เช้าวันต่อมา
รามคิรินทร์ถูกพ่อบังคับให้มาที่บ้านของครอบครัวพร้อมพิชะยะ ตลอดทางสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มฉายแววความโกรธอย่างชัดเจน ลูคัสไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยสักนิด แต่ช่วยไม่ได้ในเมื่อรามก่อเรื่องก็ควรแก้ปัญหาที่ตัวเองสร้างขึ้น
"พี่อยากให้เด็กสองคนหมั้นกันไว้ก่อน" ลูคัสเปิดประเด็นขึ้นเมื่อตอนนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
"ชาไม่ได้รังเกียจนะพี่ลูคัส แต่ชาว่า..."
"อย่าห้ามเลยน้ำชา ลูกพี่ทำผิด พี่ก็อยากรับผิดชอบให้ถึงที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าขากับน้ำชาที่เป็นเพื่อนกัน"
"แต่ว่า..."
"รับความหวังดีของเราเถอะนะน้ำชา เราไม่สบายใจจริง ๆ เพราะเราเองก็เห็นน้ำรินเหมือนลูกคนหนึ่ง" เจ้าขาพูดด้วยความจริงใจและมองไปยังเด็กสาวที่ตอนนี้เอาแต่นั่งก้มหน้ามองมือตัวเองที่จิกกันอยู่
"เรื่องนี้คงต้องรอพี่พุฒอีกทีนะ" น้ำชากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยิ่งเห็นแววตาของหลานชายมองลูกสาวเธอแล้วเธอยิ่งไม่สบาย และเรื่องที่เกิดก็ทำให้พุฒธิพงศ์ผู้เป็นสามีไม่พอใจมาก ๆ เนื่องจากเขาเลี้ยงน้ำรินมาด้วยความทะนุถนอมไม่ต่างจากที่ดูแลเธอก่อนแต่งงานกันเลย
"ไอ้พุฒมีปัญหาเหรอ?"
"เออ กูมี" พ่อของน้ำรินที่เพิ่งเดินลงมาจากด้านบนเอ่ยขึ้น
"ไม่หมั้นก็ดีเหมือนกันครับ ผมก็ไม่ได้อยากหมั้น" รามคิรินทร์เอ่ยขึ้น ลูคัสปรายตามองลูกชายด้วยความไม่พอใจ
"มึงไปตกลงกับลูกให้ได้ก่อนลูคัส กูไม่ต้องการให้รามมารับผิดชอบอะไรอย่างฝืนใจ กูเป็นแค่พ่อก็จริงแต่สิ่งที่กูหวังจะเห็นมากที่สุดคือการที่ลูกกูมีความสุข"
"งั้นระหว่างนี้คิรินทร์ดูแลน้ำรินให้ดี ถือว่าเป็นช่วงศึกษากัน ทำให้มี้ได้มั้ยครับลูก" เจ้าขาหันไปพูดกับลูกชายของตน เธอเองก็ไม่อยากมัดมือชกทางเพื่อนของตน แต่ก็ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้จริง ๆ
"แล้วที่น้ำรินวางยาผม เคยมีคนคิดจะโทษเธอบ้างมั้ย หรือคิดแต่จะให้ผมรับผิดชอบอย่างเดียว"
"ระ..รินไม่ได้ทำ"
"เลิกโกหกสักที ต่อหน้าพ่อแม่ของเธอยังโกหกหน้าด้าน ๆ"
"ใช่ ต่อหน้าฉัน นายยังกล้าว่าลูกสาวฉันหน้าด้าน ๆ สันดานแบบนี้เหรอลูกชายนายน่ะลูคัส แล้วฉันจะกล้าให้มันดูแลน้ำรินได้ยังไง"
"เอาล่ะ ๆ ใจเย็น ๆ ก่อนไอ้พุฒ ส่วนคิรินทร์แกขอโทษน้องซะ"
"พ่อ!"
"พ่อจะไม่พูดซ้ำ" ลูคัสเอ่ยอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงที่เรียบนิ่งแบบนั้นช่างดูน่ากลัวเกินกว่ารามจะกล้าขัดใจ
"ขอโทษ"
"เฮอะ" พุฒธิพงศ์ส่งเสียงไม่พอใจ ก่อนจะเบือนหน้าหนี
"เอาตามที่เจ้าขาว่านะ ให้คิรินทร์ดูแลน้ำรินอย่างน้อยต่อให้ไม่ได้หมั้นกันแต่ถือว่าเป็นการรับผิดชอบสิ่งที่รามทำลงไป หนูน้ำรินโอเคมั้ยลูก" เธอคิดสักพักก่อนจะพยักหน้าตอบ
"กูไม่อนุญาต"
"ไอ้พุฒ มึงมีเหตุผลหน่อย"
"ให้เลิกแล้วต่อกันไปลูคัส กูกับมึงไม่บาดหมางกันแบบนี้ก็ดีแล้ว อย่าให้ลูกมึงทำความสัมพันธ์ของเราแย่ลงไปมากกว่านี้"
"ผมตกลง ผมจะดูแลน้ำริน" รามเห็นว่าแม่ของเขากำลังจะร้องไห้อยู่แล้วจึงจำต้องยอม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำตามที่ปากพูด
"คิรินทร์มันยอมแล้วไอ้พุฒ"
"พี่พุฒ..." น้ำชาพยายามจะช่วยพูดอีกแรงแต่พอสามีมองหน้านิ่ง ๆ เธอก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ
"กูขอโอกาสให้รามแค่ครั้งนี้ไอ้พุฒ ถ้าสุดท้ายแล้วลูกกูมันโง่ทำเรื่องไม่ดี กูจะไม่ขออะไรจากมึงอีกเลย และวันนั้นกูจะจัดการรามคิรินทร์เอง" ลูคัสเอ่ยคำสัตย์
"มึงเชื่อกูเถอะลูคัส ลูกมึงโง่แน่ ๆ"
"ให้มันเป็นเรื่องของเด็กนะคะพี่พุฒ เจ้าขาขออีกคนได้มั้ย"
"อืม แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่น้ำรินเอ่ยปากไม่ขออยู่ร่วมโลกกับลูกชายมึงแล้ว ก็ช่วยเคารพการตัดสินใจของลูกกูด้วย" ประโยคนี้พุฒพูดกับลูคัสแต่จ้องมองรามคิรินทร์นิ่ง ๆ
"ได้ กูรับปาก"
"ออกไปจากบ้านกูได้แล้ว เห็นหน้าลูกมึงแล้วกูอยากกระทืบให้จมตีน"
"ครับ งั้นผมลาเลย ไม่ได้อยากอยู่ขนาดนั้น" รามเดินออกไปทันทีที่เอ่ยจบ เขาไม่ใช่คนยอมใครเรื่องนี้ลูคัสรู้ดี ระหว่างนี้ก็หวังได้แต่ว่ารามคิรินทร์จะตามหาความจริงเรื่องที่เกิด แต่หากไม่ก็คงต้องให้ลูกชายเขาได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดไปด้วยตัวเอง