EP.05 เธองานราวกับนางในวรรณคดี

1068 คำ
EP.05 พ่อเลี้ยงนเรนทร์หัวเราะ เขามองลูกน้องคนสนิทที่สนิทถึงขนาดเป็นเพื่อนคู่คิด คอยเตือนสติของพ่อเลี้ยงมาตลอดหลายปีที่รู้จักกัน “นายกำลังจะเตือนให้ฉันกลัวต่อกฎแห่งกรรมใช่ไหมนายขุน” “ทุกคนล้วนหนีกรรมไม่พ้นครับพ่อเลี้ยง คนทุกคนย่อมมีกรรม เพราะกรรมนั้นคือการกระทำ การกระทำที่เราได้ก่อขึ้นมาเองทั้งสิ้น” “เหมือนคุณหญิงทิพย์อาภาใช่ไหม ที่ก่อหนี้ตัวเองขึ้นจนมากมายมหาศาลและความตายของเธอก็หมายถึงกรรมที่คุณหญิงได้ก่อขึ้น” “นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งครับพ่อเลี้ยง นั่นมันคือกรรมของคุณหญิงทิพย์อาภาที่ได้สร้างขึ้น เพราะความโลภ ความไม่รู้จักพอ ไม่ใช่แค่คุณหญิงเพียงคนเดียว ดูสิครับพ่อเลี้ยง ในบ่อนพนันด้านล่างล้วนแล้วแต่มีคนโลภไม่รู้จักพอทั้งสิ้น” “ส่วนฉันก็เป็นแค่ผู้ตอบสนองความต้องการของพวกเขาให้เป็นไปตามดั่งใจที่ต้องการ” “นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งครับพ่อเลี้ยง เพราะอย่างไรแล้วรายได้ของพ่อเลี้ยงก็เป็นผลตอบแทนที่มากมายมหาศาลอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ” “ฮ่า ฮ่า ขุนพล นายพูดได้ดีมาก” พ่อเลี้ยงหัวเราะอีกครั้ง เขาละสายตาจากขุนพลแล้วลุกจากโต๊ะ ไปหยุดยังหน้าต่าง ซึ่งภาพเบื้องหน้าคือสถานที่ซึ่งใช้ตอบสนองความต้องการของบรรดาผู้คนที่มีความโลภ ความไม่รู้จักพออยู่ในหัวใจ เขาก็เป็นแค่คนที่ตอบสนองคนพวกนั้นเท่านั้น “แต่การฆ่าคนนั้น ผมก็ยังเห็นว่าเป็นความผิดอยู่ดี” เสียงของขุนพล หยุดยั้งความคิดของพ่อเลี้ยงนเรนทร์ในที่สุด “สำหรับเหตุผลของนายใช่ไหม ขุนพล” “ใช่ครับพ่อเลี้ยง มันคือเหตุผลของผม แต่สำหรับของพ่อเลี้ยงนั้นจะคิดเช่นไร ผมไม่อาจไปขัดขวางหรือหักห้ามได้” “เหตุผลของฉันน่ะหรือ คือการล้างหนี้ให้กับตัวเองอย่างไรล่ะ ฉันเบื่อแล้วล่ะที่จะให้ตัวเองเป็นเจ้าหนี้ให้แก่คนที่ไม่รู้ว่าจะมาชดใช้หนี้สินของตนเองหมดเมื่อไร...” เขาหัวเราะหึในลำคอแล้วว่าอีก “แม้กระทั่งจนตาย ยังไม่รู้ว่าจะหมดหรือเปล่า เพราะดูเหมือนคุณหญิงทิพย์อาภาจะยิ่งสร้างหนี้ให้กับตัวเองเพิ่มมากขึ้น” “สู้ตัดไฟเสียแต่ต้นลมใช่ไหมครับ” “ใช่ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ตัดก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายให้กับฉันมากกว่านี้” ขุนพลถอนใจ...การตัดไฟของพ่อเลี้ยงนเรนทร์ มันจะยิ่งก่อสุมไฟให้เพิ่มมากขึ้นสิไม่ว่า เพราะการฆ่าคนล้วนแต่เป็นสิ่งผิด แม้ว่ากฎแห่งกรรมพ่อเลี้ยงจะไม่กลัวเกรง หากแต่กฎหมายจะไม่มีวันละเว้นเขาเช่นกัน ร้านอาหารกรกนก... การปรากฏโฉมของนางรำอีกคนเรียกเสียงปรบมือจากลูกค้าได้มากกว่าคราวแรก เมื่อศวิตาในชุดนางรำสวยงดงามออกมาร่ายรำกลางเวทีด้วยการแสดงชุดที่สองหลังเพื่อนสาวทั้งสองคนฉากตัวเข้าหลังเวทีไปแล้ว ศวิตาร่ายรำในชุดการแสดงระบำลพบุรี ด้วยชุดเสื้อผ้าอาภรณ์อันสวยสดงดงาม เวลานี้เธอเป็นเพียงหนึ่งเดียวบนเวที เป็นหนึ่งเดียวที่เรียกสายตาของผู้ชมให้มองตามทุกท่วงท่ากิริยาอันอ่อนช้อยของเธอ เสียงดนตรีอันไพเราะเสนาะหูยังคงดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับการจีบยกร่ายรำของนางระบำศวิตา ดั่งนางในวรรณคดีซึ่งหลุดออกมาจากหนังสือวรรณกรรมพื้นถิ่นอันลือชื่อ หลายเสียงชื่นชม หลายคนคลั่งไคล้ โต๊ะที่สิบสองซึ่งเป็นโต๊ะของนักท่องเที่ยว หนึ่งในผู้ร่วมโต๊ะนั้นเป็นนักวิชาการทางด้านวรรณกรรม ส่วนรอบๆ เป็นลูกศิษย์ลูกหาผู้ร่วมกรุ๊ปทัวร์ “ผมได้ยินกิตติศัพท์ของน้องคนนี้มานานแล้ว ไม่ผิดหวังเลยที่ได้เห็นเธอในวันนี้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัศจรรย์แห่งมหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคเหนืออุทานยามชม้ายชายตามองหญิงงามผู้ระบำกลางเวที “อาจารย์ว่าเธองามไหมครับ” นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งเอ่ย “งามขนาด งามมากเลย วิลิศมาหลา...” “อลังการล้านนาไทย ใช่ไหมคะอาจารย์” หญิงสาวอีกคนช่วยต่อคำให้จนเรียกเสียงหัวเราะไปทั้งโต๊ะ “ก็...ตามนั้นแหละจ้ะ” “ผมว่าเธองามเหมือนพระเพื่อนพระแพง สองศรีพี่น้องของวรรณกรรมลิลิตพระลอ อาจารย์ว่าอย่างไรครับ” “แม่หนูคนนี้งดงาม อ่อนหวาน ฉันก็ว่าเหมือนนายต้นกล้านะคะอาจารย์อัศจรรย์” อาจารย์ศรีตา หันไปปรารภกับผศ. อัศจรรย์ เพราะเห็นควรกับนักศึกษาหนุ่ม “ถ้าเธอมีฝาแฝด หรือขาวกว่านี้ อาจารย์ก็ว่างดงามอย่างสาวเหนืออย่างพระเพื่อนพระแพงนะ” “แต่ผมว่าถ้าวรรณกรรมท้องถิ่นนี้ ต้องแม่ตะเภาแก้วตะเภาทองนะครับ” นักศึกษาอีกคนแย้ง “ฉันว่าเธองามอย่างจินตหราวาตีมากกว่านะ” “จินตหรางามอย่างสาวแขก แม่หนูคนนี้ไม่เหมาะหรอก” อาจารย์ศรีตาแย้ง “ถ้าอย่างนั้นก็สุวรรณมาลี ในเรื่องพระอภัยมณี” คนเดิมออกความเห็น “งดงามแบบนี้ ไม่เหมือนทั้งพระเพื่อนพระแพง นางตะเภาแก้วตะเภาทอง นางจินตหราวาตีหรือนางสุวรรณมาลีหรอก เธองามอย่างนางรจนาต่างหากล่ะ” ผศ. อัศจรรย์สรุปในที่สุด “แต่รจนางามน้อยกว่าทุกนางนะคะอาจารย์” “งามน้อยงามมาก ไหนเลยจะงามเท่าจรรยาล่ะ แม่หนูคนนี้งดงาม อ่อนช้อย อาจารย์ว่าเธอจะต้องมีกิริยามารยาทอ่อนหวาน เชื่อสิ เดี๋ยวอาจารย์จะให้คนไปเรียกพวกเธอมาคุย ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ แม่หนูคนนี้จะต้องเป็นนางรจนาที่งดงามทั้งกายใจแน่ๆ เลย” ทั้งโต๊ะต่างนิ่งเงียบด้วยรอยยิ้ม เมื่อผู้เชี่ยวชาญสรุปขนาดนั้นแล้ว พวกเขาจะแย้งเห็นทีจะหาเหตุผลอะไรมาแย้งไม่ได้ เพราะเมื่อผศ. อัศจรรย์สรุปทุกอย่างย่อมเป็นจริงตามนั้น ฝ่ายนางรำบนเวทียังคงระบำโบราณคดีชุดระบำลพบุรีหรือระบำละโว้ต่อไปด้วยท่วงท่าทีอ่อนช้อยงดงามตามแบบฉบับของสาวงามที่พวกเขาต่างเชื่อว่าหลุดออกมาจากหน้าวรรณกรรม โดยเฉพาะเวลานี้...พวกเขาต่างเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า สาวงามตรงหน้าคือ... นางรจนา...ชายาของเจ้าเงาะสังข์ทองผู้หลุดออกมาเลือกหาคู่ของตนนั่นเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม