ตอนที่ 7

1157 คำ
เรื่อง “น้องผัว”    “พี่วินยังไม่นอนอีกหรือคะ”             เมื่อเดินออกมาจากห้องนอนแล้วพบว่าไฟในห้องทำงานยังเปิดอยู่ ‘นีรชา’ ชะโงกหน้าเข้ามาถาม ‘นาวิน’ ผู้เป็นสามีของเธอที่ยังคงนั่งทำงาน ทั้งที่ตอนนั้นควรเป็นเวลาพักผ่อนหลับนอน “อีกสักพัก… งานยังติดพันอยู่” คนที่คร่ำเคร่งอยู่กับเอกสารตรงหน้าตอบโดยไม่ได้หันมามองหน้าภรรยา “ดึกมากแล้วนะคะ” นีราชก้าวเข้ามาในห้อง น้ำเสียงบอกความห่วงใย มือเรียวลูบไล้ไปตามหลังไหล่ของเขาเบาๆ เมื่อเห็นว่าสามีก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย จนลืมมองนาฬิกาว่าเวลาในตอนนั้นเลยเที่ยงคืนมาแล้ว เหมือนนาวินจะลืมไปว่าพรุ่งนี้ก็ยังจะต้องไปทำงานแต่เช้า “เธอง่วงก็นอนไปก่อนเถอะ… พี่ขอทำงานอีกสักพัก” ท่าทางของนาวินดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด พรุ่งนี้เขามีประชุมสำคัญ ทำให้ต้องเตรียมข้อมูลสำหรับแสดงวิสัยทัศน์แข่งกับคนอื่นๆ เพื่อให้ผู้บริหารกว่าสิบคนซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดสรรได้มองเห็นว่า ‘เขาคือคนที่เหมาะสมที่สุด’ สมควรจะได้รับการโปรโมทเลื่อนขั้น ในฐานะพนักงานที่ทำยอดขายได้โดดเด่นทะลุเป้าจนเป็นที่จับตาติดต่อกันมาหลายปี นาวินมองอย่างเข้าข้างตัวเองว่ามันเป็นเรื่องสมควรที่สุดถ้าพนักงานที่ทุ่มเทให้กับองค์กรอย่างเขาจะได้ไปรับตำแหน่ง ‘ผู้จัดการส่วนภูมิภาค’ ที่ประเทศเวียดนาม แต่สาเหตุที่นาวินเกิดอาการเคร่งเครียด ไม่มั่นใจนัก ก็เพราะรู้ดีว่ายังมีคู่แข่งอีกหลายรายที่มีผลงานดีเด่นไม่แพ้ตน และบาง คนเสนอตัวเข้ามารับตำแหน่งนี้ “นอนเถอะนะคะ… นีจะบีบนวดให้” น้ำเสียงประเหลาะประโลมอย่างมีจริต แท้จริงเป็นเพราะความต้องการทางเพศที่รบกวนอยู่ในอารมณ์ของนีรชา ถึงกับทำให้เธอนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายอยู่นานเป็นครู่จนต้องลุกขึ้นมาหาสามีซึ่งก็ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังจนลืมทำการบ้าน ปล่อยให้ภรรยาซึ่งยังสาวยังสวยและเต็มไปด้วยความต้องการ นอนเหว่ว้าทรมานมานานหลายคืน เมื่อเห็นว่านาวินยอมวางมือจากงาน นีรชาก็เป็นฝ่ายรั้งข้อมือของเขาขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะประคองกันหายลับเข้าไปในห้องนอนซึ่งอยู่ติดกับห้องทำงานของเขา             “นานแล้วนะคะพี่วิน”             เสียงของนีรชากระเส่าสั่นไปด้วยความปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ในดวงตาเรียกร้องต้องการ             “นานอะไร?”             เขาถามกลับมาเหมือนไม่รู้ใจเธอ             “ก็นานมากแล้วที่เราไม่มีอะไรกันเลย”             นีรชาบอกตามตรงอย่างคนที่ซื่อสัตย์ต่อความต้องการของตัวเอง ด้วยเห็นว่ามันไม่ใช่สิ่งน่าละอายตรงไหน             “คุณอยากหรือ?”             นาวินขมวดคิ้ว ถามออกมาตรงๆ ทำราวกับว่านีรชามีความต้องการทางเทศที่ผิดปกติไปจากคนอื่นๆ ทั้งที่ความจริงเป็นเพราะตัวเขาเองละเลยที่จะเชยชมเธอ             นีรชาเผลอทำหน้าง้ำ นึกโกรธสามีอยู่ในใจว่าบ้าหรือเปล่า? ถามออกมาได้ว่า ‘เธออยากนักหรือ?’             ก็แน่ละสิ เธอยังสาว ยังสวย เต็มไปด้วยเลือดเนื้อและความต้องการ             อันที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจจะเรียกร้อง แต่มันเป็นสิทธิ์ซึ่งภรรยาสมควรจะได้รับจากสามีมิใช่หรือ?             นาวินต่างหากที่ปล่อยปละละเลย ไม่ยอมทำหน้าที่ของสามีให้สมบูรณ์             ถ้าหากมีผัวแล้วเธอยังต้องพึ่งพาลำนิ้วน้อยๆ ของตัวเองในทุกครั้งที่มีความต้องการ นีรชาก็ไม่รู้ว่าจะมีผัวไปทำไม?             และทันทีที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ภายในห้องนอนกว้าง นีรชาค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดนอนพลิ้วบางออกจากลาดไหล่สล้าง กระทั่งเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องอยู่ภายใต้แสงไฟที่สาดสงมาจากเพดานห้อง             เธอเดินตรงเข้าไปกอดร่างสูงโปร่งของสามี แสดงกิริยาท่าทางโหยหาสัมผัสของบุรุษเพศอย่างเปิดเผย “เดี๋ยวสิจ๊ะ” นาวินร้องห้าม เมื่อมือเรียวของนีรชาซุกซนด้วยการลูบล้วงแก่นกายของเขาซึ่งยังหลับใหลไม่พร้อมรบอยู่ในกางเกงขาก๊วย สภาพของมันอ่อนปวกเปียก นุ่มนิ่มเหมือนหนอนน้อยที่หลับอยู่ในพงหญ้าสีดำ “ทำไมล่ะคะ” ใบหน้างามแหงนขึ้นมองตาสามี ตอนนั้นนาวินยังตั้งตัวไม่ทัน นีรชาดูร้อนรนผิดสังเกต สีหน้าและแววตาของเธอแสดงความต้องการออกมาอย่างเปิดเผยจนเขาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเงียบๆ ค่อนไปในทางเรียบร้อยด้วยซ้ำ บทจะเร่าร้อนก็แสดงออกเป็นไฟอย่างเปิดเผยจนน่าตกใจ    “ใจเย็นๆ ก็ได้ ผมยังเครียดอยู่เลย” คนเป็นสามีรีบบอกปัญหาของตัวเอง ด้วยอยู่กินกันมานานหลายปีจนนาวินรู้ว่านีรชามีความต้องการทางเพศค่อนข้างสูง แต่ที่เธอพยายามเก็บกดเอาไว้นั้นเป็นเพราะว่าเขาเองที่สนองให้ไม่ได้ พอคิดทบทวนถึงคืนวันที่ผ่านๆ มา นาวินจึงได้รู้ว่าเป็นเวลานานมากแล้วจริงๆ ที่เขาไม่ได้ร่วมรักกับนีรชาอย่างที่สามีภรรยาพึงจะกระทำต่อกัน   นาวินยอมรับว่าตัวเองบกพร่อง ด้วยภายหลังจากป่วยเป็นโรคเบาหวาน ก็ส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศของเขาหย่อนยาน ถดถอยลงไปอย่างที่เห็น หลายๆ ครั้งที่เขาสังเกตเห็นว่านีรชาดูเคร่งเครียด บางวันเธอก็ไม่พูดไม่จา ถามคำตอบคำ นิ่งเงียบทำงานบ้านไปพลางๆ แต่ในบางครั้งเธอก็พาลอารมณ์เสียใส่เขากับลูกๆ ซึ่งนาวินพอจะรู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใด?             “ก็เลิกเครียดสิคะพี่วิน เดี๋ยวนีจะทำให้พี่มีความสุข บอกตรงๆ ว่านีใจเย็นไม่ไหวแล้วนะคะ ลืมไปแล้วหรือว่าระยะหลังๆ มานี้… เราแทบไม่มีอะไรกันเลย” นีรชาตัดพ้อเสียงเศร้าให้สามีได้ฉุกคิด ซึ่งเธอพูดถูก นาวินจึงไม่เถียงสักคำ ยอมให้นีรชารั้งร่างสูงโปร่งลงนั่งบนเตียง “อยู่เฉยๆ ค่ะ” บอกแล้วมือซุกซนข้างหนึ่งของหญิงสาวก็เอื้อมออกไปกระตุกกางเกงขาก๊วยที่ขมวดปมเอาไว้หลวมๆ จนหลุดออกมากองที่ข้อเท้า ทำให้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าในทันที เพราะตอนนั้นนาวินนุ่งกางเกงขาก๊วยเพียงตัวเดียว เวลาอยู่กับบ้านเขามักจะถอดเสื้อเปลือยร่างกายท่อนบนด้วยความเคยชิน  “เดี๋ยวนีจะทำให้พี่วินหายเครียด” มือน้อยค่อยๆ ลูบต่ำลงมาถึงต้นขา ล้วงเข้าไปสัมผัสความเป็นชายของเขาซึ่งยังคงอยู่ในสภาพหลับใหลไม่พร้อมรบ “มันยังไม่แข็ง” เจ้าของร่างกายที่โดนมือของภรรยากำลังปลุกเร้ารีบบอกเบาๆ ซึ่งอันที่จริงเธอก็รู้ได้จากการสัมผัส 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม