ทันทีที่ประตูลิฟท์ ชายหนุ่มก็โผเข้าหาร่างอวบอัดแล้วบดปากลงบนกลีบปากสีแดงสดทันที ก่อนจะขยี้จูบอย่างร้อนเร่า สอดลิ้นล้วงลึก เธอขยับลิ้นรัดเร่าร้อนตอบอย่างชำนาญงาน มือซ้ายของเขาล้วงเข้าไปใต้ชายกระโปรงแล้วตะโบมบีบรุนแรง ก่อนจะขยับมาเบื้องหน้าเพื่อกอบกุมเนินเนื้ออูมสามเหลี่ยมที่ห่อหุ้มไว้ด้วยจีสตริงตัวเล็ก ๆ แต่เธอรีบตะครุบมือเขาเอาไว้ก่อนแล้วถอนจูบออกมา
“ ใจเย็นสิคะที่รัก นี่มันในลิฟท์นะ อีกแป๊บเดียวก็ถึงห้องแล้ว ”
“ ก็คุณทำให้ผมคลั่ง ดูสิ น้องชายผมมันคิดถึงคุณจะแย่ ” เขาจับมือของเธอมากอบกุมเป้าตุง ๆ ที่มันขยายใหญ่แทบจะแตกปริ สัญญาณลิฟท์ดังขึ้นเพื่อเตือนว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้วก่อนประตูจะเปิดออก ทั้งคู่ตระกองกอดกันเดินไปยังจุดหมาย ก่อนเขาจะใช้การ์ดรูดเพื่อเปิดห้อง
ทันทีที่ประตูเปิด เซย่าก็รีบผละออกจากอ้อมกอดแล้วก้าวฉับ ๆ ราวกับกำลังเดินบนแคทวอล์คไปยังเค้าน์เตอร์เครื่องดื่ม นฤบดินทร์รีบปิดประตูลงก่อนเดินตามเธอไปช้า ๆ ก่อนภาพเบื้องหน้าจะทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น
เธอนั่งอยู่บนเค้าน์เตอร์ด้วยท่วงท่ายวนยั่ว ขาเรียวสองข้างวางฉีกออกเป็นรูปตัว M เปิดเปลือยความงามงดแห่งสตรีเพศจนหมดสิ้น จีสตริงตัวจิ๋วนั้นไม่ได้ช่วยอะไรในการปกปิดเนินนูนสามเหลี่ยมเกลี้ยงเกลานั้นได้ เธอยกมือขึ้นกระดิกนิ้วแล้วส่งเสียงยวนยั่วเชิญชวน
“ มาสิคะที่รัก มาหาเซย่า ” เขาไม่รอช้า สาวเท้าเข้าหาพลางถอดสูทออกตามด้วยเชิ้ตด้านในแล้วเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ใยดี เขาคว้าเก้าอี้มานั่งลงตรงหน้าเพื่อจะพบว่าระดับหน้าเขาอยู่ตรงเนินสวาทนั้นพอดิบพอดี
“ คุณจะฆ่าผมเหรอเซย่า ”
“ พิสูจน์ให้เซย่ารู้สิคะว่าคุณคิดถึงเซย่าแค่ไหน ” พูดพลางเอื้อมมือไปเกียวจีสตริงให้เบี่ยงไปข้างหนึ่งแทนที่จะถอดออก ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ชายให้โหมกระพือ เขายิ้ม แสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้
“ อยากให้ผมทำอะไร บอกหน่อยสิเบ่บี๋ ” ยกมืออีกข้างที่ว่างมาสัมผัสที่กลีบปากของเขาแล้วตอบเสียงกระเส่า
“ ลงลิ้นให้เซย่าหน่อยนะคะที่รัก ”
ชายหนุ่มยิ้ม เขารู้ว่าต้องทำอะไร เพียงแต่อยากได้ยินจากปากเธอให้กระตุ้นอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น
จากนั้นสงครามราคะระหว่างทั้งคู่ก็ถูกดำเนินขึ้นและจบลงอย่างร้อนแรง เขาซวนซบลงบนแผ่นหลังงามด้วยความเหนื่อยอ่อน ส่วนเรื่องท้องไส้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะผู้หญิงเจนงานอย่างเซย่ากินยาคุมอยู่เสมอ ไม่เคยปล่อยให้พลาด
“ สุดยอดเลยเบบี๋ ถึงใจผมทุกครั้ง ” เขาครางเบา ๆ
“ ถึงใจแบบนี้ให้อะไรเป็นรางวัลดีคะ ”
“ เดือนที่แล้วก็พึ่งได้รถไม่ใช่เหรอ อยากได้อะไรล่ะคะ ”
“ เอาเงินไว้ใช้จ่ายดีกว่าค่ะ เซย่าไม่อยากไปถ่ายงานเลย ส่วนมากมีแต่งานเซ็กซี่ติดต่อมา มันเปลืองตัวน่ะ อยากเก็บไว้ให้คุณเชยชมคนเดียว ”
ตอแหล นฤบดินทร์คิดในใจพลางยิ้มออกมาขัน ๆ เขารู้ทันว่าผู้หญิงอย่างเธอน่ะหยำฉ่าแค่ไหน แต่ตอนนี้เขายังไม่เบื่อ ลีลาก็ถึงอกถึงใจ เอาไว้เจอรายใหม่ที่เจนจัดมากกว่าค่อยเขี่ยทิ้ง
บ้านเขารวยล้นฟ้า เงินมีพอให้ใช้ทั้งชาติก็ยังไม่หมด ใช้เงินหาซื้อความสุขใส่ตัวบ้างจะเป็นไรไป
“ ผมเซ็นเช็คให้แสนนึงละกัน ”
“ ขอบคุณนะคะที่รัก ” เธอว่าก่อนจะยกสะโพกร่อนเข้าใส่ลิ่มลำที่ยังจมอยู่ในรูร่องจนกระทั่งมันแข็งขึงขึ้นอีกครั้ง
“ ปลุกมันตื่นขึ้นมาอีก รับผิดชอบด้วยนะเบ่บี๋ ”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงกระเส่า สนามรบเดือดอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ที่นฤบดินทร์กล่าวกับเพื่อนรักนั้นไม่ผิดเลย เขาใช้เวลาฟาดฟันสงครามกับเจ้าหล่อนจวบจนหัวค่ำ พักกินมื้อเย็น นอนหลับไปราวสองสามชั่วโมง แล้วตื่นมาตักตวงความสุขจากร่างกายหล่อนทั้งคืน จวบจนรุ่งสางจึงนอนหลับกันไปอีกครั้งด้วยเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแรงเหลือเกิน
***
“ คุณหนูทำไมกลับมาคนเดียวล่ะคะ คุณนฤบดินทร์ไม่ได้มาด้วยเหรอ ”
“ พี่บดินทร์มีประชุมตอนเย็นน่ะค่ะน้าอิ่ม เลยให้เพื่อนมาส่งแทน ”
หญิงสาวตอบ แม้ว่าจะมีศักดิ์เป็นเจ้านายแต่เธอไม่เคยวางก้ามใหญ่โต คุณแม่สอนให้เธอมีสัมมาคารวะกับทุกคนเสมอ ทำให้คนงานในบ้านรักและเทิดทูนคุณหนูคนนี้เป็นที่สุด แม่อิ่มรีบเดินเข้าไปช่วยถือตะกร้าเอาไว้
“ มาค่ะ เดี๋ยวอิ่มเอาไปเก็บให้ นี่คุณนฤเบศวร์กับคุณนิตยาก็พึ่งมาถึงสักครู่เองค่ะ ”
“ เหรอคะ คุณพ่อกับคุณแม่พี่บดินทร์มา มีธุระอะไรอีก คงไม่ใช่เรื่องงานแต่งหรอกนะ ” ประโยคสุดท้ายเธอรำพึงกับตัวเองเบา ๆ
จริงอยู่ทั้งสองคนถูกหมั้นหมายกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอไม่เคยมีความรู้สึกรัก ไม่เคยอยากจะร่วมหอลงโลงกับนฤบดินทร์แม้แต่นิด แต่ด้วยความที่ไม่เคยมีปากเสียง เชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่อยู่เสมอ ทำให้เธอต้องเดินตามกรอบ ที่ทำกับข้าวกับปลาไปส่งนั่นคุณแม่ก็บอกให้รู้จักทำหน้าที่แม่ศรีเรือน ไปดูแลเขาบ้างเพราะเขาทำงานหนัก ทั้งที่นฤบดินทร์ดูเหมือนไม่ค่อยสนใจใยดีอาหารของเธอเสียด้วยซ้ำ ห้องอาหารแถวนั้นก็เยอะแยะ ง่ายจะตายที่เขาจะออกไปรับประทานอะไรอร่อย ๆ ไม่ใช่กับข้าวบ้าน ๆ ฝีมือของเธอ
อย่าว่าแต่อาหารเลย ตัวเธอเองเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจใคร่ดีเท่าไรนัก อยากทำอะไรก็ทำ ไม่เคยใส่ใจในความรู้สึก..