EP.08 ภัทธิรา ตยาธิรักษ์

1393 คำ
EP.08 อุษารัตน์หน้าตื่นมายังโรงพยาบาลเอกชนอย่างตกใจเมื่อเธอได้รับทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามารดาถูกดักปล้นจนเข้าโรงพยาบาล ยังดีที่มีคนมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน เธอวิ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉิน ซึ่งเวลานี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่ไม่ห่าง “ฉันเป็นลูกสาวของคุณหญิงค่ะ ชื่ออุษารัตน์” เธอแนะนำตัว ขณะนายตำรวจคนนั้นยิ้มแล้วทำความเคารพ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” “คุณแม่ของฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ” “คุณหญิงทิพย์อาภาปลอดภัยแล้วล่ะครับ เธอไม่เป็นอะไรมากแค่สลบเพราะตกใจไปเท่านั้นเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” นายตำรวจหนุ่มบอกให้เธอวางใจ “แล้ว...มันเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้” “คุณหญิงถูกปล้นครับ โชคดีที่มีผู้พบเห็นมาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล และนำคนร้ายส่งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจครับ” “ใครกันคะ ใครกันที่ช่วยแม่ของฉัน” เธอเงยหน้าขึ้นมองนายตำรวจนายนั้นอย่างใคร่รู้จักชื่อของผู้มีพระคุณคนนั้น หลังจากติดต่อหาชรัญธี มณียาพี่สาวทั้งสองแล้ว อุษารัตน์จึงได้มีโอกาสเข้ามาหามารดา ทันทีที่เห็นบุตรสาว คุณหญิงทิพย์อาภากลับถามหาลูกสาวอีกคนอย่างทันที เมื่อคนที่เปิดเข้ามาไม่ใช่กัลปวีลูกสาวคนสุดท้องที่นางอยากจะให้เป็น “หนูนุ่นล่ะ ทำไมหนูนุ่นไม่มา” อุษารัตน์ถอนใจ มารดาไม่เคยเห็นเธอหรือพี่สาวทั้งสองคนสำคัญมากไปกว่ากัลปวีน้องสาวเลยนักนิด ตรงกันข้ามยังตามใจจนรายนั้นเคยตัว “ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ยังไม่กลับเข้าบ้านค่ะ” อุษารัตน์รายงานตามความเป็นจริง วันนี้กัลปวีไปงานปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนๆ ในกลุ่มสังคมอย่างเช่นที่ผ่านมา ทิ้งให้เธออยู่บ้านเพียงคนเดียวเท่านั้น “หนูนุ่นนะหนูนุ่น แล้วนี่โทรบอกน้องหรือยังหนูนา” “โทรแล้วค่ะ แต่ยายนุ่นปิดเครื่อง ส่วนพี่น้ำหนึ่งกับพี่หนูนี นาก็โทรบอกแล้วนะคะ” “โธ่ แม่เป็นขนาดนี้ยังไม่รู้อีก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะหนูนุ่น” อุษารัตน์ได้แต่ถอนใจ มองมารดาอย่างนึกหน่ายในหัวใจ “แล้วนี่แม่อยู่ที่ไหนนี่...” เห็นลูกสาวนิ่งเงียบ คนไข้จึงมองไปรอบๆ ห้องแห่งนั้นอย่างค้นหา “โรงพยาบาลค่ะ โรงพยาบาล...” บอกชื่อโรงพยาบาล ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งระดับจังหวัด ซึ่งแน่นอนค่าใช้จ่ายย่อมแพงตามไปด้วย เมื่อได้ยินชื่อโรงพยาบาลคุณทิพย์อาภาถึงกับเบิกตา “ยายหนูนา ใครใช้ให้เธอพาแม่มาที่โรงพยาบาลนี้ฮึ ว้ายๆ ตายแล้ว ค่าใช้จ่ายจะต้องบานเบอะเป็นแน่ๆ แล้วนี่ฉันจะไปเอาเงินที่ไหนใช้เขานี่” บ่นอย่างไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะได้มีโอกาสได้มารักษาพยาบาลยังที่นี่ เพราะอย่างไรแล้วค่าใช้จ่ายก็ต้องมากมายมหาศาล คุณหญิงถังแตกอย่างหล่อนจะไปเอาเงินที่ไหนมาใช้เขา “ไม่ต้องใช้หรอกค่ะคุณแม่ เพราะมีคนเขายินดีใช้ให้แล้ว” “ห๊ะ ว่าอะไรนะ” เรื่องแบบนี้ ประสาทสัมผัสของคุณหญิงรวดเร็วอย่างทันใจ “นากำลังบอกคุณแม่ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคุณแม่ระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ มีคนเขารับผิดชอบให้แล้วล่ะค่ะ” “นี่หูแม่ไม่ได้ฝาดใช่ไหมยายหนูนา” “ระบบการได้ยินของคุณแม่ไม่ได้มีปัญหาไม่ใช่หรือคะ สิ่งที่นาว่ามันก็ตามนั้นแหละค่ะ” คุณทิพย์อาภาตาเป็นประกาย มีคนใช้ค่ารักษาพยาบาลให้กับหล่อน ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเขาจะต้องร่ำรวยมากสินะ “ใครกันยายหนูนา ใครกัน” “คุณแม่ไม่จำเป็นจะต้องรู้หรอกค่ะ เพราะเขาไปแล้ว ได้แต่ฝากเรื่องไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและโรงพยาบาลเท่านั้น” “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม่ก็ยังอยากจะรู้ว่าผู้มีพระคุณของแม่เป็นใครที่ไหน เขารวยมากไหม แม่จะได้พักรักษาตัวนี่ให้นานๆ หน่อย” “คุณแม่อยากป่วยหรือคะ” อุษารัตน์ถามอย่างหมั่นไส้ “ถ้าเป็นไปได้แม่ก็อยากจะป่วยอยู่ที่นี่สักอาทิตย์นะ” นางว่าอย่างภาคภูมิใจ คำของบุตรสาวที่ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดมารดาพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ ผู้มีพระคุณคนนั้นเขาจะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด อย่างนี้ก็มีลุ้นที่จะได้ป่วย “ยายหนูนา บอกแม่สักทีได้ไหมว่าเขาคนนั้นเป็นใคร แม่อยากรู้” “เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเขาชื่อคุณภัทธิรา ตยาธิรักษ์ อะไรนี่ค่ะ” อุษารัตน์ว่า พร้อมกับเดินออกจากห้อง “หนูขอตัวไปเซเว่นก่อนนะคะ เดี๋ยวจะขึ้นมาค่ะ” บุตรสาวเดินจากไปในที่สุด คุณทิพย์อาภาจึงได้แต่นิ่งเงียบนึกถึงคำของบุตรสาว ภัทธิรา ตยาธิรักษ์...ตยาธิรักษ์ “ชื่อคุ้นๆ ตยาธิรักษ์” กนกเรขาเดินมาส่งทั้งสองเพื่อนสาวด้านนอกร้าน “ความจริงเธอไม่ต้องมาส่งพวกเราก็ได้ งานในร้านก็ยังมีอีกเยอะแยะ” ศวิตาปรามเพื่อนสาว เมื่อกนกเรขายืนยันจะไปส่งเพื่อนทั้งสองถึงที่บ้าน “ไม่ได้ๆ คุณแม่ฉันย้ำเป็นหนักหนาว่าให้ส่งพวกเธอจนถึงบ้าน” “พวกฉันกลับกันได้หรอกน่า อีกอย่างเราก็มีกันตั้งสองคน ส่วนเธอตอนกลับมามันจะลำบากนะ” ภคมนว่าอีกอย่างเป็นห่วงในความปลอดภัยของเพื่อนระหว่างทางกลับ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเก่งอยู่แล้วน่า” “ฉันว่าเธอกลับเข้าร้านไปเถอะ ส่งแค่นี้พอละ” ศวิตาว่าอีก เธอส่งยิ้มให้กับกนกเรขาแล้วหันไปทางภคมน “ใช่ไหมยายมน” “เออ ใช่ ส่งแค่นี้ก็พอละ เธอกลับเข้าไปข้างในร้านเถอะ พวกเรากลับเองได้” “แต่ฉัน...” “กลับไปเถอะน่า พวกเรากลับเองได้นะ” ศวิตาย้ำอีก กนกเรขาชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น “อืม ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นกลับดีๆ นะ” “จ้า...” ทั้งสามสาวโผเข้ากอดกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไปในที่สุด กนกเรขากลับไปช่วยงานภายในร้าน ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวต่อ เพราะเวลานี้ลูกค้าต่างแยกย้ายกันกลับไปเกือบจะหมดแล้ว รายการต่อไปเห็นทีจะไม่พ้นการช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ ศวิตาและภคมนขอตัวกลับก่อน เพราะพรุ่งนี้ภคมนจะต้องลุกขึ้นมาช่วยมารดาเปิดร้านขายของตั้งแต่เช้า หลังเตรียมของเสร็จถึงจะได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย ทั้งสองสาวมุ่งตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะขับออกจากร้านอาหารแห่งนั้นไปในที่สุด ทว่า ยังไม่ทันได้ไปถึงไหน รถของพวกเธอก็ถูกขวางด้วยชายฉกรรจ์กว่าสามคนที่มาดักรอระหว่างทาง “สวัสดีจ้ะน้องสาว พอดีเจ้านายของพี่อยากจะคุยกับน้องๆ ขอเวลาน้องสักคืนสองคืนจะได้ไหมจ๊ะ” ชายหนุ่มหน้าตาไม่น่าไว้วางใจเปิดฉากทักทาย ก่อนจะเดินเข้าหาศวิตาและภคมนที่นั่งซ้อนกันอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์อย่างมาดมาย “อย่าเข้ามานะ ออกไป อย่านะ” ภคมนขู่ฟ่อ ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเป็นประกาย ฝ่ายศวิตาหน้าแหย ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำใด สถานการณ์อันตรึงเครียดดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้า เมื่อฝ่ายชายฉกรรจ์หนึ่งในสามเอื้อมมากระชากข้อมือของศวิตา “ไปพบเจ้านายของพี่เถอะน้อง เสี่ยทรงพลน่ะรู้จักไหม รวยนะ ไปนอนกับเสี่ยสักคืนสองคืน งานนี้พี่ว่าน้องๆ สบายแน่” “ไม่...ปล่อย” “ปล่อยมือเพื่อนฉันนะ” ภคมนกระชากมือมันออก พร้อมกับส่งหมัดไปยังหน้าของมันอย่างทันใด พลั่ก!! หมัดน้อยๆ แตะเต็มหน้าของไอ้หน้าแหลม จนมันหน้าหงายประกายตาลุกโชน “แรงนะน้อง พวกเรา จัดการโว้ย” มันหันไปสั่งการกับเพื่อน ฝ่ายภคมนดึงศวิตาหนี หากด้านหลังกลับถูกมันอีกคนดักเอาไว้ “ชวนไปดีๆ ไม่ไป อย่างนี้มันต้องลงไม้ลงมือซะแล้ว” มันสบถก่อนจะพุ่งตรงเข้าหาทั้งสองอย่างทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม