บทที่ 3 รักข้างเดียว

2435 คำ
ปลายเมฆกลับมาถึงบ้านด้วยสีหน้าหมกมุ่น คิ้วทั้งสองข้างขมวดติดกันเป็นแพยาว บ่งบอกถึงความเครียดที่มีอยู่ในใจ ป้ารวยซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของชายหนุ่มมาตั้งแต่เด็กเห็นแล้วก็อดสอบถามไม่ได้ “คุณหนูของป้ารวยเป็นอะไรไปคะ” หญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วม ผิวขาว ผมสั้นนั่งลงข้างปลายเมฆก่อนเอ่ยถาม ถึงคุณหนูของเธออายุจะเข้าเลขสามสิบบวกแล้ว แต่เธอก็ยังเรียกปลายเมฆไม่ต่างจากตอนที่ยังเป็นเด็ก “วันนี้ผมไปงานศพอดีตแม่ยายมาครับป้ารวย ผมเจอระฆังแก้วด้วย” จริงๆ เขาก็ทำใจไว้แล้วว่าต้องเจออดีตภรรยา ทว่าสิ่งที่ไม่ได้ตั้งรับคือลูกสาวของเธอ ไม่คิดว่าใบหน้าของแม่หนูน้อยจะเหมือนตัวเองราวกับพิมพ์เดียวกันแบบนี้ น้ำเสียงของปลายเมฆดูไม่ค่อยสบายใจทำให้คนฟังพลอยอยากรู้ไปด้วย ว่าตอนนี้อดีตภรรยาของปลายเมฆเป็นอย่างไรบ้าง นานมากเหลือเกินที่เธอไม่ได้เจอกับระฆังแก้ว “คุณแก้วเธอเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่ออกจากบ้านนี้ไปป้าก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย แล้วคุณแก้วได้ลูกสาวหรือลูกชายคะ” หวนกลับไปคิดถึงตอนนั้นใบหน้าที่แต้มไปด้วยรอยยิ้มกลับหม่นลงทันตา เธอยังจำความดีใจตอนที่รู้ว่าระฆังแก้วตั้งครรภ์ได้ แต่ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ “ก็ดูสบายดีนะครับ เธอมีลูกสาว หน้าตาน่ารักมาก” ชายหนุ่มยิ้มกว้างยามที่คิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโต มองมุมไหนก็สวยน่ารักไปทุกองศาของเด็กหญิงหอมรัก ถ้าเป็นไปได้เขาอยากเจอเด็กน้อยอีก อยากกอด อยากหอม อยากให้ความรัก “ลูกสาวเหรอคะ ใช่ลูกของผู้ชายคนนั้นไหม” “ผมไม่รู้ครับป้ารวย ตอนนี้ผมสับสนไปหมด” “ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น” “เด็กหน้าเหมือนผมมาก แกอาจจะเป็นลูกของผม” “เหรอคะ งั้นป้าขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม” “ครับ” “ถ้าถามป้า ป้าว่าคุณแก้วเธอไม่น่าจะมีชู้ เธอเป็นคนตรงๆ นิสัยออกจะคล้ายผู้ชายไม่มีจริตจะก้าน ไม่น่าจะทำแบบนั้น” “แต่หลักฐานทุกอย่างชี้ไปในทางนั้น เธอจะไม่มีชู้ได้ยังไง” “คุณหนูขาหลักฐานบางอย่างคนก็สร้างขึ้นมาได้” เหมือนในละครที่ชอบดู แต่แรกป้ารวยไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องนี้ ไม่อยากจะพูดมากแต่ก็ทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ เธอคิดมาตลอดว่าเรื่องที่ระฆังแก้วแอบนอกใจเล่นชู้ต้องไม่เป็นความจริง มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่าง “ป้ารวยจะบอกอะไรผม ป้าคิดว่าผมถูกหลอกใช่ไหม” ตอนแรกเขาไม่ได้คิดแบบนี้เพราะเชื่อในหลักฐาน ทว่าหลังจากได้เจอน้องหอมรักความคิดก็เปลี่ยน บวกกับคำพูดของสิบทิศและคำประชดประชันของอดีตภรรยาทำให้เขาเริ่มคิด ว่าสิ่งที่เห็นในตอนนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด “ป้าไม่รู้ค่ะ แต่ที่แน่ๆ ป้าเชื่อว่าคุณแก้วเธอไม่มีทางมีชู้” ป้ารวยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตามั่นคงสื่อความหมาย ถึงจะรู้จักหญิงสาวได้ไม่นาน แต่เธอเชื่อว่าคนอย่างระฆังแก้วไม่ทำตัวแบบนั้นแน่นอน แม้ว่าชีวิตคู่ของสองหนุ่มสาวจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยคำว่ารัก แต่ทั้งสองก็มารักกันหลังจากแต่งงาน แล้วมีเหตุผลอะไรที่ระฆังแก้วจะนอกใจสามีที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไปคว้าเอาใครก็ไม่รู้ “ผมจะตามหาความจริงเรื่องนี้ว่าใครหลอกใครกันแน่” คำพูดของคนที่เลี้ยงดูตัวเองมาไม่ต่างจากมารดาคนที่สองทำให้ปลายเมฆเริ่มเอนเอียง ในอดีตเขายังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ ใครพูดอะไรก็เชื่อ แต่ตอนนี้เมื่อเขาอายุเยอะขึ้น ซ้ำประสบการณ์ชีวิตก็มีมากขึ้น เขาต้องรู้ให้ได้ว่าความจริงคืออะไรกันแน่ ถ้าระฆังแก้วถูกใส่ร้ายจริง เขายินดีจะชดใช้ทุกอย่างให้เธอให้สมกับความโง่เขลาของตนเอง และจะลากคอคนที่มันเกี่ยวข้องมากราบเท้าขอขมาหญิงสาวให้ได้ “ดีค่ะ แต่ตามหาเงียบๆ ก็พอนะคะ เชื่อป้าสักครั้ง ไม่ต้องบอกใครทั้งนั้น แม้แต่คุณนายรอง คุณหนูรู้ใช่ไหมคะว่าคุณนายรองไม่ชอบคุณแก้ว” คนที่ป้ารวยพูดถึงก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดปลายเมฆ เธอไม่ค่อยชอบลูกสะใภ้คนนี้เนื่องจากระฆังแก้วเป็นลูกเมียน้อย แต่ผกากรองอาจจะลืมไปแล้วว่าตัวเองก็เป็นเมียน้อยเหมือนกัน ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนให้คำตอบ ทำไมเขาจะไม่รู้ในเมื่อมารดาชอบจิกกัดระฆังแก้วทุกครั้งที่เจอหน้ากัน จนหลังๆ หญิงสาวไม่อยากไปร่วมรับประทานอาหารด้วยทำให้เขาต้องไปคนเดียวอยู่ตลอด “รู้ครับ เรื่องนี้ผมจะไม่บอกใครแน่นอน” “ป้าก็จะไม่พูดกับใครเหมือนกันค่ะ” “ผมอยากให้ป้ารวยได้เห็นหน้าน้องหอมรักจังเลย แกน่ารักมากจริงๆ ตาแป๋วมาก สวยน่ารักทุกมุม มองยังไงก็ไม่เบื่อ” “คุณหนูมาพูดแบบนี้ ป้าชักจะอยากเห็นบ้าง เฮ้อ ไม่รู้จะได้เจอกันไหม” “ป้าอยากไปเยี่ยมแก้วไหม เดี๋ยวผมพาไปผมรู้จักบ้านแก้ว” “หืม ไปรู้จักบ้านคุณแก้วได้ยังไงคะ” “คือ...เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ” ปลายเมฆยิ้มกว้างก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวัดให้ป้ารวยฟังอย่างละเอียด และบอกว่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้ถ่ายรูปเด็กน้อยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงได้เอามาให้ป้ารวยดู ขนาดสิบทิศยังบอกว่าหน้าเหมือนเขาเลย หากคนที่เลี้ยงดูตัวเองมาตั้งแต่เกิดได้เห็นคงคิดไม่ต่างกัน “คุณหนูพูดแบบนี้ป้ายิ่งอยากเห็นน้องหอมแล้วสิคะ หน้าตาจะเหมือนคุณหนูอย่างที่พูดจริงไหม” “งั้นพรุ่งนี้เราไปเยี่ยมพวกเขาดีไหมครับ ถ้าป้ารวยไปแก้วต้องไม่ว่าแน่” “จะดีเหรอคะ คุณแก้วเธอจะต้อนรับเรารึเปล่า” “กับป้ารวยต้อนรับแน่นอน แต่กับผมคงไม่” “ไปก็ดีค่ะ แต่คุณหนูต้องกลับไปกินข้าวบ้านใหญ่ไม่ใช่เหรอ” “ช่างมันเถอะครับ ไม่มีผมสักคนเขาก็กินได้” “แบบนั้นคุณหนูจะโดนคุณนายรองโมโหเอานะคะ” “ผมอยากขัดใจคุณแม่บ้าง ผมทำตามใจคุณแม่มาตลอด ผมเหนื่อยแล้วครับป้ารวย ทำดีแค่ไหนคุณแม่ก็ไม่เคยพอใจ” “ดีแล้วค่ะ พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าชีวิตเรา จำไว้นะคะคุณหนู อย่าตามใจคนอื่นจนชีวิตเราพัง คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูก คุณหนูมีสิทธิ์จะตัดสินใจได้เอง ชีวิตเป็นของคุณหนูค่ะ” “ครับ ผมจะจำเอาไว้ พรุ่งนี้เราไปหาพวกเขากัน” “ค่ะ หวังว่าพวกเขาจะอยู่บ้านกัน” “น่าจะอยู่นะครับ เราลองเสี่ยงดวงดู” “ป้าอยากเจอคุณแก้วกับคุณหนูน้อยใจจะขาด” หญิงวัยกลางคนยิ้มพราวไปทั้งใบหน้า ทว่าพอคิดถึงอดีตภรรยาของปลายเมฆน้ำตาก็เหมือนจะไหลออกมา เธอเชื่อเสมอว่าระฆังแก้วไม่มีทางทำเรื่องต่ำช้าแบบนั้น เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังและคนคนนั้นต้องไม่ใช่คนอื่นคนไกล ความรู้สึกมันบอกว่าเป็นคนใกล้ตัวของปลายเมฆนั่นแหละ! หลังจากอดีตสามีกลับไป ระฆังแก้วก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาราวกับคนหมดแรง ก่อนจะบอกให้พลอยใสขึ้นไปดูแลลูกสาว ส่วนตัวเองขอนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่อยากให้ใครรบกวน พลอยใสเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของหอมรัก เห็นคุณหมอมาวินกำลังยืนมองเด็กน้อยด้วยแววตารักใคร่จึงขยับตัวเข้าไปกระซิบบอกเรื่องของเจ้านาย “คุณหมอลงไปอยู่เป็นเพื่อนพี่แก้วไหมคะ หนูเห็นสีหน้าพี่แก้วไม่ค่อยดี น่าจะเครียดมาก บอกว่าไม่อยากคุยกับใครด้วย” “ปล่อยให้แก้วอยู่คนเดียวไปก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งไปยุ่งเลย บางครั้งคนเราก็อยากคิดอะไรเงียบๆ คนเดียว” “ก็จริงอย่างที่คุณหมอว่า แต่คุณหมอไม่ต้องเสียใจไปนะคะ ยังไงหนูก็อยู่ข้างคุณหมอ” เด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ ยกมือขึ้นมาตบไหล่คนแก่กว่าตัวเองหลายปีพร้อมกับพยักหน้าให้ อย่างไรเสียเธอก็จะอยู่ข้างเขาไม่ไปไหน จะเชียร์เขาจนกว่าเขาจะชนะใจระฆังแก้ว แม้ว่าตัวเองจะต้องเจ็บปวดใจก็ยอม “ทำไมต้องเสียใจ พี่ต้องเสียใจเรื่องอะไร” คนถูกปลอบใจนิ่วหน้าด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าพลอยใสพูดถึงเรื่องอะไร เขามีเรื่องอะไรให้ต้องเสียใจอย่างนั้นเหรอ “ก็เรื่องอดีตสามีพี่แก้วไง อยู่ๆ ก็โผล่มาไม่รู้จะมีซัมติงอะไรกันไหม แต่คุณหมอไม่ต้องห่วงหนูเชียร์คุณหมอ พ่อของน้องหอมต้องเป็นคุณหมอเท่านั้น” คำตอบของพลอยใสทำให้คุณหมอหลุดขำเบาๆ “คิดอะไรของเราเป็นตุเป็นตะไปหมด พี่กับแก้วเป็นเพื่อนกัน ดูแลกันเหมือนพี่น้องมากกว่า” “ไม่ต้องโกหกหนูหรอกค่ะ เราคนกันเอง คุณหมอชอบพี่แก้วก็บอกมาเถอะ หนูเอาใจช่วย” “พอๆ เลิกคุยเรื่องพี่ มาคุยเรื่องตัวเองดีกว่า เราไปสอบมาเป็นยังไงบ้าง” “ก็ดีค่ะ ถือว่าทำได้ เฮ้อ อีกไม่นานก็เรียนจบ รู้สึกโล่ง” พลอยใสยิ้มตาหยีเมื่อจินตนาการถึงภาพของตัวเองตอนที่ใส่ชุดครุยขึ้นรับปริญญา ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวบ้านนอกจนๆ อย่างเธอจะมีบุญได้ร่ำเรียนหนังสือจนถึงระดับปริญญาตรี “หลังจากเรียนจบแล้ว คิดรึยังว่าจะไปทำอะไร” “ยังไม่คิดค่ะ เผื่อมีเศรษฐีดูไบมาขอ” “ขอไปเป็นคนใช้” “เมียสิคะคุณหมอ หน้าตาสะสวยระดับนี้” หญิงสาวค้อนควัก ส่วนชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้า พลอยใสสมกับเป็นคนชอบอ่านหนังสือนิยาย จินตนาการเป็นเลิศ อยากเจอเศรษฐีบ่อน้ำมันแต่ตัวเองไม่ออกไปไหน มันคงเจอหรอก “เพ้อไปมาก อ่านนิยายให้น้อยๆ หน่อยเรา วันๆ อยู่แต่ในบ้านจะไปเจอเศรษฐีดูไบจากไหน” “ก็เจอตอนหนูไปสอบแบบวันนี้ไง พูดแล้วจะหาว่าอวด วันนี้ก็มีคนมาขอเบอร์ ขอแอดลงแอดไลน์ด้วยนะคะ เฮ้อ สวยเกินก็งี้แหละ ผู้ชายรุม” พลอยใสเป็นคนหน้าตาดี ติดที่ว่าเป็นคนไม่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวก็เลยดูไม่โดดเด่น มีคนเข้ามาทักหวังจะจีบบ่อยแต่เธอไม่สนใจแค่นั้นเอง อันที่จริงวันนี้คนที่เข้ามาขอไลน์เป็นพวกจัดหานางแบบหรือดาราเข้าวงการบันเทิง ด้วยความกลัวว่าจะถูกหลอกเธอจึงปฏิเสธไป คุณหมอได้ยินแบบนั้นถึงกับฉุน รู้สึกเป็นห่วงเด็กสาวอย่างไม่รู้ตัวจึงยกมือขึ้นมาบีบแขนของเธอเบาๆ ก่อนเอ่ยถาม “แล้วเราให้เขาแอดรึเปล่า อย่าให้ใครมั่วซั่วเด็ดขาด คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ ไม่เห็นข่าวเหรอ” “หนูอายุตั้งเท่าไรแล้วคะคุณหมอขา ไม่ใช่เด็กน้อยเหมือนเมื่อก่อน ที่มาจากบ้านนอกไม่รู้เรื่องรู้ราว ตอนนี้หนูฉลาดมาก ใครก็หลอกไม่ได้ทั้งนั้น” “แล้วสรุปได้ให้ไปไหม” “ไม่ได้ให้ค่ะ แหะๆ” ดูเหมือนคำตอบของพลอยใสจะสร้างความพึงพอใจแก่คุณหมอหนุ่มหน้าใสไม่น้อย สีหน้าถึงได้เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องนอนของน้องหอมรัก สักพักก็ลงมาดูระฆังแก้วที่ยังนอนนิ่งอยู่บนโซฟา ด้วยความที่ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอ พลอยใสจึงขอตัวไปทำงานบ้านแล้วปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง เมื่อเธอเดินพ้นประตูไปเล็กน้อย สีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกลับเศร้าหมองลงทันตา “มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหม” มาวินเอ่ยถามระฆังแก้วด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แววตาแสดงออกถึงความจริงใจ ไม่ได้มีเรื่องชู้สาวมาเกี่ยวข้อง คุณแม่ลูกหนึ่งอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับส่ายหน้าก่อนให้คำตอบ เธอไม่อยากให้ผู้ชายแสนดีอย่างคุณหมอมาวินต้องมาเป็นห่วง เท่านี้เขาก็ดูแลเธอกับลูกมากพอแล้ว มากถึงขนาดที่ใครๆ ก็เข้าใจว่าเขาคือพ่อของลูกสาว คือสามีของเธอ “ไม่มีค่ะ พี่วินไม่ต้องห่วง วันนี้แก้วแค่บังเอิญไปเจออดีตสามีก็เท่านั้นเอง” “ถ้าแก้วมีอะไรอยากบอก พี่พร้อมรับฟัง สำหรับพี่แก้วกับลูกไม่ใช่คนอื่น” “ขอบคุณมากนะคะพี่วิน ขอบคุณที่ดีกับเราสองแม่ลูกมาตลอดหลายปี” “เรื่องแค่นี้เอง แล้วไปเจอกันได้ยังไงถึงกับมาส่งที่บ้านเลย” ระฆังแก้วถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะเล่าเรื่องวันนี้ให้มาวินฟังด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว เล่าไปก็ใส่อารมณ์ไป ทำให้คุณหมอหนุ่มรูปงามยิ้มด้วยความเอ็นดูจึงยกมือไปลูบหัวเธอเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่พลอยใสเดินผ่านมาเห็นพอดี เธอรีบหลบออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน แล้วหายเข้าไปในห้องนอนของเด็กน้อยที่หลับมาสักพักใหญ่ พลอยใสบอกตัวเองให้ตัดใจได้แล้ว ยิ่งนานยิ่งเจ็บ ลองเปิดใจคุยกับคนที่เข้ามาจีบดู เผื่อจะได้เจอเนื้อคู่เหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง อย่างไรเสียตนเองกับคุณหมอก็ไม่เหมาะสมกัน “วันหลังใครมาขอแอดไลน์ ฉันจะให้แล้ว เอาไปให้หมดเลย รวมทั้งเฟซบุ๊กกับไอจีด้วย” คนน้อยเนื้อต่ำใจในชาติกำเนิดบ่นเบาๆ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนข้างเตียงของหอมรัก ก่อนจะเอามือขึ้นมาก่ายหน้าผากคิดถึงบิดามารดาขึ้นมา ไม่รู้ตอนนี้พวกท่านจะเป็นอย่างไรบ้าง ยังคิดว่าเธอคือตัวซวยของครอบครัวอยู่หรือเปล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม