EP.03 บังคับลูกสาวให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก

882 คำ
EP.03 เวลาผ่านไป... จากทรัพย์สินที่มีเต็มมือ มันก็ค่อยๆ ลดทอนลงไปอย่างน่าใจหาย หลายวันมานี้ มันหมดไปกับการพนัน และหมดไปกับความหัวเสียเมื่อคุณหญิงใคร่อยากได้ให้มันกลับคืนมา จึงเร่งลงทุนไปเกือบเท่าตัว จนเวลานี้...ทุกอย่างหมดแล้ว “ทำไมมันหมดเร็วจังคราวนี้” นางนึกบ่น เพราะสินสอดกว่าเก้าล้านบาทกับการ ‘ขาย’ ลูกสาวคนที่สองให้แก่ลูกชายเจ้าของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง อันเป็นสถานีโทรทัศน์ชื่อดังระดับประเทศ แม้จะเป็นการแต่งงานแบบ ‘ยัดเยียด’ หากคุณทิพย์อาภายังฝากฝังบุตรสาวกับลูกเขยให้ดูแลมณียาอย่างดี และบอกกล่าวให้บุตรสาวรับรู้ว่า...ครอบครัว บางครั้งความรักก็ไม่ได้มาก่อนเสมอ “อยู่ๆ กันไป เดี๋ยวลูกก็รักเขาเองหรอกน่า” คุณหญิงปลอบขวัญบุตรสาวในวันแต่งงาน “แต่หนูไม่ได้รักเขานี่คะคุณแม่” มณียาน้ำตาไหล เมื่อเธอไม่ได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก หากแต่เป็นการจับคู่ทางสังคมของมารดาเธอกับมารดาของว่าที่สามี “หนูก็ไม่รู้ว่าพี่รามจะรักหนูหรือเปล่า” เธอยังนึกกลัว ราเมศเป็นถึงลูกชายเจ้าของสถานีโทรทัศน์ เขาเป็นคนหนุ่มที่มีคนรู้จักมากมาย ทั้งอนาคตยังมีอีกยาวไกล แต่กลับมาแต่งงานกับเธอ ไม่รู้ว่าเขาจะชอบใจหรือเปล่า แม่ของเธอให้เธอแต่งงานกับราเมศ ซึ่งทั้งสองแทบจะไม่ทันตั้งหลักเสียด้วยซ้ำ “แม่คุยกับพ่อรามแล้ว แม้ว่าเขาจะเพิ่งรู้จักกับเรา แต่เขาได้สัญญาแล้วนะว่าจะดูแลลูก จะไม่ทำร้ายจิตใจของลูกนะ” “แต่หนูยังกลัวอยู่นี่คะคุณแม่” เจ้าสาวยังไม่วายกลัว “เถอะน่า อยู่ๆ กันไป เดี๋ยวก็รักกันเองแหละนะ แม่เชื่อว่าพ่อรามเขาจะไม่ทิ้งลูกของแม่แน่” พูดปลอบใจให้ลูกสาวหยุดร้องไห้ ก่อนจะจัดการแต่งหน้าแต่งตาแล้วส่งตัวเข้าพิธีวิวาห์ไปในที่สุด “หมดแล้ว คุณน้องน่าจะกลับไปได้แล้วนะคะ” คุณหญิงคนหนึ่ง แต่งหน้าแต่งตาสวยเฉี่ยวหันมาตวัดตามองคุณทิพย์อาภาอย่างหยามเหยียด เงินท่าจะหมดแล้วสิ...ถึงได้บ่นแบบนั้น “ยังค่ะคุณพี่จัญไร เอ้ย คุณพี่จันทร์เป็ง” คุณทิพย์อาภายิ้มเหยียดมอง ‘คู่ปรับ’ ตลอดกาล อย่างไม่พอใจ “นี่ๆ คุณทิพย์ชรา กรุณาให้เกียรติกันบ้างสิ” นางจันทร์เป็งเริ่มเดือดเมื่อถูกเรียกว่า...จัญไร จากสนามการแข่งขันด้านเงินทอง เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสงครามน้ำลายไปชั่วพริบตา “คุณพี่มาว่าดิฉันก่อนทำไมล่ะคะ” “คุณพี่ไม่ได้ว่าคุณน้องนะคะ คุณพี่แค่ว่าถ้าเงินหมดคุณน้องก็ควรจะกลับทิพย์วิมาน ‘อดีต’ แห่งความรุ่งเรืองไปได้แล้ว เท่านั้นเองนะคะ” “นี่ไง ว่าดิฉันอีกแล้ว คุณพี่ปากเสีย” “ปากคุณพี่ไมได้เสียค่ะ คุณพี่แค่พูดความจริง” “ความจริงอะไร” ขึ้นเสียง ใบหน้าบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ ถึงแม้เธอจะเคยเป็นอดีตแห่งความรุ่งเรือง แต่สำหรับเชื้อสายของเธอซึ่งเคยสร้างความผาสุกให้แก่ผืนดินแผ่นนี้จนอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาจนถึงปัจจุบัน มันไม่ใช่ให้ใครมาว่ากล่าวหยามเหยียดได้ง่ายๆ เชียงมั่น...ยังคงเป็นเชียงมั่น มันยังเป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่จะให้ใครไม่รู้มาดูถูกได้ง่ายๆ “ก็ความจริงที่ว่า เชื้อสายของเจ้าหลวงสุรนนท์กำลังจะทำให้ตระกระตระกูลเสื่อมเสียอย่างไรล่ะคะ นี่ๆ คุณน้องไม่สงสารบรรพบุรุษหรืออย่างไร ในอดีตเป็นถึงเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ แต่เชื้อสายอย่างคุณน้องกลับมาทำเรื่องเสื่อมเสีย” “คุณพี่จันทร์เป็ง มันจะมากไปแล้วนะ” “มากอะไร ที่ดิฉันพูดมันความจริงทั้งนั้น” “โอเค พูดความจริงใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันก็จะพูดความจริงบ้างเหมือนกัน” “ความจริงอะไร คุณทิพย์อาภา” นางจันทร์เป็งเริ่มหันมองโดยรอบอย่างระแวง ผู้หญิงตรงหน้าจะขายอะไรเธออีก “ก็ความจริงที่ว่า ตระกูลแสงปาง เป็นแค่กบฏในเชียงมั่นอย่างไรล่ะคะ กบฏที่คิดจะทำลายบ้านเมืองตัวเอง” “อะไรๆ ถึงฉันจะเป็นเชื้อสายแสงปาง แต่ความจริงนั้นเป็นอย่างไร บรรพบุรุษเราย่อมรู้ดีนะคะ เพราะแสงปางนั้นน่าสงสารมาก อุตส่าห์ร่วมทุกข์ร่วมสุข ช่วยเหลือทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เป็นแค่โคถึกที่ถูกเชือดเมื่อเสร็จนาเท่านั้น” “หรือคะ...” ทิพย์อาภายิ้มเหยียดอย่างเหนือชั้น เพราะอย่างไรแล้วความจริงมันก็คือความจริง...ความจริงที่ว่าอย่างไรแล้วตระกูลพจนาสุรนนท์ยังเหนือกว่าตระกูลแสงปางของคุณจันทร์เป็งมาก ยิ่งนานสงครามน้ำลายก็ยิ่งเพิ่มพิกัดความเดือดขึ้นเรื่อยๆ เพราะยิ่งจะเริ่มสาธยายบัญชีแค้นบนหน้าประวัติศาสตร์อันเป็นไปของบรรพบุรุษมาด่ากันจนสุดท้ายก็พาลพาเข้าหาตัวเองเสียอย่างนั้น เห็นท่าจะไม่ดี บรรดาผู้ร่วมโต๊ะพนันก็จับทั้งสองแยกออกจากกัน นางจันทร์เป็งได้ทำหน้าที่ถลุงทรัพย์สมบัติของตนเองต่อ ส่วนคุณทิพย์อาภาก็ถูกลากออกมาจากตรงนั้นในที่สุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม