ช่วงบ่ายเก้าพาฉันออกมาข้างนอกค่ะ ดีหน่อยที่วันนี้ใส่ชุดพละจึงไม่เป็นปัญหากับฉันมากนักเพราะมันไม่รุงรังเหมือนกระโปรงนักเรียนไง
“ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย” ฉันบ่นใส่คนตรงหน้าที่ตอนนี้เขาพาฉันมาเล่นเกมส์ที่ห้างสรรพสินค้าแถวหน้าโรงเรียนค่ะ มันเป็นตู้หยอดเหรียญ
“ไม่มีใครสนใจหรอก” เก้าเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจมากนักก่อนจะเลือกเกมส์ที่ตัวเองอยากเล่นแล้วหันมาถามฉัน “เธออยากเล่นอะไร”
“เราเหรอ...” พลางกวาดสายตาไปรอบบริเวณก่อนจะเห็นสิ่งหนึ่ง “เราจะไปคีบตุ๊กตา”
“นี่เหรียญ”
“เรามี”
“เอาไปเถอะ” ยัดใส่มือฉันแล้วหันไปสนใจเกมส์ตรงหน้าต่อ
เลิกสนใจเก้าฉันก็ตรงไปยังตู้คีบตุ๊กตาทันทีเหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายนะคะ มองคนอื่นคีบอยู่นานมากกว่าจะลองคีบเอง
ครั้งแรกไม่ได้ค่ะ ครั้งที่สองก็ไม่ได้เช่นกัน มันหมิ่นเหม่และชวนให้อยากได้มากขึ้นไปอีก อารมณ์เหมือนอยากเอาชนะนั่นแหละ
“รอบนี้ไม่ได้จะเลิกเล่นแล้วนะ” พึมพำออกมาแล้วหยอดเหรียญอีกครั้งก่อนจะใจจดใจจ่อไปที่ตุ๊กตาตรงหน้า... “เย้!” ลืมตัวดีใจซะเสียงดังเชียวค่ะ ฮ่า ๆ
“เหมือนเด็ก!” หันไปมองแทบจะทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้ “เดี๋ยวก็คอหักหรอก”
“นายเงียบไปเลย เราคีบตั้งหลายครั้งนะกว่าจะได้” ฉันว่าพลางยื่นตุ๊กตาในมือให้คนตรงหน้าดูอย่างภาคภูมิใจ
“ตัวนี้มันฟลุ๊คหรอก ที่เธออยากได้มันตัวสีชมพูต่างหาก” เก้าว่ายิ้ม ๆ แล้วหยอดเหรียญใส่ตู้
“รู้ได้ยังไงอะ” ใช่ค่ะ มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตัวนี้ก็น่ารักแต่ว่ามันคนละสีเท่านั้นเอง
“ใช้จิตสัมผัสเอา”
“โวะ!”
“ฮ่า ๆ”
เลิกสนใจฉันเขาก็หันไปตั้งใจคีบเจ้าตัวนั้นค่ะ และแน่นอนว่าเก้าได้มันมาโดยง่ายดาย...
“อะไรวะ! เราคีบตั้งนานไม่ได้”
“ฮ่า ๆ ขี้โวยวายนะเราอะ” ถึงกับมองบนใส่เลยค่ะ น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย “อะ...ให้” น้องสีชมพูแสนน่ารักถูกยื่นมาตรงหน้าฉัน
“ให้แล้วให้เลยนะ”
“อืม”
หมับ!
เขาอุตส่าห์ตั้งใจให้ถ้าไม่รับไว้คงเสียน้ำใจแย่เลย “ขอบใจนะ”
“เรา...”
... : มาทำอะไรกัน! ทำไมไม่เข้าโรงเรียน
“...” มองหน้าสบตากันนิ่ง ๆ ไม่ต้องหันไปมองเลยค่ะว่าคำพูดนี้มันเสียงของใคร ที่แน่ ๆ ยังอยู่ในชุดนักเรียนกันทั้งสองคนและสิ่งที่เราควรทำคือวิ่ง!
... : นักเรียนหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!
แขนข้างหนึ่งถูกรั้งไปโดยไม่ทันตั้งตัว เก้าพาฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้นและตรงไปที่ลานจอดรถทันที ถึงกับหอบแฮกเลยทีเดียว
“เหนื่อย!” หายใจแทบไม่ทันเลยค่ะ
“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ”
“นายแกล้งกันชัด ๆ เลย ก็ว่าอยู่โดดเรียนแต่พามาเล่นเกมส์หน้าโรงเรียน”
“ต้องลองสักครั้งนะเธอจะรู้ว่ามันตื่นเต้นแต่ตอนนี้อย่างเพิ่งบ่นเราต้องรีบไปกันก่อน”
ตื่นเต้นจริง ๆ นั่นแหละแต่เหนื่อยฉิบหายเลยหายใจแทบไม่เป็นจังหวะ
เก้าพาฉันเข้าถนนเล็กอีกแล้วค่ะ เข้าซอยนั้นออกซอยนี้จนมาถึงทางเข้าวัดแห่งหนึ่ง
“พามาปฏิบัติธรรมหรือไง”
“แน่ะ! ประชดอีก” ยังค่ะ ยังไม่สำนึกอีก “พาเธอมาให้อาหารปลาไงเผื่อจะหายหัวร้อน”
“เหอะ!”
“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะโคตรกวนอารมณ์เลยค่ะ ฉันไม่ได้หัวร้อนสักหน่อยแค่หมั่นไส้ในความโลดโผนของเขาเท่านั้นเอง
“นายเปิดโลกเรามากนะ เข้าห้องปกครองครั้งแรกก็เพราะนาย วิ่งหนีอาจารย์ก็เพราะนายอีก”
“ก็บอกแล้วไงชีวิตต้องมีผักตบชวา”
“ชีวิตชีวาก็พอมั้ง” ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจมากนักออกจะติดไปทางประชดด้วยซ้ำ
“บอกให้พูดเพราะ ๆ ไง”
“เพราะ ๆ”
“กวน!”
อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเลิกเรียนแล้วค่ะ เก้าพาฉันมาให้อาหารปลาเพื่อค่าเวลาให้มันหมดวันไป สายลมอ่อน ๆ บวกกับความเงียบมันทำให้ผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
“ปกติวันโดดเรียนนายทำอะไรบ้างเหรอ” ฉันเอ่ยถามไปตามความคิด อย่างเขาคงไม่อยู่เฉย ๆ หรือเข้าวัดแบบนี้หรอก
“เอาตามความจริงเลยนะเราก็สุมหัวกันอยู่ที่บ้านนั้นแหละแต่เราไม่อยากให้เธอไปเห็นหรือไปจดจำสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีไงเราเลยพามาที่นี่แทน”
“อะไรคือสิ่งไม่ดีเหรอ แล้วนายทำแบบนั้นด้วยหรือเปล่า”
“...” เก้าเงียบไปและพยักหน้าให้ฉันแทนคำตอบ
ไม่รู้หรอกค่ะไอ้ที่เขาว่ามันคืออะไรที่เลือกจะไม่ถามต่อเพราะฉันเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา ก็ถ้าคิดจะบอกเขาคงพูดออกมาแล้ว
นั่งเล่นกันอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเกือบสี่โมงเย็นก็กลับค่ะ
“สวัสดีครับ” คนข้าง ๆ เอ่ยทักทายและยกมือไหว้แม่ฉันอย่างเช่นทุกครั้ง
“น่ารัก! ขนาดลูกสาวแม่ยังไม่ทักทายแบบนี้เลย”
“ผม...”
“นายทำให้เราดูแย่!”
... : ฮ่า ๆ
สนิทกันไวมากจนฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าตกลงใครเป็นแม่ใครเป็นลูกกันแน่
“ว่างกันไหมอะทั้งคู่เลย”
“ว่างครับ”
“หนูไม่ว่างหนูงอนอยู่” พลางเชิดหน้าใส่คนทั้งสอง แต่ถามว่ามีใครสนใจไหม? ก็ไม่ค่ะ
“ยังติดเล่นอยู่อีก”
“โธ่แม่! ง้อหน่อยก็ไม่ได้”
“ไปตลาดให้หน่อยซื้อของตามนี้” กระดาษกับเงินจำนวนหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าฉัน
“ขอค่าแรงด้วยค่ะ”
“เงินทอนนั่นไงค่าแรง”
“คิกคิก”
สรุปก็มาซื้อของให้แม่นั่นแหละ แต่ดีหน่อยที่วันนี้มีผู้ช่วยไม่ต้องแบกเองแถมยังไม่ต้องขับรถเองอีกต่างหาก
“ซื้ออะไรอีกไหม”
“ไม่ล่ะ แค่นี้ก็จะถือไม่ไหวแล้ว”
“เธอถืออะไรเห็นเดินตัวปลิว”
“ถือเงิน”
“หึ!”
“นายเป็นผู้ชายนายแข็งแรงกว่าอย่าบ่นสิ”
“ยังไม่ได้บ่นเลยแต่ถ้าได้โกโก้สักแก้วจะขอบคุณมาก”
“รับทราบค่ะเจ้านาย”
เก้าไปรอที่รถส่วนฉันมาซื้อโกโก้ค่ะ ระหว่างที่รอน้ำอยู่พื้นที่ด้านข้างก็มีคนมายืนด้วย
“ไม่มาโรงเรียนแต่ใส่ชุดนักเรียนนะ เหมือนไอ้เก้าเลย” เอ็กซ์ว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะมองฉันด้วยสายตาที่โคตรจะอธิบายไม่ถูก แต่ว่าฉันสิ ฉันควรทำตัวยังไงและตอบคนตรงหน้าแบบไหน
“...”
“มึงสองคนนี่ยังไง”
“ไม่ยังไง”
ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัแต่ทำไมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องเลยแฮะ ดีที่เก้ากลับเข้ามาอีกไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรตอบยังไง
“สวยมึงอย่าเงียบสิ กูยังต้องการคำตอบอยู่นะ”
“รู้แล้วเงียบได้ไหมล่ะ”
“หืม... กูไม่ได้หูฝาดแน่ ๆ”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“ไอ้เก้า!”
“ตามนั้น”
“กูต้องเป็นฝ่ายกอบกุมความลับสินะ”
“...”