EP.09

1121 คำ
มุมชุดรับแขกตกแต่งในธีมสีชมพูหวาน ซึ่งประกอบไปด้วยโต๊ะไม้สีขาวหลายตัววางอยู่ในมุมต่างๆ โดยมีเบาะรองนั่งที่ตัดเย็บจากผ้าสีขาวนวลแต่มีลวดลายเป็นใบไม้เล็กๆ สีเขียวกระจุกรวมกันเป็นกลุ่ม ทิวลิปคิดว่าช่างเข้ากับผนังสีชมพูหวานอย่างสุดๆ นั้น และที่ทำให้สะดุดใจอย่างที่สุดก็คือ ‘ผ้าหุ้มเบาะรองนั่ง’ หากสังเกตจะพบว่าสิ่งที่อยู่บนผืนผ้าสีขาวนวลที่มีใบไม้สีเขียวเล็กๆ แซมอยู่นั้น มีช่อดอกแก้วสีขาวสะอาดตาปักเป็นลายนูนอยู่ด้วย ความประณีตสวยงามนั้นมากเสียจนทำให้เธอไม่กล้าจะหย่อนก้นลงนั่งที่เบาะนั้นได้อย่างเต็มที่ ผิดกับอีกสองสาวฝั่งตรงกันข้ามที่นั่งลงในทันทีโดยไม่ได้สนใจมองเธอเลยสักนิด เพราะสิ่งที่เด็กสาวสนใจก็คงจะมีแต่เจ้าของร้านรูปหล่อเท่านั้น ตำแหน่งที่เธอเลือกนั่งหรืออาจจะเรียกได้ว่าโดนบังคับให้นั่ง เพราะแม่น้องก้อยคนงามรีบเดินแซงเข้ามาก่อน คงเพราะกลัวจะไม่ได้ตำแหน่งที่หมายปอง ทว่าตำแหน่งที่โดนบังคับกลายเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดไปซะงั้น เพราะภาพสะท้อนจากในกระจกที่เห็นทำให้เธอแอบมองเขาได้อย่างถนัด โดยไม่ต้องอึดอัดจากสายตาของแม่น้องก้อยคนงามที่ทำกิริยาตาขวางใส่เธอ และที่สำคัญ ‘เขา’ คนที่เธอแอบมองกิริยาหยิบจับสิ่งของและจัดดอกไม้อย่างคล่องแคล่วชำนาญสมกับเป็นมืออาชีพนั้น... ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ว่าตกเป็นเป้าของสายตาอยากรู้อยากเห็นในตัวตนของเขาเข้าแล้ว และก็มากมายเสียจนเธอ ไม่อาจละสายตาไปที่ไหนได้สักเสี้ยววินาที ร่างสูงสมส่วนอีกทั้งอกผายไหล่ผึ่งในวันนี้ สวมเสื้อโปโลสีขาวสะอาดตา หน้าอกปักตัวอักษรสีชมพูเป็นชื่อร้าน ‘สุภาพร’ ใบหน้าหล่อสะอาดๆ ของเขาดูเกลี้ยงเกลา แต่ก็ยังคงเห็นไรหนวดสีเขียวจางดูเข้มกว่าเมื่อวานเล็กน้อย จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากเรียบตรงทว่ากลับมีสีแดงสดเหมือนทา ‘ลิปสติค’ ‘แล้วจริงมั้ย’ นั่นล่ะคือปัญหาที่เธอต้องหาคำตอบ แต่จะด้วยวิธีทางใดนั้นเธอก็ยังไม่รู้ รู้แต่เพียงว่า แววอ่อนโยนในดวงตาของเขา ที่มองช่อดอกไม้ไปมาสลับกับเลือกโบว์จะใช้ให้เข้ากับช่อ กลับทำให้เธออยากจะกลายร่างจากดอกทิวลิปไปเป็นดอกกุหลาบสีโอโรสช่อนั้นนัก แต่เธอคิดคนเดียวเสียเมื่อไรล่ะ ในเมื่อเสียงดังอยู่ไม่ไกลนั้นเรียกใบหูของเธอให้ลุกตั้งเข้าแล้ว “แก ฉันอยากกลายร่างเป็นกุหลาบช่อนั้นอ่ะ แกดูเวลาพี่หินเขามองดอกไม้สิ แทบจะกลืนกิน เขาจะมีแววตาอย่างนั้นไว้มองฉันบ้างมั้ยนะ” “ฝันเฟื่องเลยแก ไม่มีวันที่พี่เขาจะมองแกแบบนั้นหรอก แกไม่รู้หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ยายก้อย ไม่รู้รึไงว่าพี่เขาเป็นอะไรอ่ะ นังบ้า!” ทิวลิปหูผึ่งไปกับคำพูดโต้ตอบของสองสาว โดยเฉพาะคำพูดสุดท้ายที่เจ้าตัวพยายามพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นหูเรดาห์อย่างเธอไปได้ สิ่งที่ได้ยินแล้วอยากจะเอาน้ำล้างรูหูนัก แต่ทำได้ก็แค่เพียงพร่ำบ่นตัวเองอยู่ในใจเท่านั้น ‘ไม่น่าเลยไอ้ทิวลิป อยากรู้เรื่องคนอื่นดีนัก ไม่! ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาตอกย้ำ’ “ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อว่าพี่หินจะเป็นอย่างนั้น ฉันจะพิสูจน์ เป็นไม่เป็นฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าฉันจะทำให้พี่หินชอบฉันให้ได้ และถ้ามันเกิดเป็นจริงขึ้นมา ฉันอาจจะได้เขียนหนังสือ ‘ได้หน้าลืมหลัง’ ก็ได้นะแก” “นังก้อย นังบ้า! เกรงใจพี่เขาบ้างสิ พูดจาไม่มีหูรูด เอ่อ... พี่คะหนูขอโทษแทนเพื่อนหนูด้วยนะคะ เขาไม่ค่อยเต็มน่ะค่ะ” เด็กสาวตัวอ้วนหันมาขอโทษเธอ ก็น่าจะขอโทษอยู่หรอกเพราะนังน้องก้อยคนงามนั่นเล่นพูดซะเห็นภาพขนาดนั้น แต่เธอจะทำอะไรได้ล่ะก็แค่ยิ้มรับเท่านั้น แค่ยิ้มจะพอเหรอในเมื่อนังหน้าสวยนั่นเล่นเบนสายตามาจ้องเธอตาไม่กะพริบ เหมือนเป้าหมายใหม่ของนางก็คือตัวเธอนี่แหละ “พี่คะ พี่เป็นเพื่อนของพี่หินใช่มั้ยคะ บอกหนูหน่อย พี่หินเป็นเกย์จริงๆ หรือเปล่า” ‘นั่น! คำถามตรงใจที่สุด’ ถ้าไม่ใช่ว่านังน้องก้อยจะหันมาถามเธอ ความรู้สึกก็คงจะดีกว่านี้ เพราะจะบอกได้ยังไงว่าเธอก็อยากจะตะโกนถามแม่นักศึกษาสาวก๋ากั่นคนนี้เหลือเกินว่า ‘จริงหรือไม่จริง’ ที่เขาเป็น แต่กลายเป็นว่านังเด็กนี่ดันมาถามเธอก่อน แล้วเธอล่ะควรจะตอบว่าไง “พี่คะ หนูขอร้องล่ะค่ะ พี่บอกหนูหน่อยเถอะ ว่าพี่หินเขาเป็นเกย์จริงหรือเปล่า พี่เป็นเพื่อนเขา พี่น่าจะรู้” “นังก้อย! แกรู้ได้ไงว่าพี่เขาเป็นเพื่อนของพี่หิน เขาอาจจะเป็นลูกค้าก็ได้ นังบ้า! ดันไปถามพี่เขาแบบนั้น” แม่สาวร่างอวบยึดต้นแขนเพื่อนกระซิบกระซาบขณะแววตามองมาที่เธออย่างขอโทษขอโพยอีกครั้ง แต่ทั้งหมดนั่นแม่เพื่อนสาวคนสวยไม่ได้สนใจเลยสักนิด เพราะหล่อนยังคงนั่งมองมาที่เธอตาแป๋วอย่างที่ว่า ถ้าไม่ได้คำตอบก็คงจะไม่หยุดรุกเร้า และนั่นจะกลายเป็นสิ่งทำลายเวลาอันมีค่าที่เธอจะใช้สำรวจตรวจตราเขาผ่านกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนทุกอิริยาบถ สมองสั่งการโดยไม่ต้องคิด เพราะทุกความคิดก็ล้วนมาจากจิตใต้สำนึกในสมอง ทิวลิปยิ้มที่มุมปากนิดๆ อย่างประหม่าอายที่จะพูด กิริยาแบบนี้เธอชอบนักเพราะนั่นหมายถึง ‘นางมารร้าย’ ได้กำเนิดแล้ว “น้องคะ... ข้อแรก พี่หินไม่ได้เป็นเกย์ค่ะ พี่เขาแมนทั้งแท่ง” รอยยิ้มของน้องก้อยที่ปากแทบจะฉีกไปถึงใบหู ทำให้เธอต้องยิ้มตาม ก่อนจะพูดต่อในข้อสองที่สำคัญมากๆ “และข้อสอง พี่ไม่ได้เป็นเพื่อนกับพี่หินค่ะ แต่พี่เป็น...” “เป็นอะไรคะ พี่เป็นอะไรกับพี่หิน พี่...” “แฟน พี่เป็นแฟนของหิน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม