EP.02

1104 คำ
ทิวลิปจึงต้องปรับอารมณ์เป็นยิ้มหวานรับกล้องอย่างช่วยไม่ได้ที่เกิดมา ‘สวย เก๋ ดูดี’ แต่ว่าจะจริงเหรอ? หัวคิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นครุ่นคิดเพราะคานทองนิเวศดูเหมือนกำลังเปิดประตูรอรับเธออยู่แล้ว ก็นี่น่ะ 30 ฝนแล้วนี่นา... รถไฟขบวนไหนๆ ก็ไม่ผ่านมาให้เห็น แม้แต่เสียงหวูดเธอก็ยังไม่ได้ยิน          “ว่าไง... จะแนะนำเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้ไม่ต้องมาถามอีก พวกแกทั้งสี่คนนั่นแหละ ที่ต้องปรึกษากันเอาเอง เคยๆ กันแล้วทั้งนั้นนี่ ถามอยู่ได้คนไม่เคย”          ทิวลิปบ่นงุบ ดวงตาคมจัดจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางกวาดมองใบหน้าเพื่อนรักแต่คนละอย่างเอาเรื่อง ซึ่งทุกคนก็ยิ้มแหยราวกับสำนึกผิด แต่เธอรู้ว่านั่นน่ะภาพลวงตาชัดๆ เพราะแค่จิกกัดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ นังพวกนี้ไม่สลดหรอก          “โธ่... ทิวลิป พวกฉันขอโทษ ก็เห็นทุกครั้งถามไปแกก็ตอบได้ ฉันก็เลยคิดว่าแกเป็นกูรูผู้รู้จริง ก็ดันตอบได้ทุกครั้งหนิ” ลดาพูดให้สถานการณ์คลายลง เพราะเมื่อสักครู่นั้นเธอยังไม่ได้ทันได้อ้าปาก ทิวลิปก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาเสียก่อน          “ก็ใครล่ะที่ทำให้ฉันต้องตอบน่ะ สารพัดปัญหาช่างไม่ซ้ำกันเลยจริงจริ๊ง...” หนังสือปกขาวหลายเล่มถูกหยิบออกมาจากถุงและวางบนโต๊ะตามแรงอารมณ์เจ้าของ พร้อมกับรอยยิ้มเย็นๆ แต่เหี้ยมนักในสายตาของเพื่อนสาวทุกคน ก่อนน้ำเสียงหวานๆ จะสะท้านเข้าไปถึงหัวใจเพื่อน “เอ้า! ฉันซื้อให้พวกแก คนละเล่ม อ่านกันเข้าไป รับรองถ้าพวกแกเล่นครบทุกท่า ผัวรักผัวหลงแน่นอน ต่อให้สิบนังพวกนั้นก็สู้พวกแกไม่ได้หรอก และอย่ามาถามฉันอีกนะว่าทำไง เอาไปสิ!”          “ทิวลิป!”          เสียง 4 สาวโพล่งขึ้นพร้อมๆ กัน พร้อมกับมองหนังสือตรงหน้าสลับกับมองหน้าสวยเก๋ของทิวลิปไปมา ราวกับเห็นสิ่งแปลกประหลาด ‘Sex secret’ คือชื่อหนังสือที่เพื่อนสาวส่งให้ และเมื่อเห็นสายตาเอาจริงของทิวลิป เหล่าเพื่อนสาวก็เปลี่ยนใจมาคว้าหนังสือเปิดพลิกซ้ายพลิกขวาดูเนื้อหาด้านในทันที และภายในมีทั้งภาพประกอบสมจริงกับคำบรรยายอย่างละเอียด ก็ทำให้ทั้ง 4 สาวต้องกลืนน้ำลายลงคอ          “มิน่าล่ะ มันถึงชื่อว่า Sex secret อืม... บรรยายได้สมจริงแจ่มแจ๋ว”          “นังยุ!” เพื่อนสาวทั้ง 4 ร้องขึ้นพร้อมๆ กัน ทำให้ยุรนายิ้มแหยพลางรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าตามผองเพื่อนที่ต่างก็รีบเก็บเช่นกัน เพราะเริ่มกลัวกับสายตาโต๊ะข้างๆ มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ และกลัวสุดก็คือทิวลิปจะเปลี่ยนใจเอาคืนเสียก่อน “แหะๆ ลืมตัว ว่าแต่ทิวลิป แกจะบ้าเหรอ ซื้อมาทำไมตั้งสี่เล่ม ถามจริงแกมีเอี่ยวกับนักเขียนหรือไง กะซื้อให้เขารวยเลยมั้ง” อัมราถาม สายตาจับจ้องมองใบหน้าเพื่อนสาวโสดคนเดียวในกลุ่ม เพราะคิดภาพไม่ออกยามทิวลิปหอบหนังสือหลายเล่มนี้ไปให้พนักงานขายคิดเงิน เพื่อนเธอควรจะอายหรือพนักงานขายควรจะอายกันแน่ “ก็ฉันรำคาญเวลาพวกแกถามไง เลยตัดใจซื้อซะเลย แกจะได้เลิกถามฉันกันสักที ไปศึกษาด้วยตัวเองบ้าง เพราะพวกแกน่ะมีที่ทดลอง ไม่ใช่อะไรๆ ก็ถามแต่ฉัน ถามตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ และฉันจะบอกให้ว่านี่ไม่ใช่แค่สี่ แต่ยังมีอีกเพียบ” ทิวลิปยกถุงผ้าใส่หนังสือขึ้นมาวางบนโต๊ะ ยิ้มเมื่อเพื่อนสาวทำหน้าเหวอ “แม่เจ้า! ทิวลิป นี่แกจะบ้ารึไง ใจคอแกจะซื้อไปแปะข้างฝาบ้านแทนวอลเปเปอร์เลยเรอะ” อัมราส่งเสียงขึ้นในทันทีที่เห็นหนังสือปกขาวมองคร่าวๆ มากกว่า 5 เล่มเรียงกันอยู่ในถุง เพราะทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเล่มเดียวกับตำรารักลับๆ ที่พวกเธอพากันยัดใส่กระเป๋าไปเมื่อครู่ “ฉันซื้อมาหนึ่งโหล สำหรับพวกแกและบรรดาพี่ๆ น้องๆ ที่บริษัท ตลอดจนคุณลูกค้าทั้งหลายที่คิดว่าฉันเป็นกูรูผู้รอบรู้อย่างที่พวกแกเข้าใจ ได้ครบทุกคน ต่อไปนี้จะได้ไม่มีใครมาถามฉันเรื่องนี้อีก ฉันเซ็ง! ฉันเบื่อ!” “โอเค โอเค... ต่อไปนี้พวกฉันจะไม่กวนใจแกเรื่องนี้อีกแล้วนะ แกน่ะโชคดีแล้วนะทิวลิปที่อยู่เป็นโสด อย่ามีเล้ย... ครอบครัว แต่อย่างว่าล่ะนะเรื่องแบบนี้ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ฉันคงห้ามแกไม่ได้หรอกว่ะ” “นุจแกไม่ต้องมาบอก ชาตินี้ฉันก็ไม่คิดจะมีคู่อยู่แล้ว ถ้ามีแล้วต้องเจออย่างพวกแก สู้ฉันอยู่คนเดียวให้แห้งเหี่ยวอย่างนี้จะดีกว่า” พูดด้วยใบหน้ามั่นใจ แต่แววตานั้นกลับหมองไปด้วยความอ้างว้าง เมื่อมองไปทางไหนใครๆ ก็มีคู่ มาเป็นคู่ เดินเป็นคู่ แม้แต่นังพวกนี้ก็มีคู่ ถึงจะลุ่มๆ ดอนๆ ก็เหอะ ส่วนเธอล่ะ ‘อยู่คนเดียว... เปลี่ยวใจจุงเบย’ “นุจแกก็พูดเกินไป บางทีทิวลิปอาจจะไม่เจอเหมือนพวกเราก็ได้” “เออใช่เนอะ มันก็ไม่ได้เจอแต่เรื่องแย่ๆ เสมอไปซะเมื่อไหร่ ไม่เชื่อเย็นนี้แกลองเปิดใช้สักบทสองบทสิ รับรองเรื่องดีๆ มีมาแน่นอน” นุจรีและลดาพูดเย้าแหย่กันไปมา เพราะวันนี้ไม่ใช่คิวของเธอทั้งสองปรับทุกข์ แต่เป็นยุรนาที่สามีไปติดพันนักร้องห้องอาหาร เลยทำให้ทั้งสามนางที่เหลือดูจะยิ้มแย้มกันได้อยู่ ไม่เหมือนเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนที่ทั้งสามสาวก็มีสภาพไม่ต่างไปจากยุรนาสักเท่าไร ทิวลิปมองเพื่อนสาวของเธอพูดกันไปเถียงกันไป เรื่องทั้งหมดนั้นสร้างความชาชินให้กับเธอ เริ่มตั้งแต่พี่สาวทะเลาะตบตีกับพี่เขยไม่เว้นแต่ละวัน ตลอดจนพี่ป้าน้าอาญาติพี่น้องทั้งหลาย บางครอบครัวก็แยกกันอยู่ บางครอบครัวที่ยังอยู่ด้วยกันแต่ก็มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันได้ตลอด จนเธอชาชินและไม่คิดจะมีคู่ เพราะไม่เห็นใครสักคนจะมีความสุขที่จีรังนั้น เหมือนจะเข้าตำรา ‘ความสุขไม่จีรัง แต่ความทุกข์สิยั่งยืน’ “ทิวลิป เฮ้ย! ทิวลิป นี่แกฟังพวกฉันอยู่หรือเปล่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม