ตอนที่ 10 ชื่อตอน สาส์นจากบุตรชาย

1361 คำ
ธิดาบูรพามองสาส์นจากบุตรชายของนางด้วยสายตาแปลกประหลาด "สู่ขอสตรีของขุนนาง" ธิดาบูรพาหย่อนสาส์นนั้นลงไปในน้ำตกที่ข้างเตียง สาส์นหล่นลงไปที่ศีรษะของราชาพรายผู้เป็นพ่อ จนตื่นจากจำศีลในรอบสามเดือนพอดี ร่างหนาลืมดวงตาแข็งกร้าว แล้วหยิบสาส์นมาเปิดอ่านอีกครา "สู่ขอสตรีเช่นนั้นหรือ” บุรุษใบหน้าสวยขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วทะยานสู่ผิวน้ำขึ้นมาในทันที ผมยาวๆเปียกลู่ลงรับกับใบหน้าที่งดงามกว่าสตรีแต่คมคายเฉกเช่นบุรุษเพศ ร่างหนาค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเรือนริมน้ำตกช้าๆ มีนางพรายเร่งหยิบผ้ามาเช็ดตัวและซับน้ำให้อย่างว่องไว "นายหญิงมิชอบให้เรือนเปียกน้ำนะเจ้าคะท่านจ้าว" "อือ เจ้าก็เร่งเช็ดเข้าซิ บอกข้าทำไมเล่า" สองร่างกระซิบไปมาเบาๆ ส่งสายตาปะทะกันอย่างรุนแรง ในที่สุดร่างสูงก็หยุดสายตาลงไปก่อนและเดินเข้าไปอย่างรุ่มร่าม "ว่าอย่างไรจ๊ะยาหยี คิดถึงข้าอยู่หรือไม่เจ้า" ร่างบางปรายสายตามองแล้วยกขาขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาคมมองตามรอยแยกของสาบเสื้อนางไปอย่างลุ้นระทึก "บุตรของท่านชมชอบสตรีมนุษย์ ท่านเคยบอกข้าว่าราชาพรายแต่งกับสตรีธรรมดามิได้ ครานี้บุตรของท่านส่งสาส์นมาเช่นนี้ท่านจะทำเช่นไรเล่า" "โอ้....นั่นเป็นชะตาลิขิตกระมัง ข้าส่งบุตรของเราไปที่ในเขตแดนแห่งเมฆหมอก หากสตรีนางใดฝ่าเข้าไปได้ ย่อมหมายว่านางคู่ควร แต่ปัญหาก็คือบุตรของเรานั้นไปพบเจอสตรีนางนั้นที่ใดกันเล่า " ยามมิทันไต่ถามภูติต้นไม้ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นมาแต่ไกล "ราชาน้อยล่อลวงนางไปในความฝัน ย่ำยีนางทุกค่ำคืน ภูติความฝันลักพานางไปจากเรือนทุกค่ำคืน ในความจริงแม้นมิได้เข้าหอ แต่ในความฝันนั้นราชาน้อยล่อลวงนางทุกคืน จนนางแยกความฝันและความจริงมิออก ก่อนไปจัดการปัญหาน้ำท่วม ราชาน้อยก็แอบลักลอบเข้าไปที่สกุลสุ่ย ชำเรานางฉีกคร่าพรหมจรรย์และหลอกนางว่านางนั้นจมอยู่ในความฝัน ทั้งล่อลวงลวนลามนางในเทศกาลลอยโคมอีกด้วย " ฟังเช่นนี้แล้วธิดาบูรพากรุ่นโกรธบุตรชายตนขึ้นมาและตวัดสายตามองไปสวามีตนเอ่ยอย่างมิพอใจนัก "เชื้อมิทิ้งแถว...!! " ร่างโปร่งดึงสาบเสื้อของตนเองตกลงมาเบาๆ ยั่วยวนนางในดวงใจแล้วขยับกายเข้าหากอดรัดนางจนแนบแน่น "โถ่ ยาหยี บุรุษเพศก็เป็นเช่นนั้นเอง หนึ่งบุรุษพันสตรีย่อมมิใช่ปัญหา เจ้าอย่าโกรธบุตรชายของข้าเลย นั่นก็บุตรของเจ้าเช่นกันนะยาหยี ทีนี้เจ้าเห็นว่าสกุลสุ่ยเป็นเช่นไรเล่า ตบแต่งให้บุตรเราได้หรือไม่" "สกุลสุ่ยนั้นเดิมเป็นทหารเรือลงรบในผืนน้ำ เคยกำชัยชนะมากมายในคาบสมุทรใหญ่ นานวันไปผู้สืบสกุลละทิ้งทางเรือมาเป็นขุนนางในราชสำนักดูแลเรือพระราชพิธีและกิจการเรือในเมืองหลวง จึงได้ชื่อว่า...สุ่ย .." "โอ้...เช่นนั้นยิ่งดีเยี่ยม นางคงว่ายน้ำและดำน้ำได้เยี่ยมยอด ยามที่บุตรของข้านั้นจับนางกิน " "เพี๊ยะ !!! " "หยุดพูดอะไรน่าเกลียดเช่นนั้น มนุษย์นั้นถือสาได้ง่าย เจ้าจะนำสงครามมาสู่จวนข้าได้นะเจ้าพรายลามก " "สกุลสุ่ยนั้นล่วงเกินมิได้ สกุลหลินเกรงใจสามในเจ็ดส่วนมิอาฆาตพยาบาทกันมีสัมพันธ์ยาวนานมาด้วยดีในราชสำนัก การแต่งงานในครานี้ต้องยิ่งใหญ่และจัดในวังหลวงเพียงเท่านั้น เพราะสกุลหลินของเราคือพระญาติ ชาติกำเนิดบุตรของเรานั้นยิ่งใหญ่เป็นถึงราชาแห่งผืนน้ำ " ร่างบางหยุดเอ่ยคำลงไปและส่งสายตาตำหนิสวามีขึ้นมาในทันที "ท่านยิ่งใหญ่ในผืนน้ำ แต่ท่าน!!!. ร่างบางชี้หน้าฟูจวินของตนเองและขึ้นเสียงดังขึ้นมา "ท่านมิมีจวนใดๆที่จะต้อนรับแขกมนุษย์ได้ในเมืองนี้ และผู้เข้าร่วมพิธีของท่านคงโผล่ขึ้นมาแทะมนุษย์เป็นอาหารว่าง ก่อนที่จะจัดงานเลี้ยงเป็นแน่แท้ " "โถ่ยาหยีเจ้าก็กล่าวเกินไป นางพรายคงเพียงลากบุรุษไปเสพสม ซักห้าปีสิบปีแล้วค่อยแทะเนื้อหนังกินลงไป” "นั่นล่ะคือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งนัก มนุษย์ใดจะอยากมาร่วมงานเลี้ยงกับแขกของท่านเล่า " "อืม แต่งานแต่งงานของบุตรข้า อย่างไรก็ต้องแต่งในน้ำ ข้าจะมอบพลังให้นางลงสู่ผืนน้ำได้เช่นเฉกเช่นเดียวกับบุตรของเรา และนางพรายนั้นต้องเป็นสักขีพยานในครานี้ มิเช่นนั้นนางจะลงสู่บาดาลมิได้ หากยามครรภ์ของนางเป็นพิษ นางจะต้องตกตายบนภิภพอย่างทุกข์ทรมาน มีเพียงสายน้ำและนางพรายสีทองที่จะช่วยนางได้ และราชาพรายองค์ต่อไปมิอาจกำเนิดขึ้นมาบนภิภพได้ " "เช่นนั้นสระมรกตในวังหลวงคือที่ ที่เหมาะสมที่สุด หากท่านควบคุมพลังมิได้ ท่านปู่และฮองเฮาในต้าหวาง คงสามารถช่วยข้าได้ หากจัดงานในตำหนักของท่าน ที่มีทางเข้าล้วนแสนพิศดารเช่นนั้น แขกเหรื่อของข้าคงจะตกตาย ก่อนถึงประตูจวนเสียก่อนเป็นแน่ " "ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้ารอบคอบดีนักยาหยี " "เช่นนั้นท่านจงส่งภูติไปแจ้งแก่บุตรของท่านเถิด ข้ามิอยากส่งสาส์นด้วยตนเองเชื่องช้านัก " "ได้จ่ะยาหยี สวามีจะตามใจเจ้า " ราชาพรายกอดรัดสตรีของตนที่นับวันนางยิ่งงดงามยั่วยวนใจ ร่างบางลุกขึ้นสะบัดมือปิดหน้าต่างเรือน บดบังสายตาจากบ่าวไพร่ แล้วขยับกายไปนั่งในเตียงน้อยเรือนกายเย้ายวนปากสีแดงชาด "วันนี้เจ้าแปลกตาไปหรือไม่ชายารัก " ร่างหนาขยับเอามืออังหน้าผากของชายาตน ที่วันนี้คล้ายเชิญชวนแปดในเก้าส่วน ใบหน้างดงามขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบเบาๆที่ข้างใบหู "ข้าต้องการกุญแจไขมหาสมุทรอย่างไรเล่า !!! " "หึ หึ หึ ง่ายดายเพียงนี้ งั้นเจ้าจงใช้ร่างยาหยีของข้าเอาใจข้าซิ ราชินีแห่งพราย หากข้าถูกใจข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม คิก คิก " "เจ้ามิหวงสิ่งของวิเศษเช่นนั้นหรือ " "ข้าครองผืนน้ำและผืนป่าสิ่งไร้สาระใต้สะดือทะเลเช่นนั้น ใยข้าต้องเหนื่อยแรงจมลงไป ไขมันขึ้นมาด้วยเล่า ราชินีแห่งพราย " ร่างหนาขยับเข้าไปใกล้และกอดรัดสตรีของตน กดจุมพิตร้อนแรงส่งพิษสู่ปลายลิ้นของนาง มิคาดในพริบตาเดียว ร่างบางก็ละลายเป็นเศษเนื้อในพื้นเรือนในทันที "ฮึ่ม ยาหยีของข้าอยู่ที่ไหน บอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!!! " นางพรายสีทองและนางพรายดำเร่งขยับกายมาหน้ามากมาย "พระชายาอาบน้ำอยู่ในน้ำตกเพคะองค์ราชา" "ฮึ่ม บังอาจหลอกลวงข้า ทั้งยังขึ้นมาถึงบนเรือนช่างบังอาจนัก " "ยาหยี.....!!!" ร่างหนาทะยานออกจากเรือนเตะประตูออกไปดังโครม เร่งตามภูติต้นไม้ไป ในน้ำตกมีนางพรายสีทองมากมายรายล้อมร่างงดงามช่วยขัดสีฉวีวรรณให้พระชายาคนงาม นางหลับตานอนรอคอยการปรนนิบัติจากฝ่ามือนิ่มของพรายสีทอง มิคาดจู่ๆมือหนาก็มาแทนที่และลูบไล้ไปตามตัวนางอย่างอุกอาจนัก "อ๊ะ เจ้าพรายชีกอเจ้าตื่นขึ้นมาแล้วเช่นนั้นหรือ" "อือ ข้าคิดถึงเจ้า จึงตื่นขึ้นมาแล้วล่ะชายารัก " ร่างหนาอุ้มนางขึ้นไปในถ้ำหลังน้ำตกเสกฟองน้ำนุ่มนิ่มมารองรับกายตนดั่งเช่นเคย เรือนร่างงดงามยั่วยวนใจ พลิกกายหันหลังนอนหลับมิสนใจตน "ยาหยีเจ้าคิดถึงข้าเลยหรือ" "ข้าง่วงนัก ข้าเมื่อยล้าด้วย นวดให้ข้าหน่อยซิ เจ้าพรายชีกอ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม