“พ่อจะสอนนะคนดี”
นฤดีพริ้มตาหลับ ยินยอมให้เขาจับสะโพกยกขึ้นวางลงอย่างเชื่องช้าอ่อนโยน หล่อนขยับตามได้ในที่สุด รู้สึกเบาหวิวราวกับเดินลงจากรถไฟเหาะตีลังกา ร่วงลงมายังปุยเมฆอ่อนนุ่ม
“อือ ดี นุ่ม ดี...”
กฤตภาคปล่อยให้ลูกเลี้ยงสาวเลื่อนไล้ร่างกายอ่อนนุ่มกับความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อหนุ่ม หลังจากพายุรักอันเกรี้ยวกราด ได้สอดเสียบเชื่องช้าเสียวซ่านบ้างก็ดีไม่น้อย
ทว่า...
ชั่วขณะหนึ่ง นฤดีซบหน้าลงกับบ่ากว้าง สองแขนกอดเอวเขาไว้ เธอหยุดเคลื่อนไหว พริ้มตาหลับไปทั้งๆ ที่ยังร่างกายอ่อนนุ่มยังคงกลืนกินสากใหญ่ยักษ์ของเขา!
“นุ่ม...” กฤตภาคเขย่าแขน แต่หล่อนกลับไม่รู้สติ หญิงสาวครางอือในคอ สีหน้าอิ่มเอมสุขสม ปล่อยให้ชายหนุ่มเผชิญความทรมานอยู่ลำพัง...
กฤตภาคถอนหายใจเฮือก เอนหลังพิงพนักโซฟา เงยหน้ามองเพดานโดยที่ลูกเลี้ยงสาวยังซบร่างนุ่มๆ อุ่นๆ อยู่กับตัวเขา
ปัดโธ่เอ๊ย...
คบเด็กสร้างบ้านแท้ๆ เลย ไอ้ภาค!
นฤดีสะดุ้งเฮือก!
ร่างเล็กบอบบางผวาตื่นกลางดึกด้วยอาการขวัญเสีย เกือบจะโล่งใจอยู่แล้วว่าความวาบหวามรัญจวนที่บังเกิดนั้นคือฝันไป เป็นความฝันจากจิตใต้สำนึกเสียด้วย... หล่อนติดใจเรือนร่างกำยำ รสสัมผัสเร่าร้อนของกฤตภาค จนถึงขั้นอยากให้เขาทำลายพรหมจรรย์ของหล่อนทิ้งให้สิ้นซาก!
ทว่าในความเป็นจริง อะไรถูกอะไรผิด นฤดียังกำแน่นไว้ในความหักห้ามใจ หล่อนคิดว่าไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ฝันไป แต่ชุดนอนลูกไม้สไตล์เด็กๆ ที่สวมอยู่ก็ทำให้หญิงสาวงุนงง หล่อนไม่เคยใส่เสื้อผ้านอนนี่นา
“โอ๊ย...”
แค่ขยับ กลางร่างก็แสบปลาบขึ้นมาทันควัน เมื่อแหวกอกเสื้อดู รอยจูบที่กระจายไปทั่วทรวงอกก็ราวกับเป็นพยานชั้นดีว่าเหตุการณ์ที่หล่อนจำได้ราวกับเกิดขึ้นจริงนี้... มันก็คือความจริง!
เมื่อหลุดออกมาจากพันธนาการตัณหา ที่เคยใจกล้าหยาบโลนก็กลายเป็นอับอายเหลือคณา พระเจ้าช่วย... นี่หล่อนทำอะไรลงไป ถึงแม้จะเป็นความผิดเขาที่เข้ามาลักหลับหล่อนก่อน แต่นฤดีเองไม่ใช่เหรอที่แกล้งหลับตา อ้าขาให้เขา สุขสมอิ่มเอสกับรสสวาทจนผล็อยหลับไปทั้งๆ ที่ยังกลืนกินร่างกายใหญ่โตของเขาเอาไว้
ใบหน้างดงามน่ารักซบลงกับฝ่ามือซับน้ำตา ไหล่บางสั่นตามแรงสะอื้น อดคิดไม่ได้ว่าผิดบาปเหลือเกินที่ต้องมาใช้ผัวร่วมกับแม่ของตัวเอง! แม้ว่านวลปรางค์จะเสียชีวิตไปแล้วถึงสิบเอ็ดปีก็ตาม
อีกทั้งกฤตภาคยังเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่ของเธอด้วย!
โอ... พระเจ้าช่วย
เธอทำบาปมหันต์ลงไปได้อย่างไร...
เธอไม่น่าเลย...
ไม่น่าทำลงไปเลย!
ภาพความเศร้าเสียใจของสาวน้อย ไม่ได้พ้นไปจากสายตาของ กฤตภาค เขาแง้มประตูเชื่อมระหว่างกันแอบมองเธออยู่ด้วยความปวดปลาบข้างในใจ ไม่คิดว่าเธอจะเสียใจขนาดนี้ ทั้งที่ตอนที่เขากอดเธออย่างเร่าร้อน นฤดีก็ดูชอบเซ็กส์ และกระตือรือร้นจะเรียนรู้โดยที่เขาไม่ต้องบีบบังคับเสียหน่อย
ชายหนุ่มถอนหายใจแรง ดึงประตูปิดลงอย่างเงียบเชียบ ร่างสูงในชุดเสื้อคลุมสีเทาเปิดประตูระเบียงออกมายืนสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าครุ่นคิดกังวล ควันสีขาวลอยเอื่อยท่ามกลางอากาศหนาว กฤตภาคมองตามเส้นสายของควันนั้นพลางคิดถึงอดีตที่ผ่านมา
เขาพบกับนวลปรางค์ มารดาของนฤดีครั้งแรกที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง หล่อนติดตามเศรษฐีเฒ่าที่มีข่าวว่ากำลังจะล้มละลายมาร่วมงานด้วยในฐานะภรรยา
นวลปรางค์เป็นคนสวย แต่งตัวเก่ง แต่ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบ หล่อนเป็นคนแพรวพราวตั้งแต่ภายนอกถึงภายใน เล่นหูเล่นตา ส่งสายตายั่วยวนเขาทั้งที่กำลังควงแขนผัวตัวเองอยู่
ผู้หญิงหน้าไม่อาย!
กฤตภาคไม่ได้สนใจไยดีอะไรหล่อนในวันนั้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ข่าวการล้มละลายของครอบครัวนั้น ไม่ได้ล้มบนฟูกอย่างบริษัทอื่นเสียด้วย ทั้งบ้าน รถ เครื่องเพชร ที่ดิน ต่างถูกขายทอดตลาดไปหมด เศรษฐีเฒ่าที่ร่างกายไม่สู้ดีมาแต่ไหนแต่ไรก็ยิ่งป่วยหนักและตายจากไป ทิ้งนวลปรางค์กับลูกสาวไว้เผชิญโลกอันโหดร้ายเพียงลำพัง
นั่นคือสิ่งที่เขาได้ยินมาว่าเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมวงการธุรกิจ กฤตภาคไม่ได้สนใจความเป็นอยู่ของสองแม่ลูกคู่นั้น ก็ธุระไม่ใช่ ชายหนุ่มยังคงทำงานหนักเพื่อสร้างบริษัทของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น เขายุ่งๆ อยู่กับงาน จนวันหนึ่ง ชายหนุ่มเดินอยู่ริมบาทวิถีกำลังจะข้ามไปยังลานจอดรถ เด็กผู้หญิงมอมแมมหน้าตาจิ้มลิ้มก็วิ่งมาจับชายเสื้อเขา
เด็กคนนั้นคือ... นฤดี
‘คุณลุงทำกระเป๋าสตางค์ตกค่ะ’
เด็กหญิงตัวน้อยส่งกระเป๋าสตางค์สีดำมาให้ และกฤตภาคจำได้ว่าเป็นกระเป๋าเขาจริงๆ ชายหนุ่มแบมือรับกระเป๋ามาเปิดออกดู ทั้งธนบัตรและบัตรต่างๆ ยังอยู่ครบ เขาดึงธนบัตรสีเทาออกมาหลายใบ โน้มลงไปยื่นให้เด็กหญิงอย่างเอ็นดู
‘ขอบคุณครับ ลุงให้รางวัลนะ’
นฤดีมองธนบัตรเหล่านั้นอย่างลังเล ก่อนสั่นศีรษะปฏิเสธด้วยดวงตาหนักแน่นมั่นคง
‘เนื้อนุ่มรับไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าจะได้เงินต้องทำงานแลกมา คุณครูสอน เนื้อนุ่มยังไม่ได้ทำงานอะไรให้คุณลุงเลยค่ะ’
กฤตภาคเลิกคิ้วข้างหนึ่ง มองเด็กหญิงวัยราวๆ เจ็ดขวบอย่างนึกทึ่ง เขาหันมองไปโดยรอบ ไม่มีสักคนจะแสดงตนว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กคนนี้เลย ชายหนุ่มจึงเก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วก้มลงถาม
‘แล้วเนื้อนุ่มมาทำอะไรตรงนี้ครับ เลิกเรียนแล้วทำไมไม่กลับบ้าน นี่เย็นแล้วนะ เดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง’
หล่อนสวมชุดนักเรียนโรงเรียนรัฐบาล ถุงเท้าเก่าขาด รองเท้าก็มีรอยขาดอยู่เหมือนกัน แต่นฤดีก็สวมมันอย่างเคยชิน
‘เนื้อนุ่มมาเก็บขวดไปขายค่ะ แม่บอกว่าถ้าเนื้อนุ่มหาเงินให้แม่ได้หนึ่งพันบาท แม่จะซื้อเป็ดย่างเอ็มเคหนึ่งจานให้เนื้อนุ่มกินได้ค่ะ แต่วันนี้ยังหาไม่ได้สักขวดเลยค่ะ สงสัยลุงๆ ป้าๆ มาตัดหน้าเก็บกันไปหมดแล้ว’
ชายหนุ่มขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของเด็กดีคนนี้ต้องให้นฤดีออกมาเก็บขวดขายหาเงินเองด้วย กว่าจะได้หนึ่งพันบาทคงใช้เวลานานเป็นเดือนเลยล่ะมั้ง แล้วเป็ดย่างเอ็มเคมันจานละไม่กี่ร้อยเอง แม่ของเด็กคนนี้นี่ยังไงกัน!