เดิมพัน

2988 คำ
รถสี่ประตูสุดหรูสีดำเลี้ยวเข้ามาในบริเวณโรงแรมดิโอเชี่ยนวัน ภายในรถ หญิงสาวในชุดสูทแบรนด์หรูกำลังยืดอกนั่งอย่างเต็มตัว ยกข้อมือเพื่อตรวจเช็กเวลา ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างภูมิใจ ยิ่งเห็นรถหลายคันกำลังทยอยเข้ามาจอดในบริเวณโรงแรมของตัวเองแล้วยิ่งภูมิใจ แต่เพียงไม่กี่นาที ใบหน้าเปื้อนยิ้มก็ต้องเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจแทน คิ้วขมวดแทบจะชนกัน ใบหน้าตึงๆ เธอหันไปเอาเรื่องกับเลขาชาญชัย ชายสูงอายุที่นั่งคู่กับสารถี "ใครมันปล่อยให้หมามาเดินเพ่นพ่านในโรงแรมของฉัน" ส่งเสียงต่อว่าในทันที ทำให้ทั้งเลขาคนสนิทและสารถีต้องหันไปมองสำรวจก่อนจะรีบรายงานเจ้านาย "ขอโทษครับท่านประธาน จะจัดการให้ในทันที" บอกอย่างนอบน้อม ก่อนจะกดโทรศัพท์หาเหล่าลูกน้อง ทีมดูแลความเรียบร้อยของโรงแรม เพื่อสั่งการ นั่นจึงทำให้คนฟังอย่างตรีประดับ พอจะคลายอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาได้บ้าง เธอไม่ชอบความนอกลู่นอกระเบียบทุกประการ ยิ่งเรื่องงาน มันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเธอไม่อยากให้ใครต่อใครมาว่าหรือนินทาลับหลัง ในฐานะประธานและเจ้าของโรงแรม ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ แม้จะเป็นเวลายามค่ำคืนก็ตาม เพียงมองแค่แว้บเดียว อะไรที่แหวกแปลกตาออกไป มีหรือที่เธอจะไม่ทันสังเกตเห็น ตรีประดับ ก้าวลงจากรถคันหรู ที่จอดสนิทหน้าโรงแรม ตามด้วยเหล่าพนักงานที่ออกมายืนเรียงเพื่อต้อนรับอย่างออกนอกหน้า ก็แน่ล่ะ วันนี้ ที่นี่ มีงานสำคัญ นั่นคือการเปิดตัวโรงแรมดิโอเชี่ยนวัน สาขาใหญ่ในกรุงเทพมหานครฯ อีกหนึ่งสาขา และรวมถึงการเฉลิมฉลองความสำเร็จกับรางวัลผู้บริหารดีเด่นที่เธอเพิ่งจะได้มาแบบสดๆ ร้อนๆ ทั้งหุ้นส่วน ดารา นักแสดง นักข่าว แขกระดับวีไอพี ถูกเชิญให้เข้าร่วมพิธีครั้งนี้ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่วันนี้ ทุกภาคส่วนของพนักงานในโรงแรมจึงตั้งใจทำงานเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ มากกว่าเดิมไปอีก การดำเนินงานในวันนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี เป็นที่น่าพอใจสำหรับแม่งานอย่างตรีประดับ เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็มีแต่ผู้คนเอ่ยชื่นชม "สวัสดีครับคุณตรี" ชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับเธอทักขึ้นอย่างเป็นมิตร แน่นอนว่าทั้งคู่เคยพบเจอกันมาก่อนหน้า เขาจึงแสดงท่าทางสนิทสนมอย่างออกนอกหน้า "ออกไปก่อน" ตรีประดับที่กำลังยืนคุยกับเลขาชาญชัยจึงต้องบอกให้เขาห่างออกไป ก่อนจะหันมาหาพิธาน "ว่ายังไงคะคุณใหญ่ อยากจะแก้มือเหรอ" ท่าทางเธอดูไม่ได้แสดงออกในทางชู้สาวแถมยังเชื้อเชิญให้เขาดื่ม ด้วยการส่งแก้วทรงสูงให้อีก "ผมกำลังจะชวนคุณอยู่พอดี" เขายื่นมือไปรับแก้วจากตรีประดับ ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบ "แต่รอบนี้ ผมไม่ยอมเหมือนครั้งก่อนแน่" พร้อมยิ้มกว้างออกมาอย่างมั่นใจ "หึ ก็อย่าให้ต้องเอาโรงงานมาตึ๊งล่ะ" หล่อนยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ยบ้าง ก่อนจะเดินห่างออกไป 'ไม่มีทาง ไม่มีทาง ที่จะเสียท่าเหมือนครั้งก่อน' เขาคิดอยู่ในใจ ราวกับเป็นต่อ พร้อมยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด และหยิบอาหารชิ้นเล็กๆ เข้าปากอีกหลายต่อหลายคำ ก็ของดีๆ ของหรูหรา น่ากินแบบนี้ เขาจะปล่อยให้ท้องหิวได้อย่างไร หรือหากถ้าอิ่มแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะหยุดกินแน่นอน 'ก๊อก ก๊อก' นิรารีบรุดออกจากที่นั่งไปเปิดประตูทันทีอย่างดีอกดีใจ ก็นานๆ ที ญาติผู้ที่ขึ้นชื่อว่าพี่สะใภ้จะมาเยี่ยมเยียนในรอบหลายปี "เห้อ" คำแรกที่หล่อนเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นหน้าน้องสามี "ทำไมไม่ไปหาหอที่มีลิฟต์ รู้มั้ยว่าเหนื่อยแค่ไหนกว่าพี่จะขึ้นมาถึง" เจ้าของห้องยิ้มออกมาไม่ได้มีท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ ก็เพราะเมื่อสามปีก่อนหล่อนก็พูดแบบนี้ และตอนนี้หล่อนก็ยังพูดแบบเดิม ราวกับลอกมา "ก็ที่นี่ราคาถูกนี่คะ" เสียงใสๆ ของเจ้าของห้องบอกออกไปอย่างใจเย็น "พี่พิมพ์มาเหนื่อยๆ นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวน้องเล็ก เอาน้ำให้ดื่มค่ะ" "ไม่ต้องไม่ต้อง" เมื่อเห็นว่านิรากำลังจะบริการเธอ จึงรีบห้ามไว้ทันที "ที่พี่มาวันนี้เพราะมีเรื่องจะให้น้องเล็กช่วยน่ะจ้ะ" หน้าตาที่ดูตึงๆ เพราะความเหน็ดเหนื่อยเมื่อครู่หายไป แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มแจ่มใสราวกับคนละคน "มีอะไรเหรอคะ" สิ้นคำของนิรา พิมพ์ใจก็พูดชักแม่น้ำทั้งห้าออกมามากมาย ไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้ถามหรือปฏิเสธใดๆ จากหอพักเล็กๆ พิมพ์ใจก็พานิรามายังสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ดูหรูหราจนเด็กสาวอ้าปากค้าง "ทำไมเราถึงต้องมาที่นี่คะ" หันมาถามพี่สะใภ้อย่างไม่เข้าใจ "ไม่ต้องพูดมากหรอก ตามมา" นิราก้มมองเสื้อผ้าตัวเองที่สวมใส่อยู่บนกาย ชุดราตรีเปิดไหล่ สีแดงสด ตัดกับผิวกายสาวขาวผ่องของเด็กสาว เมื่อเดินเข้ามาข้างใน จึงดึงดูดสายตาผู้คนจนต้องหันมามองเป็นตาเดียว แม้การเดินของนิราจะดูเก้ๆ กังๆ ก็ตาม แต่เพราะความสวย ผู้คนจึงอภัยให้ได้ นิราเดินประชิดติดกายพี่สะใภ้ไม่ห่างเพราะความกลัว เธอเริ่มจะเดาออกแล้วว่าสถานที่แห่งนี้มีไว้เพื่อทำอะไร มันคือสวรรค์ แหล่งหาความสำราญของเหล่าเศรษฐี กาสิโน แบบถูกกฎหมายแห่งเดียวของประเทศ มันตั้งอยู่ในโรงแรมดิโอเชี่ยนวัน "พี่ใหญ่" นิราส่งเสียงเรียกพี่ชายทันทีที่เจอหน้า  "น้องเล็ก" เขาหันมาหา "รอตั้งนาน ไปกันเถอะ" ไม่รีรอดึงแขนน้องสาวให้ไปด้วยกัน "เดี๋ยวค่ะ ทำไมพี่ยังไม่หยุดเล่นการพนันอีก ถ้าพ่อรู้ ต้องโกรธแน่ๆ " "ก็อย่าบอกสิ" เขาเสียงดังใส่ แต่สักพักก็ต้องอ่อนลง "นะ พี่ขอแค่ครั้งเดียว มาเป็นตัวนำโชคให้พี่อีกสักครั้ง" เขายกมือไหว้น้องสาวเพื่อขอร้อง เธอยืนคิดชั่วครู่ "ก็ได้ค่ะ" ยอมตามใจพี่ชายอย่างหมดทางเลือก "แต่ พี่ใหญ่ต้องสัญญานะ ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย" "ได้สิ ได้สิ พี่สัญญา" เขารับปากแถมยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความหวัง แต่แอบเอามือไปด้านหลังและเกี่ยวไขว้ เขาก็แบบนี้ ติดการพนันมากกว่าเมียเสียอีก โต๊ะพนันโซนวีไอพี ตรีประดับนั่งตัวตรง ใบหน้าเรียบเฉย เธอคือผู้เล่นที่รอคอยผู้ท้าทายอย่างพิธานด้วยความใจเย็น เธอพยายามใจเย็น เพราะแม้จะเนิ่นนานแต่เธอก็ยังรอ ก็เขามักเสียท่าอยู่เป็นประจำ มีหรือที่เธอจะอดใจรอไม่ได้ เธอมักจะประเมินคู่แข่งทางธุรกิจได้เสมอ รวมถึงคู่แข่งบนโต๊ะพนันก็ด้วย พิธานคือผู้ชายโลภคนหนึ่งเพียงเท่านั้น เขาไม่มีทักษะใดเลยในการลงทุนด้านนี้ นอกจากความทะเยอทะยานและอยากได้เงินก็เท่านั้น ดังนั้น เธอจึงต้องช่วยสนับสนุนเขาเสียหน่อย ด้วยการฉุดเขา ให้เข้าสู่วังวนนักพนันแบบเต็มตัว เธอจัดเขาอยู่ในกลุ่มนักสู้ สู้ทั้งๆ ที่รู้จะตัวเองจะต้องแพ้ และสะบักสะบอมกลับบ้าน แบบที่หมดเนื้อหมดตัวเลยทีเดียว ลูกค้าแบบนี้แหละที่สถานที่นี้ต้องการ และเธอก็ยินดีที่ลงเล่นกับเขาเป็นประจำ สายตาตรีประดับทอดมองออกไปเบื้องหน้า เธอยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ได้เจอพิธานอีกครั้ง ผู้ชายที่ท้าทายเธอเมื่อตอนหัวค่ำ เขามาจนได้ แต่มีอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกความสนใจไม่แพ้เขา ก็คือหญิงสาวในชุดราตรีสีแดง ทั้งคู่เดินเคียงกันมา มันดูจะแปลกตาไปเสียหน่อย เพราะทุกครั้งเขาจะมาคนเดียว แต่วันนี้ดันมีสาวสวยมาด้วย "มองนานไปแล้วครับ คุณตรี" แถมเมื่อพิธานและนิรานั่งลงแล้ว ตรีประดับยังไม่หยุดมองหล่อน จนเด็กสาวเริ่มร้อนที่เนื้อตัวเพราะสายตาที่แทะโลม "นี่น้องเล็กครับ น้องสาว ผมเอง" เขารีบแนะนำให้ตรีประดับรู้จัก ก่อนจะหันไปหานิรา "ส่วนนี่คุณตรี สวัสดีเธอสิ" เอ่ยเตือนน้องสาว ให้ทักทายตรีประดับ "สวัสดีค่ะคุณตรี" ยกมือไหว้ทักทายอย่างนอบน้อม นั่นทำให้ตรีประดับเริ่มรู้สึกตัว ดึงใบหน้ากลับมาเรียบนิ่งอีกครั้ง "เริ่มกันเถอะ เสียเวลากันมามากแล้ว" แต่ตรีประดับดันแสร้งทำเป็นไม่สนใจกับการทักทายของเด็กสาว และไม่หันกลับไปมองอีก "ครับ เริ่มกันเลย" พิธานยิ่งพอใจกับการเชื้อเชิญของคนตรงหน้าโดยไม่สนใจเรื่องที่ตรีประดับเสียมารยาทกับน้องสาว ส่วนนิรา เธอได้แต่เก็บความไม่เข้าใจไว้ในใจ ก็ในทีแรกตรีประดับเอาแต่มองเธอไม่วางตา แต่พอได้เริ่มทักทาย หล่อนก็ทำเป็นไม่สนใจ ชักไม่เข้าใจกับพฤติกรรมของผู้ใหญ่ ระหว่างที่นั่งเคียงพี่ชายที่เอาแต่ยิ้มแย้มและหัวเราะชอบใจกับปริมาณชิปตรงหน้าที่เพิ่มขึ้นๆ จนสูงพะเนิน ต่างกับคนตรงข้ามที่ร่อยหรอลงเรื่อยๆ แต่หล่อนยังดูนิ่ง ไม่ไหวติง ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยนั้น "วันนี้ผมมือขึ้นจริงๆ " พิธานบอกอย่างพอใจ "คงเพราะผมมีตัวนำโชค" คำพูดโอ้อวด "น้องสาวคุณน่ะเหรอ" จากที่เงียบมานาน ตรีประดับจึงยอมเอ่ยปากออกมา และคงจะจริงอย่างที่พิธานว่า เพราะตอนนี้ที่ตัวเธอเหลือชิปเพียงอันเดียว ต่างจากทุกครั้ง ที่เขามักจะเรียกชิปเพิ่มเรื่อยๆ จนหมดเนื้อหมดตัว "ครับ" เขาบอกอย่างเป็นต่อ "ดีนะ มีน้องเป็นตัวเงินตัวทอง" นั่นไม่ใช่คำชมเลย คนฟังอย่างนิราที่ถูกเอ่ยถึงรู้สึกได้ แต่ก็ทำได้เพียงนิ่งเงียบไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงและจำยอม ส่วนพิธานไม่ต้องหวังเลยว่าเขาจะปกป้อง ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ออกมา "คุณเหลือชิปอีกอันเดียว จะเรียกเพิ่มมั้ยครับ" ยิ้มเยาะถาม "ค่ะ งั้น ฉัน เอาเท่าที่คุณมีตอนนี้" บอกออกไป ก่อนจะส่งสัญญาณบอกพนักงาน ไม่นานชิปมากมายก็มาวางเรียงเบื้องหน้าตรีประดับ คนที่ตาลุกวาวก็เห็นจะเป็นสองพี่น้อง คนหนึ่งก็เอาแต่ยิ้มฝัน หากได้เป็นเจ้าของทั้งหมด ส่วนอีกคนหนึ่ง ก็รู้สึกสงสารหากใครก็ตามจะต้องแพ้และสูญเงินจำนวนมาก มันช่างไม่คุ้มเลย และได้แต่ภาวนา ขอให้คนที่แพ้ไม่ใช่พี่ชายตัวเอง "แล้วรอบนี้คุณจะลงเท่าไหร่ครับ" พิธานถาม "อันเดียวค่ะ" สิ้นคำของตรีประดับ พิธานก็แสดงสีหน้าเสียดายออกมาอย่างชัดเจนกับคำตอบที่ได้ยิน "ฉันจะเก็บไว้แค่อันเดียว" เธอพูดให้คนฟังได้กระจ่างอีกครั้ง นั่นทำให้พิธานเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมา เพราะเขามั่นใจว่าจะต้องชนะอีก "งั้นผมลงทั้งหมด ไม่เหลือสักอัน" เริ่มเกทับบ้าง "พี่ใหญ่" คนน้องรีบส่งเสียงเรียกชื่อพี่ชายอย่างต้องการจะเตือน "อย่าขัดลาภ" แต่กลับถูกดุ และให้นิ่งเฉยไว้ การกระทำของสองพี่น้องอยู่ในสายตาตรีประดับจนเผลอยิ้มมุมปากกับความยุกยิกหน้ามุ่ยของเด็กสาว และการเล่นในรอบนี้ แน่นอนว่าคนชนะคือพิธาน เขากวาดชิปมากมายมาทางตัวเองอย่างบ้าคลั่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ชนะ และได้เยอะขนาดนี้ ถือว่าเป็นลาภปากชัดๆ "น้องไปเข้าห้องน้ำนะ" กระซิบบอกพี่ชาย "ได้ๆ ตอนนี้ไปได้แล้ว" นิรารีบลุกขึ้นออกจากตรงนั้นทันทีหลังจากได้รับอนุญาต ก็ก่อนหน้า พี่ชายไม่ให้เธอลุกออกห่างระหว่างที่กำลังเล่น แต่ตอนนี้การเล่นจบลง เธอจึงเป็นอิสระ "อีกสักรอบมั้ยคะ" "เอ่อ ไม่ดีกว่าครับ" ก็น้องสาวไม่อยู่ เขาจะชนะได้อย่างไร แถมเงินตรงหน้าก็มากพอจะใช้หนี้แล้ว "ไม่กล้าเหรอคะ หรือเพราะไม่มีน้องสาว จึงกลัวจะแพ้" "เปล่าครับ แค่เห็นว่าดึกแล้ว พรุ่งนี้น้องสาวผมต้องไปฝึกงานวันแรกด้วย เดี๋ยวจะตื่นสายน่ะ" แสร้งยกเรื่องนิราขึ้นมาอ้าง ซึ่งเขากลัวว่าจะแพ้ "คงกลัวล่ะสิ" กอดอกบอกออกไปอย่างหยั่งเชิง และเหมือนมันได้ผล  มือที่กำลังกวาดชิปมาทางตนเองชะงักทันที ก่อนจะเหลือบมองคนตรงหน้า "ผมไม่ได้กลัว" "งั้นก็ดีค่ะ ชิปหนึ่งอัน แลกกับทั้งหมดนั่น กล้ามั้ยล่ะ" เธอเริ่มท้าทาย เพราะรู้จุดอ่อนของเขาดี "ได้เลย เรื่องแค่นี้ ทำไมผมจะไม่กล้า" และการเล่นอีกรอบก็สร้างความพ่ายแพ้ให้กับพิธาน ชิปที่กองพะเนินสูงเกือบเหนือศีรษะเมื่อครู่หายวับไปกับตา นั่นเพราะถูกดูถูก เขาจึงไม่อาจยอมได้ ซึ่งการแพ้ของเขาในแต่ละครั้ง นั้นมาจากอารมณ์ฉุนเฉียวในอกของตัวเองทั้งนั้น ได้แต่นั่งหัวเสีย ไร้คำพูด "เรียกชิปอีกมั้ยคะ" "ไม่แล้วครับ" เขาบอกโดยไม่หันมองหน้าตรีประดับ ที่เอาแต่พูดจาท้าทาย "ไหนว่าจะแก้มือไงล่ะ คุณนี่ไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย" "งั้นได้! เอามาอีก เท่ากับของคุณตรี" หันบอกพนักงานอย่างเหลืออด แต่รอบนี้พิธานแทบจะล้มตึง ชิปฝั่งตัวเองที่เพิ่งได้มาหมาดๆ ถูกตรีประดับแย่งชิงไปอย่างง่ายดาย ด้วยความไร้ความสามารถของตนเอง นอกจะไม่ได้เงิน แถมยังเป็นหนี้อีก "คุณน่าจะหยุดเล่นตั้งแต่ได้ชิปรอบแรก" ตรีประดับได้ทีสั่งสอน "โธ่ คุณตรี ก็คุณท้าผม ผมจะยอมได้ไง" บอกอย่างหมดอาลัยตายอยาก ก็เพราะหวังกับเงินก้อนนี้มาก เงินค่าเทอมและค่าใช้จ่ายของน้องสาวที่ทางบ้านส่งมาให้ เขาก็ดันเอามาลงทุนกับการพนัน แล้วจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้ "ทั้งหมด หนึ่งล้าน" "หา! เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ" "รวมกับครั้งก่อน แต่รอบนี้ ฉันขอรวบยอด และคุณต้องจ่ายให้ฉันภายในคืนนี้" "โธ่คุณตรี ผมจะเอาที่ไหนมาให้คุณ เงินทั้งหมด ก็ลงไปกับก้อนนี้แล้ว ผมไม่เหลืออะไรเลย แถมมันยังเป็นค่าใช้จ่ายของน้องสาวผมอีก" "ฉันทำธุรกิจนะ ไม่ใช่โรงทาน" ตรีประดับ คนที่พิธานคิดว่าใจดีมีน้ำใจบนโต๊ะพนัน ดันกลายเป็นนางมารเสียแล้ว เพราะน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป "งั้น ผมขอเวลาอีกหนึ่งเดือน ผมจะหามาคืนคุณให้ได้" "คุณมีของดีอยู่กับตัวนะ ให้ฉันสิ แลกกับเงินหนึ่งล้าน" "เอ่อ ของดี คุณหมายถึงอะไรครับ" เขาเริ่มไม่เข้าใจ เพราะตอนนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของมีค่าใด "น้องสาวคุณไง ขายให้ฉันสิ แล้วจะยกหนี้ให้ แล้วก็แถมชิปทั้งหมดบนโต๊ะ คุณต้องใช้เงินด่วนไม่ใช่เหรอ" เธอจะต้องสั่งสอนเด็กสาวที่ทำให้เสียสมาธิเสียหน่อย นิราทำให้เธอต้องแพ้ทุกรอบ จากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำอวดอ้างจากพิธาน ว่านิราเป็นตัวนำโชค หรือเพราะหลงเสน่ห์ในความสาวสวยนั่นกันแน่ เอาเป็นว่าคืนนี้ทั้งคืน ต้องโดนทำโทษสาวน้อยชุดแดง ให้คุ้มกับเงินที่เสียไป การที่เงินหนึ่งล้านออกจากกระเป๋าครั้งนี้ มันคือการลงทุน  เด็กสาวแบบนี้แหละ คือของหวานของตรีประดับ นิราถูกพี่ชายลากขึ้นมายังชั้นบนสุดของโรงแรม "เข้าไป ห้องนี้แหละ" ดันตัวน้องสาวเข้าห้องอย่างรีบร้อน "เดี๋ยวค่ะ พี่ใหญ่ ทำไมเราต้องเข้ามาในห้องนี้ หรือพี่จะลงไปเล่นอีก" ถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ "เปล่า พอดีพี่เจอเพื่อนเก่า เลยจะสังสรรค์กันสักหน่อย" เขาโป้ปด "ไม่นานหรอก น้องเล็กนอนรอไปก่อน เสร็จแล้วจะมาเรียก" เมื่อเห็นว่าน้องสาวยังไม่คลายกังวล "ไม่ต้องห่วง ไม่ดึกหรอก พี่รู้หรอกน่า ว่าพรุ่งนี้น้องเล็กต้องไปฝึกงาน" ก็น้องสาวพูดเรื่องนี้เกือบทุกวัน มีหรือเขาจะจำไม่ได้ "งั้น ก็ได้ค่ะ" บอกออกมาอย่างวางใจ และยอมแต่โดยดี เมื่อพี่ชายออกจากห้องไปแล้ว ก็เริ่มเดินสำรวจห้องขนาดใหญ่ และการตกแต่งหรูหรา เกินกว่าจะเป็นห้องพักของแขกธรรมดา จนมาหยุดยืนอยู่หน้ากรอบรูปขนาดใหญ่ "คนแปลก" บอกออกมาเมื่อเห็นว่าคนในรูปนั้นเป็นใคร นั่นคือรูปของตรีประดับ แม้แต่ในรูปหล่อนก็ไม่ยิ้มสักนิด ทำหน้าดุๆ สีหน้าราวกับคนอมทุกข์ แต่สักพักเด็กสาวก็ต้องหน้าตาหน้าตื่น "เอ๊ะ! " ร้องออกมาอย่างนึกขึ้นได้ หรือนี่อาจจะไม่ใช่ห้องสำหรับรับรองลูกค้า เพราะดันมีรูปและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของใครบางคน ราวกับอยู่มานาน และนั่นอาจจะเป็นห้องของคนในรูป คิดได้ดังนั้นจึงรีบผลีผลามไปยังหน้าประตู ตั้งใจจะออกจากห้องนี้ แต่ไม่ทันที่จะคว้าจับลูกบิด ประตูก็ถูกผลักเข้ามาจากคนด้านนอก "จะไปไหน" 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม