ได้ยินที่เขาบอก มือเรียวขยุ้มเส้นผมสีน้ำตาลเข้มของเขาเอาไว้แน่น ซึ่งในอารมณ์นี้เควินก็ชอบ ที่ตัวเองโดนดึงผม นาทีนี้เขายอมทุกอย่าง... ยอมให้หล่อนทึ้งศีรษะของเขาด้วยความเต็มใจ เพื่อแลกกับการได้ยกสะโพกขึ้นดูดซดร่องเสียว ดังซ่วดซ่าดเอร็ดอร่อย เหมือนกำลังจัดการกับของหวานชามใหญ่
“อ่า... อร่อย”
ปลายลิ้นสากระคายยังไม่หยุดลากเลียขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวยาวของพูเนื้ออูมแน่น กลิ่นสาบสาวทำให้เขานึกถึงเนื้อปลาแซลมอนแร่สด คาวสวาทของผู้หญิงคนนี้หอมรัญจวนสะกดอารมณ์ของเขาให้งุดหน้าชมเชยจนแทบไม่อยากเงยกลับขึ้นมาหายใจ
“อร่อย... อ่า... ยิ่งเลียยิ่งอร่อย”
เสียงของเควินเต็มไปด้วยความลุ่มหลง เพราะว่าหญิงสาวสามารถตอบสนองการรุกเร้าจู่โจมของเขาได้อย่างเร่าร้อนสมน้ำสมเนื้อ
“อร๊าย... คุณเคนอย่าขบเม็ดหนู”
สองมือเกร็งเกาะบ่าเขาแน่น เมื่อหนุ่มใหญ่ก้มลงขบติ่งกระสันแล้วดูดดุนเอาไว้ในอุ้งปาก วนลิ้นบดขยี้ย้ำๆ ส่งผลให้เม็ดเนื้อปูดพองขึ้นมาเหมือนเม็ดทับทิมแดงๆ เต้นหมุบๆ อยู่ในปากของเควิน
น้ำอ้อยเสียวมาก ยืนยันด้วยสะโพกของหล่อนที่เบียดบดย้ำเป็นวงกลมอยู่กับเบาะภายในรถ บางครั้งก็แอ่นร่อนด้วยความซ่านสยิวสุดจะบรรยาย ด้วยฤทธิ์เดชชิวหาพาเพลินของเควินที่จ้วงเข้ามาเลียกินความเป็นสาวของหล่อนไม่ยั้ง
“ไม่ไหวแล้ว... ฮึ่ก... คุณเคน”
เสียงสั่นพร่าทรมาน เควินเองก็สุดจะทนเล้าโลมได้อีกต่อไป อยากกระแทกให้จมดุ้น จึงรีบขยับห่างออกมา แหกเข่าแบะอ้า แล้วจับแท่งเอ็นเข้ามาบดเคล้ากับร่องสวาทชุ่มลื่น
ทว่าในขณะที่กำลังจะเสียบกระเด้าอยู่แล้วเชียว เสียงโทรศัพท์มือถือของน้ำอ้อยก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“เดี๋ยวค่ะ... คุณเคน... เดี๋ยว”
หล่อนผลักกล้ามท้องเป็นลอนของเขาเพื่อให้หยุด ทว่าหนุ่มใหญ่จอมหื่นยังทำท่าเหมือนจะเดินหน้าต่อ หล่อนจึงตีน้องชายของเขาเบาๆ แต่ก็เสียงดังเพียะ เพื่อให้มันสงบ
“นังอ้อย... ทำไมเอ็งยังไม่กลับบ้านอีกวะ ดึกป่านนี้แล้ว กลับบ้านได้แล้วนะ”
เสียงแหลมของนางรำเพยผู้เป็นมารดากรอกมาจากต้นสายด้วยความเป็นห่วงลูกสาว เหมือนระฆังห้ามมวยดังขึ้นพอดี
“จ้ะแม่... หนูกำลังจะกลับแล้วจ้ะ”
หญิงสาวพยายามควบคุมสุ้มเสียงให้เป็นปกติ
“รีบมานะมึง... เป็นสาวเป็นนางออกไปคนเดียวอันตรายนะโว้ย เดี๋ยวจะโดนผู้ชายบ้ากามแถวนั้นฉุดไปข่มขืน”
เสียงของมารดาหล่อนที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์สะดุดหูของเควินเข้าอย่างจัง
เพราะว่าไม่อยากเป็นผู้ชายบ้ากามที่แม่ของน้ำอ้อยเอ่ยถึง เควินจึงยอมขยับห่างออกมาอย่างแสนเสียดายโอกาส เพราะว่าอีกนิดเดียว... นิดเดียวเท่านั้นก็จะได้สอดใส่อยู่แล้วเชียว
“หนูจ๋า... เรามาต่อให้เสร็จก่อนดีมั้ย”
ประเหลาะเสียงอ่อน พูดพลางเอามือลูบดุ้นเอ็นของตัวเองเพราะอารมณ์ค้าง ดูเหมือนว่ามันเริ่มแข็งตัวขึ้นมาอีก หลังจากโดนฟาดไปทีนึง แต่เจ้าอนาคอนดาใหญ่ยักษ์ของเขาก็คึกคักเหลือเกิน มันฟื้นตัวรวดเร็วมาก ซ้ำยังผงึกผงกหัวทู่ๆ เหมือนอยากจะเลื้อยลงรูหล่อน
“ไม่ค่ะ”
น้ำอ้อยส่ายหน้าปฏิเสธ เสียงดุของมารดาทำให้อารมณ์กระสันเมื่อครู่สะดุดลง
“อย่าดื้อน่ะ... อีกนิดเดียวเราก็จะ... ”
เควินเอื้อมมือขึ้นมาทำปูไต่ที่ต้นขาของหล่อน ดูเหมือนว่าเขายังอยากจะเดินหน้าต่อ
“ไม่ค่ะ... ถ้าคุณดื้อ... คุณจะไม่ได้เจอหนูอีก”
เอาละสิ... หญิงสาวขู่ และดูเหมือนว่ามันได้ผล เพราะว่าเควินยอมขยับห่างออกมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง นึกในใจว่าวันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร เพราะว่าพรุ่งนี้หล่อนก็ต้องมาทำงานบ้านให้เขาอยู่ดี
เควินรู้ว่ายังมีเวลาอีกมาก ที่จะตะล่อมเหยื่อรายนี้ให้จนมุม แต่ถ้าขืนบุ่มบ่ามไปตามอารมณ์หื่น... เดี๋ยวไก่ตื่นจะอดเชือดเสียเปล่าๆ
“พาหนูกลับบ้านนะคะ”
ทำเสียงอ้อน เงยหน้ามองตาเขา
“โอเค... ”
คนตัวใหญ่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ เพราะมั่นในว่ายังไงหล่อนต้องเป็นของเขาแน่ๆ
ระหว่างนั่งรถมาด้วยกัน น้ำอ้อยเผลอยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองที่โดนคนนั่งข้างๆ สอนจูบจนบวมเจ่อ
น้ำอ้อยเหลือมองหน้าคนข้างกาย เควินเหลือบมาแวบหนึ่ง ตาประสานกัน เขาเห็นหล่อนทำท่าเม้มริมฝีปากเบาๆ เหมือนกำลังสำรวจความรู้สึกเร่าร้อนเมื่อครู่... ว่ายังไม่จางหาย
แรงบดเคล้าเร่าร้อนจากการจูบของเควินเมื่อครู่ ทำให้ริมฝีปากของหญิงสาวยังเต้นระริกสั่น เลือดในกายสูบฉีดพลุ่งพล่านราวจะเดือดขึ้นมาได้ เพราะจูบดูดดื่มของเขา
“อยากโดนจูบอีกละสิ”
เควินรู้เท่าทันอารมณ์หวามไหวของผู้หญิงที่โดนเขาทำให้ใจแตก
น้ำอ้อยหลบสายตาวูบ ค่อยๆ เหลือบมองหน้าเขาอีกครั้งอย่างอายๆ อีตาหนุ่มใหญ่เจ้าของไร่อ้อยคนนี้จูบได้ดูดดื่มร้อนแรงเหลือเกิน... แต่ที่ร้ายกาจจนทำให้เรือนร่างของหล่อนอ่อนระทวยก็คือลีลาลงลิ้นกับตรงนั้น... อูย... แค่นึกถึงก็เสียวซ่านเหมือนจะขาดใจ
“พรุ่งนี้ฉันมีอะไรดีๆ จะสอนให้อีก”
เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งมาวางลงบนต้นขาของหล่อน บีบเบาๆ พอให้เจ้าตัวรู้สึกขนลุก
ในเวลาต่อมา
เควินขับรถมาส่งน้ำอ้อยจนถึงบ้าน
“นี่นะหรือบ้านเธอ”
เควินทอดสายตามองดูสภาพบ้านไม้เก่าๆ ของหล่อนด้วยความรู้สึกสะทกสะท้อนใจในความยากจน
จากสิ่งที่เห็นมันทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดน้ำอ้อยจึงมาทำงานบ้านเพื่อหารายได้พิเศษ
“ค่ะ... นี่แหละบ้านหนู”
ไม่อายที่จะบอกความจริง แม้บ้านไม้หลังน้อยจะเก่าซอมซ่อ แต่มันก็เป็นที่ซุกหัวนอน คุ้มแดดคุ้มฝนมานาน... และที่สำคัญก็เพราะว่ามันคือความทรงจำในวัยเยาว์ของหล่อน
“แม่หนูทำงานอะไร”
ความสงสัยทำให้เควินถาม
“ขายแกงถุงอยู่ในตลาดค่ะ”
“แล้วพ่อล่ะ”
“พ่อหายไปนานแล้วค่ะ... ”
“หาย... ”
หัวคิ้วเป็นแพดกหนาของเควินชิดเข้าหากัน