" คารวะท่านอาจารย์ อาหลี่น่าไม่มาด้วยหรือขอรับ " มู่เจินกับสหายอีก 2 คนเมื่อเห็นนายท่านเมิ่งเดินเข้ามาก็รีบเอ่ยถามถึงหลี่น่าทันที
" หลี่น่าต้องอยู่ที่จวนเพื่อร่ำเรียนศิลปะต่าง ๆ กับมารดา พวกเจ้ามีอันใดหรือไม่ " นายท่านเมิ่งเอ่ยถามสหายตัวน้อยของบุตรสาว
" ข้าเพียงนึกว่าวันนี้นางจะมาอีก เลยเอาขนมที่ท่านพี่เหมยฮวาทำมาเผื่อขอรับ " มู่เจินยื่นเสี่ยหนาที่มีขนมอยู่ในนั้นให้นายท่านเมิ่งรับเอาไว้ (เสี่ยหนา=ปิ่นโตสมัยโบราณ)
" ขอบใจมากมู่เจิน เจ้าไม่ต้องห่วงว่านางจะไม่ได้กิน ประเดี๋ยวข้าจะให้รถม้าเอากลับไปที่จวนตอนนี้เลย พวกเจ้าเข้าห้องเรียนเถิดหากมีเวลาว่างค่อยเข้าไปหานางที่จวนก็ได้เช่นกัน "
" ขอรับท่านอาจารย์ /ขอรับ/ขอรับ " เด็กน้อยทั้งสามเร่งฝีเท้าเดินเข้าห้องเรียนไป ส่วนนายท่านเมิ่งเดินกลับไปที่รถม้าอีกครั้งเพื่อสั่งให้คนงานนำเสี่ยหนาที่มีขนมอยู่ด้านในกลับไปให้บุตรสาวของตน
จวนตระกูลเมิ่ง
" เจ้าไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นลูกแม่ หากเจ้าอยากไปกับท่านพ่อ ครบรอบ 7 วัน แม่จะให้เจ้าไป 1 ครั้ง เวลาเหลือจากนั้นเจ้าต้องร่ำเรียน ศิลปะทั้ง 4 และงานบ้านงานเรือนจากแม่จนคล่อง แม่จึงจะยอมปล่อยให้เจ้าได้ทำทุกอย่างที่ต้องการ " ฮูหยินเมิ่งคุยกับบุตรสาวที่ทำหน้าเศร้าเพราะไม่ได้ติดตามไปกับบิดา
" จริงหรือเจ้าคะท่านแม่ " หลี่น่ารอคำตอบจากมารดาอย่างมีความหวัง
" จริงแท้เหตุใดแม่ต้องโป้ปดต่อเจ้าเล่าอาหลี่น่า " ฮูหยินเมิ่งเอ่ยกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
" เรียนฮูหยินกับคุณหนูขอรับ นายท่านให้ข้านำขนมมาให้คุณหนูและให้แจ้งว่า เป็นสหายทั้ง 3 ของคุณหนูที่นำมาฝากขอรับ
" ขอบใจมากอาผิง /ขอบคุณเจ้าค่ะพี่อาผิง " สาวใช้ของฮูหยินรีบรับเสี่ยหนาเอาไว้แล้วนำขนมไปจัดใส่จานมาให้คุณหนูของตน ส่วนอาผิงที่หมดหน้าที่แล้วจึงรีบกลับไปที่สำนักศึกษาเพื่อรอคำสั่งงานต่าง ๆ จากนายท่านเมิ่ง
ตระกูลเมิ่งมิได้เป็นเพียงตระกูลบัณฑิตเพียงอย่างเดียว ฮูหยินเมิ่งเจียอียังลงทุนทำร้านผ้าร่วมกันกับสหาย และยังส่งออกไปขายต่างเมืองอีกด้วย
" ฮูหยิน อาจารย์สอนดนตรีมาแล้วเจ้าค่ะ " ถังจินจูสาวใช้คนเดิมเดินเข้ามาแจ้งต่อฮูหยินและคุณหนูพร้อมกับวางจานขนมในมือลงบนโต๊ะ
" รีบไปเชิญท่านอาจารย์เข้ามาเร็วเข้า อย่าลืมไปเตรียมชา มารับรองท่านด้วย " ฮูหยินเมิ่งรีบช่วยลูกสาวเตรียมตัวเพียงไม่นานท่านอาจารย์ก็เข้ามาเริ่มการสอนดีดพิณให้กับหลี่น่า
หลี่น่าใช้เวลาร่ำเรียนศิลปะ 4 แขนงอยู่นานจนวันเวลาเคลื่อนคล้อย จากวันเลื่อนเป็นเดือน จากเดือนเลื่อนเป็นปี จนกระทั่งผ่านไปหลายปี
ความเป็นนีน่านักวิจัยสาวค่อย ๆ ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา นางเริ่มกลายเป็นหลี่น่าอย่างเต็มตัวเพราะความเคยชิน
ฮูหยินเมิ่งเจียอีทำตามสัญญาที่ให้ไว้ต่อบุตรสาว นางยอมให้บุตรสาวติดตามบิดาเข้าไปหาสหายที่สำนักศึกษาได้ทุก 7 วัน
เมื่อถึงเวลาไปหาสหาย หลี่น่าจะแต่งตัวผู้ชายเพื่อให้คล่องแคล่วเวลาเล่นสนุกกัน จวบจนตอนนี้หลี่น่าและสหายอายุ 11-12 ปีแล้ว เพียงไม่นานนางก็จะถึงวัยปักปิ่น บ่งบอกว่านางถึงวัยที่ควรออกเรือน
นายท่านเมิ่งและฮูหยิน พาหลี่น่าออกไปหาท่านย่าเฉินอยู่เป็นประจำ เพราะหลี่น่าขอเรียนต่อสู้กับสหายทั้งสามด้วย
ตอนแรกฮูหยินเมิ่งก็ไม่ยินยอม แต่เพียงได้ยินคำที่สามีบอกว่า 'ไม่รู้ว่าตนและภรรยาจะอยู่ได้นานถึงวันใด จะดีกว่าหากให้บุตรสาวรู้จักช่วยเหลือและต่อสู้ดูแลตัวเองได้ '
เมื่อได้คิดตามคำที่สามีพูด ฮูหยินเมิ่งจึงยินยอมให้บุตรสาวทำตามที่ต้องการ ซ้ำยังพร่ำสอนงานบัญชีการค้าต่าง ๆ ให้อีกด้วย
หลี่น่าทำตามที่บิดาและมารดาบอกอย่างว่าง่าย เหนื่อยแค่ไหนนางก็ไม่เคยปริปากบ่น นางรู้ตัวดีว่านางเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเมิ่งสายหลัก แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องแบกรับย่อมหนักกว่าผู้อื่น
( ฉากนี้เป็นตอนพิเศษในเหมยฮวาพลัดถิ่นนะคะ )
" อาหลี่น่าเจ้ามาแล้วรึ " มู่เจินที่นั่งอยู่โต๊ะอาหารรวมกับทุกคนรีบเดินออกมารับสหายที่ถือของมาเต็มมือ
" ข้าถือได้อาเจิน " หลี่น่าเห็นมู่เจินกำลังกินข้าวอยู่เลยไม่อยากรบกวนแต่ก็ช้าเกินไป เพราะมู่เจินเดินกึ่งวิ่งจนมาถึงตัวนางแล้ว
" มาเถอะข้าช่วย ไปกันท่านย่ากับทุกคนรอเจ้าอยู่ แล้วท่านอาจารย์กับฮูหยินไม่มาด้วยรึ " มู่เจินเอ่ยถามระหว่างทางเดินที่ทั้งคู่กำลังตรงไปยังโรงครัว
" ท่านพ่อติดงาน ท่านแม่ต้องเข้าไปดูร้านเครื่องประทินโฉมที่รับสินค้าไปจากท่านพี่เหมยฮวาอย่างไรเล่า "
" อ่อ เป็นเช่นนั้นขากลับข้าจะไปส่งเจ้าเอง " มู่เจินรีบขันอาสาอย่างขึงขัง
" ไม่เป็นไรข้ากลับเองได้ คารวะท่านย่า ท่านลุงหลี่และท่านป้าเจ้าค่ะ " หลี่น่ารีบตอบอาเจินก่อนจะหันมาทำความเคารพผู้อาวุโสที่เคารพและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
" อาหลี่น่า มาเร็วเข้ามานั่งกับย่า " ท่านย่าเฉินยิ้มกว้างเมื่อเห็นเด็กสาวที่รักประดุจดั่งลูกหลาน
" โอ้ อาหลี่น่าป้าไม่เจอเพียงไม่นานโตเป็นสาวขนาดนี้เลยรึลูก " ฮูหยินหลี่มารดาของหลี่จวิน พินิจพิจารณาหลี่น่าอย่างพึงพอใจ
" บิดาเจ้าไม่มาด้วยกันรึอาหลี่น่า ลุงมีธุระอยากจะคุยกับอาซวนอยู่เช่นกัน " นายท่านหลี่เอ่ยถามถึงนายท่านเมิ่งซีซวนที่รู้จักกันมานานแล้ว
เนื่องด้วยเมืองนี้ไม่ได้ใหญ่นัก ใครไปใครมามีชื่อเสียงเลื่องลือก็รู้กันทั่วไปหมด เมื่อ 10 ปีก่อน เมิ่งซีซวนเข้าสอบจนถึงขั้น จิ้นซื่อ จึงเป็นที่เลื่องชื่อลือนามไปทั่วเมือง
" วันนี้ท่านพ่อต้องเข้าไปเตรียมข้อสอบที่สถานศึกษาเจ้าค่ะท่านลุง เลยมิได้มากับหลาน " หลี่น่าตอบนายท่านหลี่อย่างนอบน้อมระหว่างเดินไปทางเก้าอี้ข้าง ๆ ท่านย่าเฉิน
" เช่นนั้นวันหลังลุงค่อยหารือกับเขาอีกทีดีกว่า ช่วงนี้พ่อเจ้าน่าจะยุ่ง " พูดจบนายท่าหลี่ก็คีบอาหารกินต่อ
" คารวะท่านพี่หลี่จวินกับท่านพี่เหมยฮวาเจ้าค่ะ " หลี่น่าทำความเคารพต่อสองสามีภรรยาที่นั่งกะหนุงกะหนิงกันอยู่
" นั่งเถอะหลี่น่า มีคนรอเจ้าทักทายใจแทบขาดแล้วรู้หรือไม่ " เหมยฮวาเอ่ยกับหลี่น่าแต่ระดับสายตากลับมองไปที่บุตรชายและบุตรสาวตัวน้อยที่รอยคอยให้ท่านพี่หลี่น่าของพวกเขามาหาอยู่ตลอด
" คารวะท่านพี่หลี่น่าขอรับ อาหมิงคิดถึงท่านพี่หลี่น่ามากเลย/ตึ๋งย้วย " หนิงฮวาตัวน้อยพอเห็นพี่ชายเข้าไปประจบพี่สาวแสนสวยของเธอก็รีบลงจากตักของท่านปู่วิ่งมาชูมือให้หลี่น่าอุ้มอย่างรวดเร็ว
" ฮึ ฮึ ฟอดด ฟอดด อึ๊บ หนิงเออร์ดื้อหรือไม่ แล้วอาหมิงเหตุใดจึงมีแผลอีกแล้วเล่า " หลี่น่าหอมแก้มเด็กน้อยทั้งสองแล้วอุ้มหลี่หนิงฮวาบุตรสาวของเหมยฮวาขึ้นมาอุ้ม ส่วนหลี่หมิงปีนขึ้นนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ กัน
" ข้าหกล้มเมื่อครู่ขอรับท่านพี่หลี่น่า เป่า เป่า ขอรับ " อาหมิงพูดจาออดอ้อนพี่สาวแสนสวยของตัวเองก่อนจะยื่นมือออกไปให้หลี่น่าเป่าให้ เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกครั้งที่หลี่น่ามาเรือนตระกูลเฉินหลี่หมิงมักจะมีแผลมาให้นางเป่าให้ตลอด
" เพี้ยง เพี้ยง หายเจ็บนะคนเก่งจะได้วิ่งเล่นกับพี่ได้ " หลี่น่ารีบทำตามที่หลิงหมิงขอ เพียงเท่านั้นใบหน้าของเด็กน้อยก็มีรอยยิ้มแห่งความสุขประดับอยู่
" หนิงม่ายดื้อปี้จ๋าว " หลี่หนิงฮวารอจนทุกคนคุยกันเสร็จก่อนค่อยตอบคำถามที่พี่สาวคนสวยถามนาง
" หนิงเออร์ไม่ดื้อรึ เก่งเช่นนี้พี่สาวมีของรางวัลมาให้หนิงเออร์ตัวน้อยกับอาหมิงด้วยดีหรือไม่ " จริง ๆ แล้วหลี่น่ามักจะไปตัดเย็บชุดเด็กน่ารัก ๆ มาให้เด็กน้อยทั้งสองอยู่เป็นประจำ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ฮูหยินเมิ่งพร่ำสอนเธอมาหลายปี
" ดี ๆ ตี้ฉุด/ดีขอรับ ท่านพี่หลี่น่าใจดีที่สุด " สองพี่น้องพากันยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าจะได้รางวัลจากพี่สาวคนสวยอีกแล้ว
" อาหลี่น่า เจ้าไม่เห็นต้องลำบาก ที่ผ่านมาเจ้าก็ตัดชุดมาให้เด็ก ๆ บ่อยแล้ว " เหมยฮวาเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ
" ไม่ลำบากเจ้าค่ะท่านพี่เหมยฮวา อย่างไรเสียข้าก็ต้องตัดอยู่แล้ว ถือเสียว่าให้เด็กน้อยทั้งสองเป็นแบบให้เจ้าค่ะ " หลี่น่าตอบกลับอย่างเป็นกันเอง ช่วงแรก ๆ ที่นางมาอยู่ที่ภพนี้ถึงนางไม่ได้ออกมาที่หมู่บ้านซินหยาน ก็เป็นเหมยฮวาเองที่เข้าไปหานางที่จวน โดยใช้เรื่องที่นางเป็นสหายกับน้องชายเป็นข้ออ้าง นานวันเข้าเหมยฮวาก็สนิทกับฮูหยินเมิ่งจนสุดท้ายได้เปิดร้านเครื่องประทินโฉมร่วมกัน