นายหญิง
นายหญิงที่ 1
นายหญิง
ตระกูลหานแห่งซูโจวถือเป็นหนึ่งในสี่คหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง เพียงแค่ร้านขายเครื่องประดับก็มีมากกว่าห้าหกสิบร้านแล้ว หานเยว่นายท่านใหญ่ของตระกูลนับว่ามีหน้ามีตานัก นั่นเพราะเขาได้ศรีภรรยาที่งดงามและเฉลียวฉลาด นางมีนามว่า หานซือโหยว
หานซือโหยวผู้นี้แต่เดิมเป็นบุตรีพ่อค้า เนื่องจากครอบครัวสามีนางในขณะนั้นเดือดร้อนเรื่องเงินทอง จึงสู่ขอนางให้กับบุตรชายที่เป็นบัณฑิตฉิวไฉ
นางขณะอายุ 15 ยินดียิ่งเมื่อรู้ว่าตนเองจะได้แต่งให้กับชายที่แอบรัก
หญิงสาวในวัยแรกแย้มเพียงได้พบหน้าคุณชายหานในร้านหนังสือของนางครั้งแรกนางก็นึกชมชอบเขาแล้ว ยามนั้นเขายังไม่ทันสอบติดชิวไฉ นางไปช่วยท่านพ่อเก็บเงินที่ร้านนั่นพอดีจึงได้พบกับเขา ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นชายหนุ่มหน้าใสสุภาพเรียบร้อยอย่างเช่นผู้คงแก่เรียนควรเป็น
เพียงแต่นางแม้แต่งเข้ามาพร้อมสินเดิมจำนวนมหาศาล แต่นางก็ไม่อาจมัดใจบุรุษตนเองได้ เพิ่งเข้าเดือนที่สามแม่สามีนางก็รับอนุให้เขาถึงสองคน
***
ห้องหนังสือตระกูลหาน
“เสี่ยวถง คืนนี้นายท่านไปนอนเรือนใดหรือ” วันนี้นางคิดบัญชีร้านค้าจนดึกดื่นยังไม่ได้หลับได้นอน แต่นางยังคงเป็นห่วงสามีนาง
“เรียนนายหญิง นายท่านค้างที่เรือนจางอี้เหนียง”
จางอี้เหนียงอีกแล้วหรือนางคิดในใจ จางซินอู่หรือจางอี้เหนียงที่ทุกคนในจวนเรียกขาน นางเป็นอนุคนใหม่ที่หานเยว่รับเข้ามา ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ของนางกับสามีไม่นับว่าเลวร้ายแต่ก็ไม่นับว่าดีเช่นกัน หลังจากอยู่กินกับเขามาสิบห้าปี บัดนี้ทั้งสองคนเหมือนกับน้ำบ่อน้ำคลอง ต่างไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันมากเกินไป
นางหานซือโหยวคิดบัญชีอีกซักพักนางก็ง่วงเหงาหาวนอนแล้ว แต่ว่านางเหนื่อยจนไม่มีแรงลุกออกไปนอนที่ห้องจึงนอนในห้องหนังสือซะเลย
“เสี่ยวถงเจ้าไปนอนเถอะคืนนี้ไม่มีอะไรแล้ว”
นางงีบหลับไปบนเตียงเล็กในห้องหนังสือ พลันรู้สึกถึงน้ำหนักอะไรบ้างอย่างทาบทับลงมาบนตัวนาง นางยามสะลึมสะลือเพียงนึกว่าฝันไป จึงไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดู
นางง่วงมากจริงๆ นางเพียงรู้สึกว่าถูกผู้คนรบกวนขณะนอนนางรู้สึกรำคาญยิ่ง
“ท่านพี่ข้าเหนื่อยเหลือเกินเอาไว้วันใหม่เถอะ” นางงัวเงียมือดันคนที่ทาบทับอยู่บนตัวไปมา
“อืม” นางครางออกมาด้วยด้วยความรำคาญ พลันพลิกตัวหันหลังหนีเขา
จู่ๆ นางรู้สึกว่ากางเกงนางถูกผู้คนดึงรั้งลงไปกองไว้ตรงข้อเท้า นางอยากจะลุกขึ้นมาขัดขืนการกระทำของสามี แต่ว่าตัวนางตอนนี้ง่วงเหลือเกิน ซักพักกระโปรงนางก็ถูกดึงขึ้นไปกองไว้บนเอวบอบบาง
“อือ อือ ท่านพี่ข้าจะนอน” นางบ่นออกมาเบาๆ ราวกับเสียงยุง
จู่ๆ นางรู้สึกคับแน่น ประตูหยกของนางยามนี้ถูกอะไรบางอย่างดุนดันเข้ามา ซีด นางครางออกมาตามสัญชาตญาณ ยามนี้นางรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวนัก นางดิ้นดุกดิกไปมา
“อือ อือ อ่า อ่า”
“พับ พับ พับ” คนที่ขี่อยู่บนสะโพกนางตอนนี้เริ่มกระแทกเอวออกไป นางนอนเหยียดยาวมือทั้งสองข้างอยู่เหนือศีรษะต้องกำผ้าห่มแน่น
“อืม อืม พับ พับ พับ” คนบนสะโพกนางครางออกมาอย่างสุขสม เขากัดริมฝีปากล่างแน่นกล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเสียวซ่าน เขากำลังควบขี่นางอยู่ ควบขี่นางที่เป็นดังดวงใจของเขา
“นายหญิงท่านเสียวหรือไม่” เขาก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูนาง
“อือเสียว...... เอ๊ะ” นางพลันสติแจ่มใสขึ้นมาทันที นี่ไม่ใช่เสียงของสามีนาง เป็นใครกันที่ซอยเอวเข้าออกประตูหยกของนางอยู่
“เจ้า!” นางตกใจสุดขีด นางพยายามจะใช้มือดันตนเองขึ้นมา แต่คนผู้นั้นนั่งทับอยู่บนสะโพกนาง ซ้ำเขายังใช้มือกดลงมายังท้ายทอยเพื่อไม่ให้นางขัดขืน
“ฮือ ฮือ เจ้าปล่อยข้าเดียวนี้” นางร้องให้แล้ว นางหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความอัปยศ บัดนี้มีผู้คนที่ไม่ใช่สามีควบขับอยู่บนตัวนาง นางตั่งท่าจะร้องให้คนช่วยแต่เจ้าคนผู้นั้นเหมือนอ่านใจนางออก
“นายหญิง หากท่านร้องออกไปชีวิตท่านและข้าคงจบสิ้นแล้ว”
เสียงของนางชะงักค้างอยู่ในลำคอ
“ฮือ ฮือ ฮือ” นางร้องให้ด้วยความคับแค้นใจ ตอนนี้นางสับสนนางยังตั้งสติไม่ได้ ในหัวสมองนางเกิดคำถามขึ้นมากมายไปหมด
“พับ พับ พับ” เอวเขายังกระแทกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เสียงกระแทกดังก้องไปทั่วห้อง เหมือนเขาเองก็ทราบแล้วว่าเขากระแทกนางดังเกินไป จู่ๆ เขาก็หยุดเอวอยู่กับที่
“เจ้าออกไปจากตัวข้าเดียวนี้” นางสั่งเขา ไม่ว่าเขาเป็นผู้ใดนางไม่สนใจแล้ว ยามนี้นางเพียงต้องการให้เขาออกไปจากตัวนาง
“นายหญิงท่านเงียบเสียงไว้” เขากระซิบข้างหูนางเบาๆ จากนั้นมือเขายื่นมาจับที่หัวไหล่นาง พลิกนางให้ตะแคงข้าให้กับเขา เนื่องจากนางเป็นสตีที่มีสามีแล้วนางจึงเข้าใจว่าเขาคิดจะทำอะไร
“เจ้าออกไป ข้าไม่เอา” นางพยายามดินรนขัดขืนเขา แต่ว่าเรี่ยวแรงนางเพียงน้อยนิดไหนเลยสู้แรงเขาได้
“ฮือ ฮือ” นางร้องให้ออกมาด้วยความเศร้าเสียใจ นางสู้แรงเขาไม่ได้จึงถูกเขาจับหันข้าง
“พับ พับ พับ” เขาพอจับนางตะแคงข้างได้แล้วก็ซอยเอวเข้าออกนางต่อเนื่องทันที อยู่ในท่านี้เหมือนเสียงจะเบากว่าเดิม
“พับ พับ พับ นายหญิงท่านอย่าเศร้าเสียใจไปเลย ต่อไปข้าจะเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ท่านไปชั่วชีวิต” เขากระแทกนางไปก็บอกกล่าวปลอบโยนนางไป
“เจ้าออกไป ข้าไม่ต้องการ ฮือ ฮือ” ยามนี้นางเสียใจ นางผิดอะไรทำไมสวรรค์ถึงทำกับนางเช่นนี้
“พับ พับ พับ นายหญิงข้ารู้สามีสารเลวของท่านเขาไม่ได้ใส่ใจท่าน ต่อไปนี้ข้าจะดูแลท่านไปชั่วชีวิต” เขาพยายามคิดถ้อยสวยหรูมากล่อมนาง แต่ว่าเขาเพียงบ่าวไพร่ไหนเลยคิดคำพูดซับซ้อนดีๆ ออกมาได้
“นายหญิงข้ารักท่านนัก” เขาสาวเอวเข้าออกประตูหยกนางปากก็ออกปากฝากรักต่างๆ นาๆ
จู่ๆ เขาก็ดึงแกนกายเขาออกจากรูร่องนาง
“นายหญิงท่านโก้งโค้งให้ข้าได้หรือไม่” เขานั่งคุกเข่ามองนางอยู่บนเตียง ตอนนี้นางตะแคงข้างกอดตัวเองเป็นลูกบอลกลมไหล่นางสะท้านขึ้นลง นี่แสดงว่านางกลั้นสะอื้นอยู่
“นายหญิงท่านโก้งโค้งให้เราเถอะ เราไม่อยากบังคับท่าน”
“ฮือ ฮือ” ไม่อยากบังคับเราหรือแล้วที่ผ่านมาคืออะไร
“นายหญิงขอเพียงท่านยอมโก้งโค้งให้ ข้ารับรองว่าเรื่องในคืนนี้จะไม่มีผู้ใดรู้เห็น ท่านถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเถอะ”
นางแค้นเขาแทบตายแล้ว แต่สิ่งที่เขากล่าวกลับทำให้นางต้องคิดหนัก หากเรื่องในคืนนี้ไม่มีผู้คนรู้เห็นนางยังสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้ นางต้องการผ่านพ้นคืนอัปยศนี้โดยเร็ว
ขอเพียงหลุดพ้นจากเจ้าตัวอุบาทชาติชั่วผู้นี้ได้ จากนั้นหาทางฆ่าเขาปิดปาก นางถึงแม้เสียใจที่ไม่สามารถรักษาศักดิ์ศรีแต่นี้คงเป็นทางออกเดียวของนางแล้ว
“เจ้ารีบๆ ทำ” ในที่สุดนางยอมแล้ว นางยามนี้พลิกตัวขึ้นมาคลานอยู่บนเตียง นางใช้ข้อศอกยันพื้นไว้ปกติสามีนางไม่ชอบร่วมรักกับนางในท่านี้ เขาเป็นบัณฑิตเขาบอกนางว่าท่วงท่าเช่นนี้มีแต่พวกป่าเถื่อนด้อยการศึกษาถึงจะกระทำ
นางหลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ ผ้าห่มถูกดึงมาใช้เป็นผ้าเช็ดหน้านาง นางฝังใบหน้าลงไปในนั้นหลั่งน้ำตาออกมาราวกับสายน้ำ
“พับ พับ พับ” ศีรษะนางกระเด้งไปตามแรงกระแทก กระโปรงนางถูกดึงขึ้นมากองอยู่บนเอว
“เจ้าเบากว่านี้” นางกลัวเสียงดังออกไปเบื้องนอก
“อืม อืม” เขาครางออกมาด้วยความสุขสม นายหญิงของเขาบัดนี้คลานอยู่ตรงหน้า สวรรค์เขาไม่ได้ฝันไปนางคลานอยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ
“พับ พับ พับ” ข้าใกล้เสร็จแล้วนายหญิง
“ไม่ ไม่ เจ้าเอาออกไปหลั่งข้างนอก”
“อ่า อ่า อ่า” แท่งเนื้อภายในกายนางไหนเลยยอมถอนออกตามคำสั่ง เขาคว้าเอวนางไว้แน่นไม่ให้นางคลานหนี
“เจ้า!” นางสะดุ้งเมื่อกระแสอุ่นฉีดพุ่งเข้ามาในท้อง นางพยายามจะคลานหนีแต่เขากับดึงสะโพกนางไว้
นางซุกหน้าลงกับผ้าห่มร่ำไห้ออกมาอีกครั้ง พรางคิดในใจไม่ว่าเจ้าผู้ที่อยู่ข้างหลังเป็นใคร มันต้องตาย มันต้องตาย
“ป็อก” เขาถอนแท่งเนื้ออกจากประตูหยกนาง จ้องมองนางที่คุดคู้อยู่ตรงหน้า หัวไหล่ที่สะท้านขึ้นลงทำให้เขารู้ว่านางร่ำไห้อยู่เงียบๆ แม้จะรู้สึกผิดที่ทำกับนางเช่นนี้ แต่เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องการนางเขาหลงรักนางมานานแล้วแต่เขาเพียงบ่าวไพร่ไหนเลยนางจะเหลือบแลเขา
“นายหญิงต่อไปข้าจะปกป้องท่านด้วยชีวิต” เขาใช้นิ้วแหวกกลีบท้อนางออกจากกันเพื่อจะได้มองน้ำขาวขุ่นที่ไหลออกมาจากรูร่องของนางชัดๆ
เจ้าสิ่งนี้คือสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้ฝันไป เขาเข้าไปอยู่ในกายนางได้แล้วจริงๆ เพียงแต่สตรีที่คุดคู้อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้คิดเช่นเดียวกับเขา
“เราต้องฆ่ามัน ไม่อาจปล่อยให้มันมีชีวิต” นางหมอบอยู่บนเตียง ในสมองพลันคิดถึงวิธีสังหารคนปิดปากต่างๆ นาๆ
***