จากนั้นกำนันเรืองก็ชี้ชวนให้สะใภ้ดูดาว เล่าให้หญิงสาวฟังว่าคนในสมัยก่อนเชื่อว่าเบื้องบนเป็นสวรรค์ เบื้องล่างเป็นนรก โดยมีโลกมนุษย์ของเราคั่นอยู่ตรงกลาง เพราะการรับรู้ว่าโลกกลม และถูกครอบเอาไว้ด้วยผืนฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมาย และดวงดาวที่มีอยู่มากมายนั่นเองทำให้มนุษย์เริ่มจดจำและตั้งชื่อ แบ่งดวงดาวออกเป็นกลุ่ม “ดาวที่บ้านเรากับดาวที่เมืองฝรั่งชื่อมันเหมือนกันไหมจ๊ะพ่อเรือง” แรมจันทร์นึกสงสัย “ก็มีทั้งที่เหมือนและต่าง เพราะผู้คนจินตนาการไปตามความเห็นว่ามันมีรูปร่างคล้ายอะไร บ้างคล้ายคน บ้างก็คล้ายสัตว์ ดังนั้นชื่อของดาวซึ่งมาจากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มดาวนายพรานที่เราเห็น คนไทยเราเรียกว่าดาวไถเพราะคุ้นชินกับอาชีพทำไร่ทำนา จึงผูกโยงว่ากลุ่มดาวที่เห็นเป็นรูปคันไถ ขณะที่ชาวยุโรปเมื่อบรรพกาลที่อาศัยอยู่ตามเทือกเขา มีอาชีพล่าสัตว์ กลับตั้งชื่อกลุ่มดาวเดียวก