สองมือของนุชพินตาถึงกับกำหมัดแน่น ตัวเธอเองแทบกลั้นลมหายใจไปหลายครั้ง สองตากะพริบถี่ รู้สึกน้ำตาเหมือนจะไหลพังลงมา ขอบตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว ๆ
ปุลวัชรก็ยังไม่หยุดพูด เขายังคงจ้องหน้าเธอแล้วพูดความในใจออกมาอีก
“ฉันจะบอกเธออีกเรื่องหนึ่งนะ เธอเป็นคนที่ทำให้ฉันหมดสถานภาพความโสด ฉันต้องแต่งงานกับเธอเพราะพ่อกับแม่ของฉันบังคับ โดยอ้างเรื่องหมอดูบ้าบอเพื่อแก้เคล็ดอะไรแบบนั้น ฉันรู้ว่าพ่อกับแม่ฉันน่ะบ้าหมอดูมาก ฉันซึ่งเป็นลูก ขัดอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าเธอไม่รับปากที่จะแต่งงานกับฉัน ฉันก็คงไม่ต้องแต่งงานกับเธอ”
ปุลวัชรพูดหาเรื่องทะเลาะกับเธอ นุชพินตาถึงกับกลืนน้ำลายลงไปในลำคอไปอย่างลำบาก ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย ทำไมเขาเป็นคนแบบนี้
ปุลวัชรเป็นคนแบบนี้นี่เอง พูดจาก็ไม่รักษาน้ำใจ หยาบคาย และหยาบกระด้างมาก ๆ
ชายหนุ่มเมื่อได้พูดทำร้ายจิตใจของเธอแล้ว เขาได้เดินตรงไปที่เตียง ขณะที่เขาเดินไปก็หันมาพูดกับเธอด้วย
“เชิญครับคุณผู้หญิง เชิญขึ้นเตียง เพราะว่าตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว”
นุชพินตาถึงกับถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง แม้จะรู้สึกเกลียดเขาขึ้นมาแล้ว แต่ก็ต้องจำใจทำตามที่เขาบอก เธอเดินตามเขาไป ก่อนจะหยุดที่หน้าโซฟา นุชพินตาเอ่ยขึ้น
“ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันนอนร่วมเตียงเดียวกันกับคุณ ฉันขอนอนตรงโซฟานี้ก็แล้วกันนะคะ”
ปุลวัชรหันขวับไปมองตามร่างเล็ก ๆ ที่กำลังจะนั่งลงไปที่ตรงโซฟานั้น ชายหนุ่มเพิ่งจะเห็นว่าบนโซฟามีทั้งหมอน มีทั้งผ้าห่มถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เขาเดินเร็ว และไปคว้าร่างของเธอเอาไว้ กระชากร่างงามระหงให้ตามติด นุชพินตาผวา ในจังหวะที่เรือนกายของเธอเบียดชิดไปกับกายกำยำของเขา
“เธอคิดว่า เธอจะลอยนวลไปได้ในคืนนี้เหรอ แล้วเธอคิดว่า ฉันจะไม่นอนกับเธอหรือยังไง ฉันจะบอกเธอให้เอาบุญอีกครั้งหนึ่งนะ ฉันจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด สมกับที่เธอยอมมาแต่งงานด้วย” เขาเค้นคำพูด และชิดใบหน้าลงมาใกล้
“คืนนี้ถ้าเจ้าบ่าวไม่กินเจ้าสาว เพื่อน ๆ ของฉัน มันก็คงคิดว่า ฉันคือไอ้หน้าโง่” พูดจบ ชายหนุ่มก็พาร่างของเธอกลับมาที่เตียง แล้วผลักนุชพินตาลงไปนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว
"เธอมันก็แค่ผู้หญิงกระหายเงิน อยากที่จะหาผัวรวย ๆ หวังที่จะรวยทางลัด แต่ฉันจะบอกเอาไว้ก่อนนะ เธอจะได้แค่ตัวของฉันเท่านั้นแหละ ส่วนหัวใจของฉันไม่มีวันยกให้เธอ”
“ใครเขาอยากได้เงินของคุณกันล่ะ” โพล่งปากออกไปอย่างลืมตัว ทั้งที่เธอกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
"ว้าย" นุชพินตาร้องลั่น เพราะไม่คิดว่าเขาจะถาโถมร่างหนัก ๆ ลงมาทับเธอแบบนี้
“เธอนี่มันกล้าดีกว่าที่ฉันคิดนะ เงินที่คุณพ่อคุณแม่ของฉันให้กับคุณลุงสิงห์ไป ฉันก็ต้องเก็บเอาทั้งต้นทั้งดอกคืนมาจากร่างกายของเธอจนหมด”
เขาไม่พูดเปล่ากลับโน้มใบหน้าลงมาใกล้ มือจับสองแขนของเธอขึ้นไปไว้เหนือศีรษะพร้อมกับลงน้ำหนัก สายตาที่เขาจ้องมองมา ไม่มีความเสน่หาในตัวเธอด้วยซ้ำไป ทำให้นุชพินตาถึงกับรู้สึกขลาดกลัว
“เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ
“ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ”
ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา
“แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ
“ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน
“ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น”
“แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้”
“หึ” เธอชักตาเขียว มองเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
เนื้อตัวของนุชพินตาเริ่มสั่นเพราะอารมณ์ที่กรุ่นขึ้นอีกระดับ เธอพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของเขา
“นี่คุณ มันจะเกินไปแล้วนะคะ ปากร้าย ใจร้าย ใจดำ คิดแต่สิ่งที่ไม่ดี หัวสมองของคุณคงจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ” ไม่วายจ้องหน้าเขายังเดือดดาล นุชพินตารู้สึกรับไม่ได้กับคำพูดคำจาที่แสนกระด้างและหยาบคายแบบนี้
ปุลวัชรยิ้มออกมาทางมุมปาก ลมหายใจของเขาที่เสียดแทงออกมาจากปลายจมูกมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์จนเธอเบือนหน้าหนี
“รังเกียจหรือไง” ปุลวัชรยังคงหาเรื่องไม่เลิก ใบหน้าแสนหวานนี้ยั่วยวนทำให้เขาอยากหยอกเย้า แต่คำพูดและการกระทำกลับสวนทางกับสิ่งที่คิดในใจ
“นี่แม่คุณ... ตอนนี้มาทำหลบหน้าหลบตา แต่อีกสักพัก ฉันจะทำให้เธอร้องครางแบบไม่เหลือดี”
“คุณเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุดค่ะ” อดที่จะพูดออกมาอีกไม่ได้ เพราะเขาทำให้เธอเกลียดขี้หน้าเขาขึ้นมาเสียแล้ว
หลังจากที่นุชพินตาหลงชื่นชมว่าเขาเป็นคนที่หล่อน่ามอง และสะดุดสายตาตั้งแต่ครั้งแรก แต่พฤติกรรมกับคำพูดของเขานั้นแสนกักขฬะ
นุชพินตาคิดไปถึงไตรเทพ เขาไม่เคยพูดจาทำร้ายจิตใจของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกอย่างไตรเทพแทบไม่พูดคำหยาบคายเหมือนกับผู้ชายคนนี้
มือไม้ของเขาที่ไม่อยู่นิ่ง ชายหนุ่มกำลังถืออภิสิทธิ์ครอบงำไปทั่วร่างกายของเธอ ปุลวัชรทำตัวเป็นเจ้าของใช้มือลงน้ำหนักแรง ๆ ไปบนเรือนกายของนุชพินตา เธอพยายามบิดกายส่ายหนีไม่อยากให้เขาแตะต้อง