บทที่3
เจ็บช้ำจากน้องนนท์
หลังจากได้ระบายความอัดอั้นให้อาจารย์เวย์ฟังแล้ว ข้าวฟ่างก็เหมือนจะรู้สึกดีขึ้นเธอจึงขอตัวกลับบ้านก่อน ขืนอยู่นานเกรงว่าจะไม่เหมาะสมเพราะตอนนี้คนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว
ข้าวฟ่าง เป็นลูกสาวเถ้าแก่ร้านขายยาจีนแต่ปกติเธอมักจะอาศัยอยู่หอพักมากกว่า วันนี้เธอถูกเตี่ยโทรตามให้กลับมาทานข้าวที่บ้านเพราะที่บ้านมีแขกคนสำคัญซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน
“แม่สวัสดีค่ะ เตี่ยล่ะ”
“โน้นคุยกับเพื่อนอยู่หลังร้านโน้น”
ข้าวฟ่างเดินเข้ามาหลังร้านก็เห็นชายวัยเดียวกับเตี่ยกำลังนั่งดื่มชาอยู่เธอจึงยกมือไหว้ก่อนจะถูกเรียกเข้าไปหา
“นี่อาซ้งเป็นเพื่อนกับเตี่ยตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ลูกชายของอาซ้งเรียนจบหมอมาก็เลยพามาทำความรู้จักกับเรา”
“ค่ะ..” บ้าจริง นี่มันจับคลุมถุงชนชัดๆใครจะไปอยากคบหาแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่รู้จักมักคุ้นกันล่ะ คนแก่หัวโบราณ
“สวัสดีครับทุกคน”
ควับ!!
โห...นี่มันเทพบุตรชัดๆคนบ้าอะไรหล่อยันเส้นผม ฉันมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาที่ทำให้ลืมความทุกข์ก่อนหน้านี้ไปเลย หล่อป่านหูอีเทียน หล่อแบบนี้ไมม่ไหวแล้วค่ะน้ำจะเดิน
“ข้าวฟ่างพาพี่ไปนั่งในบ้านสิลูก”
“ค่ะ...เชิญค่ะ...” แค่เดินผ่านก็ละลายแล้วแม่ อยากจะบอกว่าเธอทำให้ใจของผมละลายยยย~~
“น้องข้าวฟ่างใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ แล้วพี่ชื่อ..”
“พี่ชื่อแทนคุณครับ เรียกพี่แทนก็ได้”
“ค่ะพี่แทน”
ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ในบ้านจนอาหารจากร้านดังมาส่งข้าวฟ่างจึงรีบเดินออกไปรับและมาจัดใส่จานรอทุกคน การพูดคุยในวันนี้ออกแนวเชิญชวนให้ทั้งสองทำความรู้จักกันมากขึ้นแต่ด้วยความที่ข้าวฟ่างเองก็เพิ่งอกหักมาจึงถือโอกาสหาคนคุยเพื่อให้ลืมเรื่องราวทุกข์ที่อยู่ในใจ
วันนี้เตี่ยเลยให้แทนคุณหรือหมอแทนมาส่งเธอที่หอพักแต่ว่าข้าวฟ่างให้หมอแทนส่งเธอที่ปากซอยก็พอแต่เหมือนว่าหมอแทนจะเป็นห่วงเธอเลยเดินตามมาส่ง ตอนนี้ในซอยช่วงเย็นจะมีตลาดนัดของนักศึกษาที่มาขายของคนนอกสามารถเข้ามาได้
“พี่ไม่เคยรู้เลยนะว่ามีตลาดนัดแบบนี้ด้วย”
“นักศึกษาที่พักอยู่ในซอยมีหลายสถาบันค่ะ ส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างจังหวัด ออกมาขายของตอนเย็นเพื่อหารายได้เสริม”
“ดีอ่ะ แบบนี้พี่เห็นด้วย”
“ส่งหนูตรงนี้ก็ได้ค่ะพี่แทนเดี๋ยวหนูเดินกลับเองขอซื้อยำไปกินที่ห้องก่อน”
“ก็ได้ครับ ไว้เจอกันใหม่นะ”
“บ๊ายบายคะ”
หลังจากที่แทนคุณเดินออกไปน้องนนท์ก็เดินเข้ามากระชากแขนของข้าวฟ่างจนนักศึกษาแถวนั้นพากันตกใจ
“มีแฟนใหม่แล้วเหรอไวดีนี่!”
“เป็นบ้าอะไรนนท์!”
ข้าวฟ่างตะคอกใส่นนท์จนนักศึกษาและผู้คนแถวนั้นหันมามอง ด้านนนท์เองก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของข้าวฟ่างจนข้าวฟ่างต้องสะบัดแขนออก
“บอกมาว่ามันเป็นใคร!”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายฮะ”
“มีเรื่องอะไรกัน!”
ทั้งสองหันไปมองก็พบว่าเป็นอาจารย์เวย์ที่เดินออกมาจากร้านขนม ข้าวฟ่างจึงรีบถอยไปหลบด้านหลังอาจารย์เวย์ทันที
“อาจารย์สวัสดีครับ ผมทะเลาะกับแฟนนิดหน่อยเดี๋ยวจะขึ้นไปเคลียร์บนห้องแล้ว”
“ใครแฟนนาย พี่จำได้ว่าเราเลิกกันไปแล้วนะตั้งแต่ที่นายพาเด็กปีหนึ่งมามีอะไรกันบนห้อง!”
“ถ้างั้นก็ควรแยกย้ายนะชานนท์ ข้าวฟ่างพูดมาแบบนี้แล้วก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกันอีก”
“ครับ...”
สายตาของอาจารย์เวย์ทำให้ชานนท์ไม่กล้าพูดอะไรต่อ หลังจากที่ชานนท์เดินออกไปแล้วอาจารย์เวย์ก็รีบหันมาดูข้าวฟ่างที่ยืนน้ำตาคลออยู่ด้านหลัง
“โอเคไหมเนี่ย”
“อาจารย์....ฮึก!”
“ไปขึ้นรถเดี๋ยวผมพาออกไปคนมองเยอะแล้ว” ผมมองไปรอบๆตอนนี้เริ่มมีคนหันมาสนใจข้าวฟ่างที่ยืนร้องไห้มากขึ้น เธอจึงรีบวิ่งมาขึ้นรถของผมที่จอดอยู่
ร้านสักTattoo
เวย์พาข้าวฟ่างเข้ามาในร้านซึ่งสวนกับนักศึกษาที่เดินออกไป ข้าวฟ่างมองดูผลงานสักก็เกิดสนใจขึ้นมาแต่พอเห็นหน้าช่างสักก็รีบถอยทันที
“นี่เพื่อนผมเองชื่อเต้ เป็นช่างสักประจำร้าน” ผมแนะนำเพื่อนให้เธอรู้จักวันนี้ผมมีนัดดื่มกันนิดหน่อย พามาด้วยเธออาจจะสบายใจขึ้น
“สวัสดีค่ะหนูชื่อข้าวฟ่างนะคะ”
“ครับ สนใจสักเหรอครับ”
“เปล่าพามาหลบแฟนเก่าเฉยๆ” ผมตอบกลับไปจากนั้นก็เปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ให้เธอกับผมคนละกระป๋อง
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วทำไมไม่ไปอยู่กับแฟนใหม่จะได้ไม่มีปัญหา” ผมถามเธอเพราะตอนผมพานักศึกษาไปเลี้ยงขนมเห็นมีผู้ชายมาส่งเธอ ดูแววตาของผู้ชายคนนั้นเป็นประกายผิดปกติ
“ไม่ใช่แฟนค่ะ พี่แทนคือคนที่ผู้ใหญ่อยากให้ทำความรู้จักกันเฉยๆ”
“เหรอ” แบบนี้ก็แสดงว่าโสดนะสิ แต่โสดแล้วเกี่ยวอะไรกับผม แล้วผมดีใจทำไมอ่ะ
"ค่ะหนูยังเข็ดกับความรักอยู่ ขอทำใจก่อนตอนนี้มันยังเจ็บจี๊ดในหัวใจอยู่เลย" มีแฟนไม่ง่ายแต่มีแฟนดีนี่ยากเหมือนกันแหะ พูดแล้วอยากจะร้องไห้
"เดี๋ยวผมพาไปนั่งข้างบนก่อน" ผมเดินนำมาชั้นบนจากนั้นก็หยิบน้ำให้เธอ "วันนี้ผมมีเลี้ยงฉลองกับเพื่อนบนดาดฟ้า สนใจไหม"
"ค่ะ ได้หมดหนูอยากเมาให้มันหลับๆไปเลย"