" มึงปล่อยในหรอ ทำไมมึงไม่ใส่ถุง ไม่ป้องกันแบบนี้ถ้ากูท้องขึ้นมาจะทำยังไง "
ฉันตกใจมากที่เขาไม่ป้องกันเลย กับคนอื่นก็คงเป็นแบบนี้สินะ
" กูลืม....มึงก็กินยาเอาแล้วกัน แต่ถ้าท้องขึ้นมาจริงๆก็แค่เลี้ยงไง ลูกกูกูเลี้ยงได้ "
จริงๆแล้วผมไม่ได้ลืมหรอก ผมตั้งใจที่จะไม่ใส่ต่างหาก ปกติแล้วเวลาผมมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนผมป้องกันทุกครั้งไม่เคยพลาด แต่กับเธอผมกลับไม่ใส่มัน ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ผมก็ไม่อยากคิดแล้วด้วยคิดแล้วก็ปวดหัว
" มึงทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนที่มึงนอนด้วยหรอ กูจะติดโรคจากมึงไหมเนี่ย "
" มึงสบายใจได้ กูมั่นใจว่ากูปลอดภัย กับคนอื่นกูป้องกันทุกครั้งไม่เคยพลาด กูสดแค่กับมึงคนเดียว ก็มึงมันน่าเอากูเลยอดใจไม่ไหว "
คนบ้า!!! พูดอะไรออกมาไม่รู้ตรงขนาดนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนกันแต่ฉันก็อายเป็นนะ พูดอะไรตรงขนาดนี้บางทีก็อ้อมค้อมบ้างก็ได้ มึงจะรู้ไหมว่าตอนนี้หัวใจกูมันเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วเนี่ย
" ลงจากตัวกูได้แล้ว แล้วก็เอาไอ้นั่นมึงออกไปด้วย "
ฉันพูดออกมาอย่างเขินอาย หน้าฉันคงแดงเป็นลูกตำลึงแล้วมั้งตอนนี้
" กูไม่ลง มึงยั่วกูเองนะ มึงต้องรับผิดชอบเพราะว่ากูกินดุ กูยังไม่อิ่ม เพราะฉะนั้นกูจะไม่หยุด "
ผมพูดออกไปแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก มันก็จริงนะครับยัยตัวเล็กนี่สวยขนาดนี้ผมกินครั้งเดียวจะอิ่มได้ยังไง
" แต่กูเหนื่อยแล้ว แล้วกูก็ง่วงด้วย "
ฉันไม่ว่าเปล่ายกมือขึ้นผลักตรงหน้าอกเขาลงจากตัวฉันไปด้วย แต่ฉันก็ตัวเท่ามดแค่นี้เมื่อเทียบกับเขา แล้วเขาไม่ขยับเลยน่ะสิ
" กูบอกแล้วไงว่ากูกินดุ "
ผมหยุดพูดเพียงแค่นั้นแล้วผมก็ทำการขยับมังกรตัวใหญ่ตัวขึ้นลงช้าๆเป็นจังหวะเนิบนาบ พอสักพักคนตัวเล็กใต้ร่างของผมก็เริ่มมีอารมณ์ร่วมขึ้นมา จากนั้นผมก็ไม่ให้เธอนอนอีกเลยจนเกือบรุ่งเช้า เธอสลบคาอกผมไปก่อนผมจึงปล่อยให้เธอได้นอน ผมกระชับร่างบางเข้ามากอดไว้อย่างหวงแหนแล้วห่มผ้าให้ กลัวว่าเธอจะหนาวพรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ค่อยว่ากันละกัน
เช้าวันต่อมาผมตื่นก่อนยัยตัวเล็ก เธอยังนอนอู้อี้อยู่ในผ้าห่มอย่างสบายใจ ผมลุกขึ้นมาออกกำลังกายทุกเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว ผมไปวิ่งในห้องออกกำลังกายซึ่งอยู่ภายในคอนโดส่วนตัวของผมเอง พอผมออกกำลังกายเสร็จเดินเข้ามาหาเธอที่ห้องเธอก็ยังหลับอยู่ผมจึงเดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำข้าวต้มร้อนๆให้เธอทานในตอนเช้า ปกติผมไม่ค่อยทำอาหารสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะทำไม่เป็นเลย เพียงแต่ว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ชิมฝีมือของผมนอกจากแม่ของผมเท่านั้น
นิสา
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเมื่อยล้ามองไปรอบๆก็ไม่เจอเขาแล้ว
" ไปไหนของเขานะยังเช้าอยู่เลย "
ฉันบ่นพึมพำออกมาคนเดียว แล้วคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน คิดแล้วก็รู้สึกอายที่ตัวเองไปอ่อยผู้ชายก่อนแบบนั้น ถ้าหากว่าเขาจะไม่รับผิดชอบก็คงไม่ใช่ความผิดของเขา ฉันเข้าใจดีเพื่อนฉันคนนี้เป็นคนเจ้าชู้ ถ้าจะให้มาหยุดอยู่ที่ฉันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะว่าเขาไม่ได้รักฉันเลย ฉันจึงไปนั่งทบทวนเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมากับตัวเองอยู่สักพักจึงตัดสินใจแล้วว่าจะให้มันจบแค่วันนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะคงอยู่เหมือนเดิมฉันจะคุยกับมันว่าเราจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น หลังจากนั้นฉันก็รีบเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกาย เสร็จแล้วก็ออกมาข้างนอกแต่เมื่อฉันมองชุดเสื้อผ้าของฉันที่มันกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นห้องตอนนี้มันขาดหลุดลุ่ยไปหมดแล้วก็คงใส่ไม่ได้แล้วสินะ ฉันจึงถือวิสาสะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเขาแล้วหยิบเสื้อเชิ๊ตตัวที่เล็กที่สุดมา หนึ่งตัวเพื่อสวมใส่ แต่ตัวที่เล็กที่สุดของมันก็ใหญ่มากสำหรับฉันอยู่ดี หลังจากที่ฉันใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวก็เดินออกมาข้างนอกรู้สึกโหวงๆอยู่เหมือนกันเพราะไม่ได้ใส่ชุดชั้นในเลยเนื่องจากมันขาดไปหมดแล้ว
" อ้าว....มึงตื่นแล้วหรอ นั่งก่อนสิ เช้านี้กูทำข้าวต้มไว้ให้มึงกินเผื่อมึงจะยังแฮงค์อยู่ "
ผมพูดกับเธอตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะผมจะรอให้เธอทานข้าวเสร็จค่อยพูดธุระของเรา
" ขอบใจมากนะ กำลังหิวอยู่พอดี "
ฉันพูดเพียงแค่นั้นก็นั่งลงแล้วทานข้าวต้มจนหมดชาม เมื่อทานเสร็จแล้วฉันก็เก็บไปล้างทำความสะอาดทั้งจานของฉันแล้วก็ของเขาด้วย
เสร็จแล้วเขาก็เรียกฉันไปหาอยู่ที่โซฟาตรงโซนห้องนั่งเล่นฉันเดินไปหามันแล้วก็นั่งลง ได้เวลาคุยกันแล้วสินะ เขาเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน
" คือ....เรื่องเมื่อคืน....กูขอโทษนะ กูยั้งอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่จริงๆ "
เขาพูดกับฉันแล้วมองหน้าฉันนิ่งเหมือนรอคำตอบว่าฉันจะพูดออกไปแบบไหน แต่ฉันไม่อยากผูกมัดเขาหรอกนะ เขายังมีสิทธิ์เลือกอีกตั้งเยอะแถมฉันกับเขาต่างกันขนาดนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วเรื่องนี้ฉันเข้าใจดี
" เรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ความผิดมึงคนเดียวหรอกกูก็เมา ปล่อยมันไปเถอะอย่าถือสาเลย แค่ครั้งเดียวกูไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว "
เอกการแสดงอย่างฉันก็ต้องปั้นหน้าไปสิ!! ว่าตัวเองโอเคกับสถานการณ์ตรงนี้ ทั้งที่ในใจของฉันมันกำลังรู้สึกหน่วงๆแต่ฉันก็ต้องอดทน
" มึงจะให้กูรับผิดชอบยังไงว่ามาได้เลยนะแต่ถ้าให้กูรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกูยังไม่พร้อมมีพันธะกับใครตอนนี้ มึงเข้าใจกูใช่ไหม "
ผมพูดออกไปตามตรง ผมรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้เธอผมชอบเธอ แต่สำหรับผมเองผมยังไม่พร้อมที่จะผูกมัดกับใครด้วยทั้งปัญหาทางธุรกิจ ถ้าดึงเธอเข้ามาเธออาจจะเป็นอันตราย และยังมีเรื่องคู่หมั้นที่ผมยังเคลียร์ไม่เสร็จอีก แล้วอีกอย่างผมยังไม่แน่ใจว่าผมรักเธอไหม หรือว่าผมแค่ชอบเธอเท่านั้น
" มึงไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรกูทั้งนั้นนะเรื่องนี้มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปต่อจากนี้ไปเราจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ไม่ต้องบอกเพื่อนๆมึงเข้าใจไหม "
" อืมมม "
ผมตอบออกไปแค่นั้น แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบสงบไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งนั้น จนผมต้องเลี่ยงพูดเรื่องอื่นขึ้นมาแทนเพื่อลดความอึดอัดตรงหน้า
" วันนี้มีเรียนบ่ายมึงไปพร้อมกูนะ "
" กูไม่มีชุดใส่แล้ว เดี๋ยวกูจะกลับคอนโดก่อน แยกกันไปแหละดีแล้วไปด้วยกันเดี๋ยวเพื่อนเขาก็สงสัยหรอก "
ฉันว่าออกไปแค่นั้นแต่เขาก็ทำตาเขียวปั๊ดส่งมาให้ฉัน
" มึงต้องไปกับกู กูไม่ให้มึงไปคนเดียวแล้วก็ไม่ให้มึงไปกับใครทั้งนั้น เข้าใจมั้ย "
" อะไรของมึงเนี่ยอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไปก็ไปสิมาทำตาเขียวใส่กูทำไม "
ฉันพูดแค่นั้นจากนั้นเขาก็พาฉันเดินมาที่รถสปอร์ตคันหรูของเขา เพราะว่าตอนนี้ก็เริ่มจะสายมากแล้วเดี๋ยวไม่ทันเข้ามหาวิทยาลัยไหนจะแวะคอนโดของฉันอีก
เมื่อมาถึงคอนโดของฉันเขาก็ลงจากรถและเข้าไปในห้องพร้อมกับฉันพร้อมกับขอคีย์การ์ดสำรองของห้องฉันเอาไว้ที่เขาอีกด้วย ซึ่งทีแรกฉันก็ไม่ให้แต่ทำไงได้ล่ะเคยขัดใจได้ซะที่ไหน สุดท้ายเขาก็เอาไปจนได้ หมดกันอิสรภาพของฉัน ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยที่ไปอ่อยมันเมื่อคืน เฮ้อออ!! ฉันได้แต่คิดในใจและถอนหายใจออกมาซ้ำๆ