้ค่ะ สงสัยเข้าห้องน้ำมั้ง” เพียงฝันตอบแบบขอไปทีก่อนจะหันไปสนใจของกินตรงหน้า แค่เพียงไม่นานพี่ปั้นก็ออกมาค่ะ จะว่าไปแล้วสองพี่น้องนี่เล่ห์เหลี่ยมพอกันเลยแฮะ
“ข้างกูว่างนะ” พี่มิวพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ปั้นนั่งลงตรงที่ว่างข้างฉัน
“ตรงนี้ก็ว่างเหมือนกัน”
ตรงข้ามฉันคือพี่เอยกับพี่แก้มค่ะ และเขาก็กำลังมองมาทางฉันเช่นกัน
ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เพียงฝันได้รับคำอวยพรมากมายซึ่งมันทำให้เจ้าตัวยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว
“เดี๋ยวพี่มานะไปคุยโทรศัพท์ก่อน” พี่มิวเอ่ยก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังมุมหนึ่งของบ้าน
“ลุงจะค้างที่นี่ปั้นช่วยไปส่งเอิงเอยหน่อยได้ไหม” คุณลุงคนหนึ่งพูดขึ้น พี่ปั้นไม่ได้ตอบอะไรแต่หันมองหน้าฉันแทน “แค่ไปส่งเอง”
“ขอโทษครับผมไม่สะดวก” คำปฏิเสธถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับสายตาว่างเปล่า
“ไม่สะดวกหรือมีเหตุผลอื่นกันแน่” ทุกคำพูดไม่ได้เจาะจงว่าหมายถึงอะไรแต่ทำไมฉันถึงกลายเป็นเป้าสายตาไปได้นะ
“ทั้งสองอย่างครับ”
“ตอบตรงดีนะ” เขาว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะเสมอสายตาไปทางพี่เอยที่กำลังมองฉันอยู่ “เคยเตือนแล้วนี่ฉะนั้นอย่ามานึกเสียดายทีหลังตอนนี้มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ไม่รู้ว่าควรเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ยังไงและมันเกี่ยวอะไรกับฉันหรือเปล่า
“ลุงโอมอยากคุยอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”
“ตอนแรกก็อยาก... แต่ตอนนี้ไม่แล้ว” เขาพูดกับพี่ปั้นก็จริงแต่สายตากลับมองมาที่ฉัน “คนนี้สินะ” ประโยคหลังนี้เขาหันไปพูดกับลุงเก้าค่ะ
“ถ้าตอนนี้ก็ใช่ มันมีแค่คนเดียวนั่นแหละ”
“...”
“ไม่ต้องสนใจหรอกเดี๋ยวพ่อจัดการเอง” เพียงฝันกระซิบบอกอย่างไม่ใส่ใจมากนักขณะเดียวกันพี่เอยก็ยังคงมองฉันอยู่แบบนั้นจนรู้สึกอึดอัด
“มีอะไรหรือเปล่า?” ไม่รู้ว่าพี่มิวมาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ที่แน่ ๆ เขาคงได้ยินหมดแล้ว “สายตาพี่ไม่น่ารักเลยนะพี่เอย ทำไมมองน้องผมแบบนี้ล่ะ”
“แค่มองเอง”
“ในโลกใบนี้พี่โกหกไอ้ปั้นได้คนเดียวเท่านั้นแหละ”
“พี่มิว!” ห้ามก็ไม่ทันแล้วค่ะ ท่าทางของเขาดูก็รู้ว่าไม่พอใจที่พี่เอยเอาแต่มองหน้าฉัน
“ไอ้ปั้น กูให้โอกาสมึงอธิบายตัวเองอยากพูดอะไรก็พูดมา”
“กูคุยกับน้องมึงอยู่” คำถามว่าอึ้งแล้วเจอคำตอบตรง ๆ เข้าไปอึ้งกว่าค่ะ “กูรู้ว่ามึงรู้อยู่ก่อนแล้วแค่รอให้กูเป็นฝ่ายพูดเอง”
“ก็ถ้าวันนี้มึงไม่พูดกูคงใช้หมัดพูดกับมึงแทน แต่ช่างเถอะก็แค่คุยมึงยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ เราต่างคนต่างเหี้ยมึงเองก็มีน้องสาวหวังว่าคงเข้าใจ” แน่นอนว่าทุกประโยคที่เอ่ยออกมาพ่อกับแม่เขาก็ได้ยิน รวมไปถึงพี่เอยก็ด้วย
“ไม่ต้องไปเตือนมันหรอกมิว ลุงบอกน้องไปแล้วว่าถ้ามันเหี้ยก็เขี่ยมันทิ้งไปได้เลย แต่ก็อย่างว่านะคนเก่าเขาทำไว้ดีแค่บางอย่างมันไปด้วยกันไม่ได้เท่านั้นเอง”
“ใครสนกันล่ะ! ผมมาเริ่มต้นใหม่ไม่ได้มาแทนที่ใคร”
“...”