Chapter 9 เด็กดีของลุงภาค

1152 คำ
‘นุ่ม คุยกับใครน่ะลูก’ แค่คิดถึง แม่ของเด็กก็เดินกึ่งวิ่งมาหา หล่อนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงจนน่าแปลกใจที่ปล่อยให้ลูกตัวแค่นี้ออกมาคุ้ยถังขยะโดยไม่มีจิตสำนึกเลยสักนิด แต่ที่เขาแปลกใจกว่านั้นคือเขาจำได้ดีว่าผู้หญิงคนนี้คือนวลปรางค์! ‘อุ๊ย คุณภาค’ นวลปรางค์เล่นหูเล่นหา เสียงอ่อนเสียงหวาน ‘มาคุยกับนุ่มอยู่นี่ได้ไงคะ ว่าไงลูก หนูไปกวนอะไรคุณเขาหรือเปล่า’ นวลปรางค์ก้มลงถามลูกสาว และนฤดีสั่นหน้าปฏิเสธ ‘เปล่าค่ะ ลุงเขาทำกระเป๋าสตางค์หล่น หนูเลยเก็บไปคืน’ สีหน้าคนเป็นแม่บ่งบอกถึงความเสียดายเงินในกระเป๋าของคนอื่นอย่างปิดไม่มิด แต่ในฐานะแม่การมีลูกสาวเป็นเด็กดีน่ารักแถมหาเงินเข้าบ้านได้ตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยกก็เป็นความชื่นใจอย่างหนึ่ง สายตาหวังดีและภูมิใจในตัวลูกสาวไม่ได้หลุดรอดจากการสังเกตของกฤตภาค เขาสรุปได้ว่าแม่จะเป็นแม่ที่แย่มาก เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ แต่นวลปรางค์ก็เป็นแม่ที่รักลูกคนหนึ่งเหมือนแม่ทั่วๆ ไป หล่อนถือถุงใส่เนื้อหมู ไข่ และผัก คงเพิ่งไปจ่ายตลาดและเดินกลับบ้าน นฤดีเองก็คงเก็บขยะได้ไม่ไกลบ้านนักด้วยยังเด็ก ‘ผมว่าจะเลี้ยงขอบคุณน้องเนื้อนุ่มเสียหน่อย คุณนวลสะดวกไหมครับ เดี๋ยวผมพาไปส่งบ้านพาน้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้’ ‘สะดวกสิคะ สะดวก’ นวลปรางค์ตอบโดยไม่หยุดคิด ก่อนก้มลงบอกลูกสาว น้ำเสียงรักใคร่อย่างไม่แสแสร้งแกล้งทำ ‘เนื้อนุ่มคะ คุณลุงจะพาเราไปดินเนอร์ เหมือนที่คุณพ่อเคยพาไปนะคะ หนูต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวสวยๆ วันนี้ไม่เก็บขวดวันนึงนะคะลูก’ นฤดีขมวดคิ้วน้อยๆ ‘หนูอยากกินเป็ดย่างเอ็มเคนี่คะ’ ‘เอ็มเคก็ได้ ลุงจะพาไปกิน ดีไหมคะเนื้อนุ่ม’ กฤตภาคพูดแทรก เขายิ้มเมื่อเห็นนฤดียิ้มกว้างร้องเย้ ในขณะที่นวลปรางค์หน้าเสีย หล่อนแอบคิดว่าอดกินอาหารมิชลินสตาร์กันพอดี เนื้อนุ่มนะเนื้อนุ่ม ไม่น่าขัดความสุขแม่เลย! ชีวิตหลังเสียสามีไปของนวลปรางค์ไม่ได้ลำบากมากอย่างที่เขาเคยคิด หล่อนยังคงอาศัยอยู่ในบ้านขนาดกลางอยู่กันสองคนสบายกับลูกสาว อาหารการกินก็ไม่ได้อดอยากอะไร เพียงแค่ไม่ได้ไปนั่งกินที่ร้าน อีกแล้วเพราะนวลปรางค์พอจะมีฝีมือทำกับข้าวได้เอง และหล่อนบอกกับเขาว่าเงินที่มีอยู่มันหมดไปทุกวัน หล่อนกลัวว่ากว่านฤดีจะเรียนจบหาเงินมาเลี้ยงหล่อนได้ มันจะหมดไปเสียก่อน บ้านและเงินสดพวกนั้นสามีเก่าจัดเตรียมไว้ให้และจดทะเบียนหย่ากับหล่อนเพื่อไม่ให้โดนหางเลขไปด้วยเมื่อมีปัญหา เห็นว่าได้มาหลายล้าน กฤตภาคฟังแล้วก็ได้แต่เห็นใจนฤดีที่มีแม่ขี้เกียจ ไม่ยอมทำมาหากินแบบนี้ ตัวเองอยู่สบาย สวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ แต่แค่ชุดนักเรียนใหม่ ถุงเท้าใหม่ ยังไม่ยอมซื้อให้ลูกเลย! ‘คุณลุงมาแล้ววว’ นฤดีวิ่งออกมาต้อนรับเขาเสมอที่กฤตภาคซื้อขนมเสื้อผ้ามาฝากถึงบ้าน ในวงสังคมต่างก็พากันนินทาหนาหูว่าเขากำลังจีบแม่ม่ายทรงเครื่องแบบนวลปรางค์ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ เขามาที่นี่เพราะชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของนฤดี และไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงเด็กคนนี้อยู่ทุกวัน เขาคงถูกชะตากับเธอล่ะมั้ง ‘อุ๊ย คุณภาค’ นวลปรางค์แต่งตัวสวยเสมอเมื่อเขาโทรมาบอกว่าจะแวะเข้ามาหา วันนี้หล่อนสวมเสื้อคอลึกอวดเนินอกอวบอิ่มยวนตา กระโปรงผ่าสูงเสียจนแทบจะเห็นไปถึงไส้อ่อน กฤตภาคมองแล้วยิ้มตามมารยาท ก่อนก้มลงส่งถุงใส่ของให้เด็กหญิงตรงหน้า ‘วันนี้ลุงซื้อหนังสือภาพภาษาอังกฤษมาให้ เอาไว้หลังอาหารเย็นเนื้อนุ่มอยากลองอ่านกับลุงไหมครับ’ นฤดียิ้มเขิน ระยะหลังเมื่อมาหากันบ่อยๆ กฤตภาคก็พบว่าเด็กหญิงขี้อายกว่าที่เคยเจอกันครั้งแรก ส่วนหนึ่งอาจเพราะเธอคิดว่าเขาจะมาเป็นพ่อเลี้ยงอย่างที่ใครๆ พูดกัน อีกทั้งนวลปรางค์ก็แซะอยู่บ่อยๆ ว่าอยากให้ลูกสาวเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ แทน ‘ลุง’ ‘อ่านค่ะคุณลุง’ กฤตภาคใช้เวลาอยู่กับนฤดีจนค่ำ โดยที่เด็กหญิงนั่งอยู่บนตัก อ่านนิทานภาพกับเขาอย่างสนิทสนม ชายหนุ่มชอบเสียงหัวเราะเล็กๆ ของเธอ กลิ่นหอมของแป้งเด็ก และความสดใสที่เหมือนช่วยเติมชีวิตเขาให้เต็ม... มือหนาโอบกอดเด็กหญิงอย่างรักใคร่ จนเธอหลับไปในอ้อมแขนของเขา ‘ห้องนุ่มอยู่ตรงไหน ผมจะอุ้มไปส่งให้’ เขาหันไปถามนวลปรางค์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มองหญิงสาวก้มๆ เงยๆ จนเห็นจุกนมสีชมพูครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความรู้สึกเฉยเมยจนคิดว่าตัวเองตายด้านไปเสียแล้ว เมื่อนวลปรางค์เดินนำขึ้นไปชั้นสอง เขาก็อุ้มนฤดีตามขึ้นไป ห้องของนฤดีทาด้วยสีชมพู มีแค่เตียงนอนกับตู้เสื้อผ้า ว่างโล่งไม่มีตุ๊กตาเลยสักตัว ชายหนุ่มวางตัวเด็กหญิงลงบนเตียง แอบแตะแก้มนิ่มๆ อยากก้มลงไปหอมสักฟอด แต่... จะบ้าหรือไง เธอเป็นลูกสาวของคนอื่น สงสัยเขาคงอยากแต่งงานมีครอบครัวแล้วล่ะมั้ง ถึงได้รักได้หลงเด็กหญิงที่เพิ่งได้เจอกันไม่กี่วันขนาดนี้ ‘นุ่มชอบสีชมพู’ นวลปรางค์แตะบ่าเขา ก้มลงมากระซิบ ‘แต่ฉันชอบสีขาวมากกว่า ลองไปดูห้องของฉันไหมคะ’ กฤตภาคจะปฏิเสธ แต่ใจก็อยากรู้ว่าห้องของนวลปรางค์เป็นอย่างไร แล้วสิ่งที่เขาสันนิษฐานในใจก็ชัดเจนเมื่อได้เห็น ภายในห้องนอนของนวลปรางค์มีทุกอย่างที่พึงมี ดูเหมือนจะมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ นอกจากโทรทัศน์เครื่องใหญ่และเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงล้นห้องแล้ว ยังมีแม้กระทั่งตู้เย็น! ‘ถ้าโต๊ะเขียนหนังสือไม่ได้ใช้ น่าจะเอาไปให้น้องนุ่มนะ’ เขาถือวิสาสะวิจารณ์อย่างไม่พอใจ ไม่รู้นวลปรางค์จะเอาโต๊ะเขียนหนังสือวางไว้ในห้องนอนทำไม ถ้าแค่เอาไว้วางเครื่องสำอางประดามี โต๊ะเครื่องแป้งก็วางอัดๆ กันลงไปได้นี่ เห็นมันโล่งอยู่ทนโท่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม