Episode-๐๕ เพื่อนในความลับ

1219 คำ
“ไหนล่ะเบอร์?” “...” เมื่อเห็นฉันเงียบเก้าจึงเขียนเบอร์ตัวเองใส่กระดาษแล้วเอายัดไว้ในกระเป๋าฉันอีกครั้ง “หวังว่าจะไม่ทำหายอีกนะ” หลายวันผ่านไป หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่เจอเก้าอีกเลย ได้ยินโบกับแซ็กคุยกันว่ารถล้มหรือไม่สบายนี่แหละ “เย็นนี้กลับยังไงอะ” ปูนาเอ่ย “เหมือนเดิม” “ถึงบ้านแล้วส่งการบ้านมาให้ลอกบ้างนะ” “ก็ส่งให้ลอกทุกวันไหม?” “ฮ่า ๆ อย่าเอาความจริงมาพูดสิ” แยกกับปูนาฉันก็มารอรถอย่างเช่นทุกวันค่ะ แต่วันนี้แปลกที่รถเมล์มาช้ามากจนฟ้าจะมืดอยู่แล้วก็ยังไม่มีวี่แวว โชคยังดีที่คนอื่นก็รออยู่เหมือนกันไม่ใช่ฉันคนเดียว ระหว่างที่ฉันรอรถก็มีมอเตอร์ไซม์คันหนึ่งจอดเทียบตรงหน้า เขาแต่งตัวมิดชิดและหันมองมาทางฉันก่อนจะเปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้น เห็นแค่ตาก็จำได้แล้วค่ะ “...” “เดี๋ยวไปส่ง” น้ำเสียงคุ้นหูเอ่ยพร้อมกับใช้แขนเสื้อเช็ดเบาะด้านหลังของตัวเองไปด้วย ... : มึง... ... : เขาเป็นแฟนกันเหรอวะ? เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นเก้าทำแบบนั้นแต่ความจริงเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะคะ “อะไรของนายเนี่ย” บ่นพึมพำแต่ก็ยอมขึ้นรถไปกับเขา เก้าพาฉันไปทางลัดอีกแล้วค่ะ มันดีแหละที่รถไม่เยอะไม่พลุกพล่านเหมือนถนนใหญ่แต่ข้อเสียคือระยะทางมันไกลกว่าเดิมค่ะ “ทำไมนายไม่มาโรงเรียน” “อะไรนะ” ลมมันแรงค่ะบวกกับเสียงรถเลยทำให้ไม่ค่อยได้ยิน “เราถามว่าทำไมไม่มาเรียน” “รถล้มดิ แผลยังไม่หายเลยเนี่ย” “แล้วนายไปไหนมา” “ธุระ แต่เห็นเธอยังไม่กลับก็เลยอาสาไปส่งเท่านั้นเอง” “ใจดีนะเนี่ย คนอื่นเขามองว่าเราเป็นแฟนกันไปแล้ว” “ก็ช่างคนอื่นสิ” แค่ไม่นานความเร็วของรถก็ลดลงและจอดที่สวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านฉัน “คิดค่ารถหรือเปล่าเนี่ย” ฉันเอ่ยอย่างไม่จริงจังมากนัก “นั่งเป็นเพื่อนแทนคำขอบคุณได้ไหม?” ฉันไม่ได้ตอบอะไรและนั่งลงตรงที่ว่างแถวนั้นแทน “นายนั่งกับเพื่อนน่าจะสบายใจกว่านะ” “แล้วเธอไม่ใช่เพื่อนเหรอ” “...” “อย่างว่าแหละเราพาซวยไปด้วยไงใครเขาอยากจะเป็นเพื่อนกัน” “เรายังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ” ฉันรีบค้านขึ้นก่อนที่คนตรงหน้าจะพร่ำไปเรื่อย “ถามจริงเทียวรับเทียวส่งอยู่เนี่ยต้องการอะไร?” “เธอไม่ถามตัวเองบ้างล่ะว่าทำไมถึงยอมให้เราเทียวรับเทียวส่ง” “ไม่รู้ดิ ก็ไม่เห็นนายจะมีพิษมีภัยอะไร” เรื่องราวของเขาก็หนาหูพอสมควรแหละค่ะ แต่ฉันคิดว่าคนเรามันไม่เหมือนกันไง เราอาจจะนิสัยไม่ดีเฉพาะกับบางคนก็ได้ “ถ้าได้รู้จักเราจริง ๆ เธออาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้” “ลองดูไหมล่ะ” “ลองอะไร?” “ลองเป็นเพื่อนกันไง ดูซิว่าเราจะมองนายเปลี่ยนไปหรือเปล่า” “ถ้าไม่รังเกียจก็ได้นะ” เก้าว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะพูดต่อ “เธอคนแรกเลยนะที่มองเราในแง่ดี” “หืม...” “ฮ่า ๆ ช่างมันเถอะ!” “ไหนอะแผลรถล้ม” “นี่ไง” เขาว่าพร้อมกับถอดเสื้อแจ็คเก็ตตัวเองออกเผยให้เห็นบาดแผลและรอยถลอกที่แขน “รถล้มแต่ทำไมเจ็บแค่แขน?” “อ้าว... ก็มันเป็นความสามารถพิเศษ” “กวนตีน” แป๊ะ! เต็ม ๆ เหม่งเลยค่ะ “เคยบอกแล้วไงว่าให้พูดเพราะ ๆ” “เจ็บนะ” “สมน้ำหน้า!” นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่เลยค่ะกว่าจะแยกย้ายกันกลับ ว่าไปแล้วเขาก็เป็นมิตรดีนะคะ ไม่รู้สิฉันก็แค่พูดไปตามสิ่งที่ตัวเองสัมผัสได้เท่านั้นเอง เช้าอีกวันฉันก็มาเรียนตามปกติค่ะ เก้าก็เหมือนกัน ระหว่างวันเดินสวนกันบ่อยแต่ก็ไม่ทักกันนะมองเฉย ๆ ต่างคนต่างมอง “ไปเข้าห้องน้ำกัน” ปูนาเอ่ยชวนเมื่อถึงเวลาพักเบรค “ไปสิ” ห้องน้ำมันอยู่ใต้อาคารเรียนค่ะ ระหว่างที่ฉันรอปูนาทำธุระส่วนตัวฉันก็มัดผมไปด้วยเพื่อค่าเวลา ผลัก! “อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” ฉันไม่ทันได้มองจึงถอยหลังไปชนพี่มอปลายคนหนึ่ง “แหกตามองบ้างก็ดีนะ” น้ำเสียงไม่พอใจเอ่ยก่อนจะเดินจากฉันไป ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจนี่จะหงุดหงิดอะไรขนาดนั้น เลิกสนใจแล้วขึ้นชั้นเรียนตามปกติกระทั่งถึงตอนพักเที่ยง วันนี้เวรฉันซื้อน้ำค่ะ ส่วนข้าวฝากโบกับปูนาซื้อแล้ว “ตอนพักกลางวันมีเรื่องกับใครเหรอ” “เรา?” “...” สงสัยจะเป็นตอนเข้าห้องน้ำมั้งคะ “รุ่นพี่น่ะ ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอกแค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย” ฉันตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจมากนักแต่คนตรงหน้าสินิ่งเชียว “เธอคิดว่าก่อนเราจะตั้งคำถามนี้ออกไปเราไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยสินะ” “ไม่มีอะไรจริง ๆ เราไม่เคยยุ่งกับใคร” “ใช่! เธอไม่ยุ่งกับคนอื่นแต่คนอื่นมันยุ่งกับเธอ” “พูดดี ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องขึ้นเสียงใส่เลย” “เหอะ!” “...” “อย่ายอมคนให้มากนัก สู้ได้ก็สู้คนเหมือนกันไม่ต้องไปกลัวมันหรอก” “นายกำลังสอนหรืออะไร?” “แล้วแต่จะคิด” พลางหยิบแก้วน้ำในมือฉันไปกินอย่างถือวิสาสะ “ชอบกินโกโก้เหรอ” “อืม” “ขอนะ เดี๋ยวตอนเย็นซื้อคืน” จากนั้นโกโก้ของฉันก็ติดมือเขาไปเลยค่ะ สรุปก็ต้องไปต่อแถวซื้อใหม่ กลับมาที่โต๊ะถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นเพื่อนมองด้วยสายตาที่ต่างออกไป “ตาวิเศษเห็นนะ!” เอ็กซ์มันว่าพลางมองหน้าฉันอย่างจ้องจับผิด “อะไร?” “ฮั่นแน่...” “เลอะเทอะ” “เออ เลอะเทอะจริง ๆ แหละ ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะบนโลกใบนี้เพียงจันทร์คงไม่เอาคนแบบนั้นมาเป็นแฟนหรอก” ปูนาที่ไม่ได้สนใจใครพูดขึ้น คงเป็นเพราะเรื่องราวฉาวโฉ่ของเก้าล่ะมั้งจึงทำให้ถูกมองไปแบบนั้น ถึงเวลาเลิกเรียนฉันก็ออกทางประตูหลังอย่างเช่นทุกวันค่ะ และแน่นอนว่าเก้าก็มาดักรอเหมือนเดิม ใช้คำว่าดักรอน่ะถูกแล้ว “อะ! ซื้อมาคืนแล้ว” โกโก้แก้วหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าฉัน “ขอบใจ” เรื่องอะไรจะปฏิเสธล่ะคะเดี๋ยวเสียน้ำใจแย่เลย “ขาดเรียนหลายวันการบ้านโคตรเยอะเลย” “ต้องการจะสื่ออะไร?” “รู้ทันอะ” ฉีกยิ้มให้แล้วพูดต่อ “ช่วยทำรายงานหน่อยครับ” “ส่งวันไหน?” “พรุ่งนี้คาบบ่าย” “ล้อเล่นป่ะเนี่ย!” “ไม่เล่นดิ เรื่องจริงไม่ฝันด้วย” “...” รู้จักกันครั้งแรกก็ลากฉันเข้าห้องปกครองซะแล้ว พอเป็นเพื่อนกันแค่วันเดียวก็ลากรายงานมาให้ทำอีก ไม่อยากจะคิดเลยว่าต่อไปจะเจออะไร?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม