Chapter 8
“แกอยากได้เงินใช่ไหม”
“ใช่ ไม่งั้นเจ้าหนี้ตามฆ่าฉันแน่”
“ฉันจะช่วยแกแน่ แต่แกต้องช่วยฉันด้วย”
“ช่วยเรื่องอะไร”
“กำจัดนังมณีเมขลาซะ”
“ฆ่าคนอีกแล้วเหรอ”
“แกจะไม่ทำก็ได้นะ”
“ถ้าเธอไม่ให้เงินฉัน ฉันจะเอาเรื่องที่เธอทำทุกอย่างไปบอกคุณเวย์”
“ก็ไปสิ ได้จบเห่ด้วยกัน ไปเลยไหม นอกจากฉันจะโดนจัดการแล้ว แกก็ด้วย แกต้องการแบบนั้นใช่ไหม”
“นี่เธอขู่ฉันอย่างนั้นเหรอ”
“ใครขู่ใครก่อนกันแน่ ถ้าแกอยากได้เงินก็ช่วยฉันทำงาน ฉันสัญญาว่าจะให้เงินแกแน่ แกก็รู้นี่นาว่าฉันไม่ผิดสัญญาแน่นอน”
“จะให้ทำอะไรอีก” เพราะร้อนเงินกริชเลยต้องเอ่ยถามล้อมเดือน
“ทำเหมือนเดิม แกเป็นคนหน้าตาดี แกก็หลอกล่อมันให้รักเหมือนนังเวทิตา จัดการหลอกไปที่หน้าผา แล้วฆ่ามันซะ ให้มันไปอยู่กับน้องชายของมัน แต่ก่อนที่แกจะทำแบบนั้น ฉันจะค่อย ๆ กำจัดความน่าเชื่อถือของมันก่อน” ล้อมเดือนเห็นกำไลข้อเท้าราคาแพงลิ่วที่เวคินซื้อให้หลานชาย เธอจึงแอบย่องเข้าไปขโมย ในขณะที่คนอื่นเผลอ คนจ้องกับคนเผลอ อย่างไรคนจ้องก็ได้เปรียบ
ล้อมเดือนนำกำไลนั้นไปซุกซ่อนเอาไว้ในห้องพักส่วนตัวของมณีเมขลา ก่อนจะยิ้มร้ายออกมา
มณีเมขลาเดินเข้ามาในห้องเด็กกับเวคิน เพราะหน้าที่ของเธอคือต้องอยู่กับวาทิตตลอดเวลา เนื่องจากวาทิตติดเธอมาก อาจจะมีบางช่วงที่เวคินให้สาวใช้มาอยู่เป็นเพื่อน
“ฉันให้คนไปสืบเรื่องของเธอกับน้องชายของเธอแล้วนะ” เวคินพูดกับหญิงสาวที่เขาจับตัวมา
“ค่ะ” เธอรับคำ
“ไม่อยากรู้เหรอว่าฉันได้เรื่องอะไรมาบ้าง”
“ถ้าคุณอยากเล่า เดี๋ยวคุณก็เล่าเองแหละ”
“เธอนี่มัน” กวนตีนชะมัด เขาพูดต่อในใจ
“ว่าไงคะ”
“อยากโดนจับปล้ำอีกหรือไง” เขาแยกเขี้ยวใส่ พลางเอ่ยขู่
“ได้นะ ฉันพร้อม เดี๋ยวนอนแยกขาให้คุณเอาเลย แต่ขออย่างเดียว อย่าทำแรง อย่าทำให้เจ็บอีก เล้าโลมแล้วก็ทำให้มันนุ่มนวลแต่เสียวนะทำเป็นไหม” เธอเดินเข้าหาจ้องตาเขาไม่กะพริบ เป็นเวคินเองที่หลบตา
“ยายตัวแสบ” เขาไม่รู้จะด่าเธอว่ายังไงดี เธอมองหน้าเขาก่อนจะหลุดขำออกมา
“ขำอะไร”
“คุณเป็นเจ้าพ่อมีอิทธิพลขนาดนี้ จะทำให้ผู้หญิงยอมขึ้นเตียงด้วยไม่ใช่เรื่องยาก ฉันคิดว่าถ้าคุณบังคับขืนใจฉันมันไร้ศักดิ์ศรี ไม่ควรทำเด็ดขาด”
“เธอนี่มัน” เขากระชากเธอมาหา จนร่างน้อยปะทะกับอกกว้าง มองสบตาท้าทายของเธอ
“เคยมีคนบอกไหม” เขาเอ่ยถาม ไม่น่าเชื่อว่าหัวใจของเขาจะเต้นแรงปานนี้
บ้าน่า!
เขาจะหลงรักยายตัวแสบปากดีนี่น่ะเหรอ ไม่มั้ง!
“บอกอะไรคะ”
“ว่าเธอมันสารพัดพิษ”
“เคยค่ะ”
“นั่นปะไร”
“ก็คุณไงคะ ด่าฉันทุกวันว่าฉันสารพัดพิษ ว่าฉันเป็นยายอสรพิษ” พอได้ยินเธอพูดแบบนั้นเขาก็แยกเขี้ยวใส่เธอในทันที ก่อนจะมองร่างที่อยู่ในอ้อมแขนที่เงยหน้ามองเขาอย่างท้าทาย
เวคินขยี้ปากลงบนริมฝีปากช่างเจรจานั้นแรง ๆ ในทันทีที่มีโอกาส
“อื้อ...” เธอร้องประท้วง ก่อนจะเลิกดิ้น จูบตอบเขาอย่างเงอะงะ
“จูบไม่เป็นสับปะรด” เขาว่าให้น้ำเสียงเอ็นดูอย่างไม่รู้ตัว
“ก็สอนสิ ฉันเคยจูบใครเสียที่ไหน จูบกับคุณคนแรก” แค่ประโยคง่าย ๆ ของเธอ ก็ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจว่าได้เป็นคนแรกสำหรับเธอในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเซ็กซ์
“เดี๋ยวสอนจูบ” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า
“ใจดีจัง” เธอมองเขาอย่างท้าทาย
จริง ๆ เธอก็เคยรู้จักเขามาแล้ว รู้จักในที่นี้คือรู้จักเขาฝ่ายเดียวจากน้องสาวของเขาที่เคยไปที่บ้านของเธอ เพราะเป็นเพื่อนกับเมฆน้องชายของเธอ เวทิตาบอกว่าชอบเธอมาก อยากได้เธอไปเป็นพี่สะใภ้
“ไวน์ชอบพี่เมขลานะคะ รู้ทันคนอื่นตลอด เก่งแล้วก็เอาตัวรอดได้ทุกเรื่อง นี่แหละค่ะพี่สะใภ้ในฝันของไวน์ พี่ชายของไวน์น่ะต้องมีผู้หญิงเก่ง ๆ แบบพี่เมขลาเป็นคู่ชีวิต อยู่เคียงข้าง”
“เอาไม่จ้ะ พี่ไม่ชอบมาเฟียเจ้าพ่ออะไรแบบนั้น พี่ชอบชีวิตสุขสงบมากกว่า” เธอหัวเราะเบาๆ กับความคิดของเพื่อนน้องชาย
“นี่พี่ชายของไวน์นะคะพี่เมขลา หล่อเท่ รับรองว่ายังไม่มีเมียแน่นอนค่ะ มีแต่ผู้หญิงมาให้ท่า รังเกียจนัก” เวทิตาหยิบโทรศัพท์แล้วเปิดรูปพี่ชายคนเดียวให้มณีเมขลาดู
“หน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ไม่เหมาะกับคนขี้เหร่แบบพี่นี้หรอกค่ะ” เธอพูดติดตลก
“ถ้าพี่เมขลาขี้เหร่ ในโลกนี้คงไม่มีคนสวยแล้วล่ะค่ะ” เวทิตาเองก็หัวเราะขำ ๆ ออกมาเหมือนกัน และหลังจากนั้นเวทิตาก็จะชอบเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ของพี่ชายตัวเองให้มณีเมขลาฟังบ่อยๆ จะไปไหน ไปทำอะไร ชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เล่าละเอียดยิบจนมณีเมขลาซึมซับเรื่องราวของเวคินแบบไม่รู้ตัว
“อื้อ...” ห้วงความคิดของเธอถูกกระชากลับมาอีกครั้งเมื่อเขาบดจูบเธออย่างดูดดื่ม
“วาทิตกำลังหลับเราควรทำเวลา”
“ใครบอกว่าฉันจะยอมคุณ”
“ไม่ทันแล้วล่ะ” เขาช้อนอุ้มเธอขึ้นสู่อ้อมแขน พาเธอไปยังห้องพักห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน เพราะเห็นว่าหลานชายกำลังหลับปุ๋ยอยู่นั่นเอง
“หน้าที่เธอคือถ่างขาให้ฉันเอา”
“บ้า!” เธอว่าให้ รู้ว่าเขาแกล้งพูด
“ทำยังไงฉันถึงจะชนะเธอนะ”
“หน้าที่ของคุณคืออะไรรู้ไหม”
“อะไร”
“ถ่างขาให้ฉันจับไข่”
“บ้า!”
“คิกๆ” เธอหัวเราะท้องแข็ง ก่อนที่ร่างของเขาจะทาบทับลงมาหา พร้อมทั้งบดจูบเธออย่างดูดดื่ม
“อื้อ...” เธอคราง
“ฉันถามเธอจริงๆ นะ”
“ถามว่า” เธอยอมให้เขาปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกาย
“เธอไม่คิดจะเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบเหมือนผู้หญิงคนอื่นเลยเหรอ”
“แสดงว่าผู้หญิงคนอื่นชอบเรียกร้องให้คุณรับผิดชอบงั้นเหรอ”
“ใช่ อาทิเช่นเรื่องเงิน”
“ฉันไม่อยากเหมือนคนอื่น”
“แค่นั้นเองเหรอ”
“เรียกร้องในสิ่งที่คนอื่นไม่อยากให้ จะเรียกร้องไปทำไม ถ้าคุณอยากรับผิดชอบฉัน ก็ว่าไปอย่าง”
“แล้วเธออยากให้ฉันรับผิดชอบไหมล่ะ”
“ไม่นะ”
“ทำไม”
“ฉันรับผิดชอบตัวเองได้”
“ถ้าท้องขึ้นมาล่ะ” เขายังสงสัยกับท่าทีของเธอนัก