บทที่14) เหตุผล
"รู้จัก! นี่บังอรน้องสาวฝาแฝดไอ้อินทร์"
"น้องสาว!"
บังอรที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าน้ำอบกำลังเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นผู้หญิงอีกคนของพี่ชายตัวเองก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูหญิงสาว
"บังอรเหมือนพ่อ แต่พี่อินทร์เขาเหมือนแม่นะจ้ะพี่สะใภ้" เพราะคนตรงหน้าสวยหมดจดขนาดนี้สินะถึงทำให้พี่ชายของเธอถึงกับหาทางกลับบ้านไม่เจอเป็นเวลาสามเดือนด้วยกัน...
"อ๋อ...จ้ะ"
"พี่อายขับรถกลับเองไหวไหมจ๊ะ? พอดีบังอรมีเรื่องที่จะต้องคุยกับพี่สะใภ้นิดหน่อยจ้ะ"
"ไหว" นางอายขานรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักหากแต่เพราะบังอรเป็นคนดีมากเธอจึงไม่อยากที่จะขัดขวางความต้องการของบังอร
"พี่สะใภ้ช่วยบังอรพยุงพี่อินทร์ขึ้นรถหน่อยจ้ะ"
น้ำอบที่ยังตกตะลึงกับเรื่องเมื่อก่อนหน้าได้แต่พยักหน้าหงึกหงักและเข้ามารองรับร่างสูงใหญ่นั้นตามคำขอของบังอรแต่โดยดี
"ขับรถดีๆนะจ๊ะพี่อาย บังอรขอยืมตัวพี่สะใภ้แปบนึงนะจ๊ะ"
"อืม"
โรงพยาบาลรัญวีนครศรีธรรมราช
"พี่เดช!" น้ำอบถลาเข้าหาคนหน้าคุ้นที่นอนหมดสติอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลด้วยความตกใจ
"ใครทำอะไรพี่เดช! บอกน้ำอบได้ไหมจ๊ะพี่เดช"
"แม่บังอรเอง" เพราะไม่อยากที่จะเห็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ทะเลาะกันเพราะความเข้าใจผิดไปนานกว่านี้บังอรจึงออกปากเอ่ยเล่าถึงความจริงบางอย่างให้น้ำอบได้รับรู้
"อะไรนะจ๊ะ!"
"หลายเดือนก่อนที่พี่อินทร์หายไปแล้วแม่ก็พยายามตามหา แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็สืบหาไม่เจอ จนวันนึงแม่เห็นพี่คนนี้ที่กำลังทำท่าทางเหมือนกับว่าสะกดรอยตามตัวเองอยู่เลยตลบหลังโดยการล่อให้พี่คนนี้ขับรถตามไปใกล้ๆกับโกดังเก่าก่อนแม่จะบอกให้คนของแม่รุมทำร้ายพี่คนนี้และเค้นถามพี่เขาว่าเป็นคนของพี่สะใภ้ใช่ไหม และเพราะคำตอบที่ได้มันไม่ตรงกับที่แม่ของบังอรอยากจะได้ยินพี่เขาเลยต้องได้รับบาดเจ็บหนักถึงขนาดนี้จ้ะ"
น้ำอบถึงกับเอามือทาบอกหลังจากได้ยินเรื่องราวดังกล่าว มาถึงตอนนี้เธอถึงพึ่งจะนึกถึงคำตักเตือนของนางอายที่ว่าอย่าได้ตกลงปลงใจคบหากับนายอินทร์...
"แต่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะตอนนี้แม่ของบังอรถูกขังอยู่ในตะรางแล้วจ้ะ" บังอรไม่รู้สึกอายใครสักนิดที่แม่ของตัวเองจะต้องติดคุกเพราะสำหรับเธอแล้วในครั้งนี้แม่ของเธอสมควรที่จะได้รับบทเรียน...
"แม่ของคุณบังอรท่านไม่ยินดีที่จะให้น้ำอบคบกับนายอินทร์ใช่ไหมจ๊ะ" แม้พอจะรู้คำตอบอยู่บ้างแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากที่จะแน่ใจเพื่อที่จะได้เดินจากไปอย่างไร้ข้อกังขาใดๆอีก
"แม่บังอรเขาค่อนข้างจะหวงพี่อินทร์นะจ้ะ เลยอาจมีบางการกระทำที่ดูเหมือนจะเกินไป และถ้าจะให้บังอรพูดตรงๆก็คือสิ่งที่ทำให้แม่อาการหนักขนาดนี้เพราะแม่กลัวว่าใครจะมาแบ่งความรักไปจากพี่อินทร์นะจ้ะ"
บังอรเลือกที่จะบอกไปตรงๆอย่างไม่หมกเม็ดเพราะไม่มองไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องปิดบัง
สำหรับบังอรแล้วเรื่องข้างต้นที่เธอกล่าวมาเป็นเรื่องพื้นฐานที่น้ำอบซึ่งเป็นแฟนของพี่ชายควรจะรับรู้...
และหากน้ำอบคิดว่าตัวเองไม่ไหวจะได้ถอยออกไปตั้งแต่เนิ่นๆโดยไม่ต้องเสียเวลามากไปกว่านี้
หรือถ้าหากน้ำอบยืนยันว่าไหว บังอรก็คิดว่าบางทีข้อมูลในส่วนนี้ของเธอก็อาจจะพอช่วยให้น้ำอบรับมือกับแม่ที่สุดแสนจะเอาแต่ใจของเธอและพี่ชายได้อย่างถูกทางนั่นเอง
"แม่ทุกคนรักลูกบังอรรู้...
"ไม่จริงหรอกจ้ะบังอร ไม่ใช่แม่ทุกคนที่จะรักลูก" เมื่อได้ยินประโยคที่เปรียบเสมือนนิทานหลอกเด็กสำหรับเธอนั้นน้ำอบก็แทรกขึ้นมาอย่างลืมตัวว่าตัวเองกำลังเสียมารยาทมากแค่ไหน
"ขอโทษที่เสียมารยาทจ้ะ ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปช่วยไปส่งน้ำอบที่บ้านหน่อยเถอะจ้ะ"
"พี่สะใภ้จะเลิกกับพี่อินทร์จริงๆเหรอจ๊ะ" แม้จะทำใจอยู่บ้างแล้วว่าอย่างไรเสียหญิงสาวก็คงจะไม่คิดที่จะอยู่ต่อหลังจากที่รับรู้ถึงธาตุแท้แม่ของตัวเองหากแต่เพราะบังอรรู้สึกถูกชะตากับน้ำอบจึงทำให้เธอรู้สึกใจเสียอยู่ไม่น้อย
"น้ำอบไม่รู้จริงๆจ้ะว่าจะต้องทำยังไงต่อ"
"ถ้าบังอรรับประกันว่าแม่ของบังอรจะไม่มาวุ่นวายกับพี่เดชหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้จะเปลี่ยนใจไม่ไปจากพี่อินทร์ไหมจ๊ะ"
พี่ชายของเธอไม่เคยมีความรักมาก่อนเพราะมีแม่ที่คอยขัดขวาง การที่พี่ชายยอมหายหน้าไปถึงสามเดือนอย่างไม่เกรงกลัวว่าแม่นั้นจะเหงาเหมือนที่ผ่านๆมามันคงจะเป็นตัวยืนยันชั้นดีแล้วว่าพี่ชายของเธอรักน้ำอบมากแค่ไหน
"น้ำอบยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้จริงๆจ้ะ"
อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช
"พี่ไม่ไปพี่จะอยู่ที่นี่" บังอร น้ำอบ นางอายและนายโอ่ง ใช้เวลามาร่วมชั่วโมงเห็นจะได้ในการช่วยกันดันร่างใหญ่ของนายอินทร์ให้กลับขึ้นรถไปพร้อมกับบังอร หากแต่สุดท้ายนายอินทร์ก็ยังคงดึงดันว่าตัวเองจะไม่ไปไหนซ้ำยังทิ้งตัวลงนอนอยู่บนถนนลูกรังหน้าบ้านของน้ำอบอีกต่างหาก
"พี่อินทร์จ๊ะลุกขึ้นเถอะจ้ะ กลับบ้านเถอะนะจ๊ะ" น้ำอบพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบร่างใหญ่ที่กำลังเมาได้ที่อย่างเอาอกเอาใจ
"ถ้าพี่กลับน้ำอบก็จะทิ้งพี่! พี่ไม่กลับพี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น! พี่จะนอนตรงนี้จนกว่าน้ำอบจะยืนยันว่าจะไม่ทิ้งพี่ไปไหน!"
น่าสงสารพี่เขานะคะทุกคน