รามมองตามผู้หญิงคนนั้นจนเหลียวหลังก่อนจะลับสายตาไป แล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีฝ่ามือหนึ่งฟาดเข้าที่ไหล่อย่างแรง
“ เฮ้ย ไอ้พระราม มึงเหลียวหลังมองนางสีดาที่ไหนวะน่ะ ปกติเห็นนิ่งอย่างกับพระพุทธรูป ”
รามหันมามองเจ้าของเสียง นฤบดินทร์สวมเชิ้ตสีขาวด้านในแล้วทับด้วยสูทกับกางเกงสแล็คยี่ห้อดังราคาแพงหูฉี่ สมกับความเป็นเพลย์บอยไฮโซเช่นเคย
“ เปล่า ก็มองปกติ ” นฤบดินทร์ยิ้ม เพื่อนเขายังคงหล่อเหลาเคร่งขรึมเช่นที่เป็นมา
“ กินอะไรมายัง ”
รามส่ายศีรษะ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อโทรศัพท์มือถือของนฤบดินทร์ก็ดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาดูชื่อแล้วเหลือบตามองเพดานอย่างเบื่อ ๆ รามเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน อีกฝ่ายอ้าปากพะงาบ ๆ อ่านออกได้ว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง แล้วกดรับสาย
“ ว่าไงคะน้องน้ำหนึ่ง ” นิ่งไปสักพักเพื่อฟังปลายสาย จากนั้นก็กรอกเสียงกลับไป
“ พี่คุยธุระกับแขกอยู่ที่ห้องรับแขกวีไอพีนะ น้ำหนึ่งฝากไว้ประชาสัมพันธ์ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่ไปทาน ”
นิ่งไปอีกครู่หนึ่ง
“ โอเค ถ้างั้นเข้ามาก็ได้ค่ะ พอดีแขกก็เพื่อนพี่เองแหละ มาคุยงานกัน แล้วเจอกันค่ะ ” แล้วเขาก็กดวางสาย
“ น้องน้ำหนึ่ง คู่หมั้นกูเอง พ่อเขากับพ่อกูเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน พึ่งจบปริญญาตรี ลูกสาวคนเดียวเลี้ยงอย่างกับไข่ในหิน ” รามพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“ แต่แม่งจืดชืดเป็นบ้า แต่งตัวก็อย่างกับนางชี ปิดบนปิดล่าง นี่มาทำไมรู้ไหม ทำกับข้าวมาส่งมื้อเที่ยงกูเว้ย แม่งทำอย่างกับเมียทำกับข้าวไปส่งผัวที่ทุ่งนาตามบ้านนอก กูจะบ้าตาย ”
รามขมวดคิ้ว นึกตะหงิดในใจ ทำกับข้าวมาส่ง จะใช่ผู้หญิงที่ถือตะกร้าอาหารคนนั้นหรือเปล่าหนอ
ทันใดนั้นคำตอบก็เดินมาให้เห็นตัวเป็น ๆ ใช่เธอจริง ๆ ด้วย !
เธอเดินเข้ามาใกล้ก็ยิ่งเห็นความสวยน่ารักมากขึ้น ผิวขาวใสเนียนละเอียด ตาโต แก้มป่อง พร้อมรอยยิ้มหวานอันประดับอยู่บนใบหน้า ก่อนเอ่ยทักทายนฤบดินทร์
“ พี่บดินทร์ สวัสดีค่ะ ”
“ สวัสดีค่ะ น้องน้ำหนึ่งคะ นี่ ราม ราชรักษา เพื่อนพี่ที่เคยเรียนที่ออสมาด้วยกัน เป็นสถาปนิกมือหนึ่ง พี่เลยจะให้ช่วยออกแบบโรงแรมโครงการที่หัวหินให้ ราม นี่น้องน้ำหนึ่งนะ คู่หมั้นกู ”
“ สวัสดีค่ะพี่ราม ” เธอยกมือขึ้นไหว้และส่งยิ้มหวานให้ รามยิ้มแล้วตอบกลับ
“ สวัสดีครับน้องน้ำหนึ่ง ”
“ น้ำหนึ่งทำกับข้าวกับขนมมาให้พี่บดินทร์ทานกลางวัน พี่รามทานด้วยกันนะคะ น้ำหนึ่งทำมาเยอะเลยค่ะ ”
รามเงยหน้ามองเพื่อนที่พยักหน้ากลับมาเป็นเชิงให้เขารับ ๆ ไป หญิงสาวเปิดตะกร้าแล้วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะแล้วเปิดฝาออกเผยให้เห็นอาหารที่อยู่ด้านใน จากนั้นก็นำจานชามช้อนขึ้นมาเรียง
“ อันนี้แสร้งว่านะคะ ทานเป็นออเดิร์ฟ ส่วนกับข้าวมีมัสมั่นไก่ นี่หมูโสร่ง ยำถั่วพูกุ้งสด ของหวานมีกล้วยไข่บวชชีกะทิอบควันเทียนค่ะ ” รามมองตามอาหารที่หญิงสาวเปิดให้ดูและสาธยายไปพร้อม จากนั้นต้องเงยหน้ามองเธออย่างทึ่ง ๆ
“ นี่น้องน้ำหนึ่งทำเองหมดทุกอย่างเลยเหรอครับ ”
“ ใช่ น้องน้ำหนึ่งชอบทำอาหารมากโดยเฉพาะอาหารไทย ก็เลยไปเทคคอร์สทางด้านนี้โดยตรง มึงลองชิมสิราม ไม่ใช่หน้าตาดีอย่างเดียวนะ อร่อยมากด้วย ” นฤบดินทร์ตอบแทน น้ำหนึ่งยิ้มพร้อมตักข้าวและอาหารใส่จานให้กับชายหนุ่มทั้งคู่ เธอเชิญชวนให้รามลองชิม
“ พี่รามลองทานดูสิคะ ”
รามมองอาหารหน้าตาน่ากินที่อยู่ตรงหน้าอย่างทึ่ง ๆ บางอย่างเขาไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ
เมื่อตักอาหารใส่ปากก็รู้ว่าที่นฤบดินทร์พูดนั้นไม่ผิดเลย อาหารรสชาติอร่อยมาก น้ำหนึ่งจ้องมองเขาตาโตเหมือนเด็กเพื่อรอฟังคำตอบว่าเขาพอใจในรสชาติอาหารนั้นหรือไม่ จนรามอดที่จะยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ เขารีบเคี้ยวและกลืนอาหารลงคอก่อนจะรีบเอ่ยชม
“ อร่อยมากเลยครับ ” หญิงสาวยิ้มตาหยีแก้มป่องอย่างดีใจ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน เธอหยิบขึ้นมาดูแล้วหันมาบอกทั้งคู่
“ น้ำหนึ่งขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ คุณแม่โทรมาค่ะ ”
เมื่อเธอเดินออกไปลับตา นฤบดินทร์ก็ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ราวกับเบื่อหน่ายเต็มทน รามจ้องหน้าเพื่อนแล้วถามตรง ๆ
“ น้องเขาก็เป็นกุลสตรีดี หน้าตาก็น่ารัก มึงหนักใจอะไรวะ เหมาะที่จะเป็นแม่บ้านแม่เรือน เป็นแม่ของลูกจะตาย ”
อีกฝ่ายจ้องเพื่อนกลับอย่างเบื่อ ๆ
“ ก็นั่นแหละ เหมาะที่จะเป็นแม่บ้านแม่เรือน แต่กูไม่ชอบ มันจืดชืดเกินไป ไม่ตื่นเต้น ไม่เร้าใจ ไม่มีเหี้ยอะไรเลยอีกอย่างนะ กูไม่พร้อมที่จะมีโซ่คล้องคอว่ะ ”
“ แล้วทำไมไม่บอกที่บ้านไปตรง ๆ ”
“ บอกยังไงล่ะ ถ้าถอนหมั้นทางบ้านน้ำหนึ่งก็จะเสียหน้า แถมมีผลกับธุรกิจของพ่อกูอีก เพราะพ่อน้ำหนึ่งมีหุ้นส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของธุรกิจบ้านกูเลยนะ ”
“ แล้วมึงจะทำยังไง ”
นฤบดินทร์หยิบช้อนตักแสร้งว่าที่ประกอบด้วยสับปะรดกับน้ำยำพร้อมเครื่องเคียงทั้งหลายเข้าปากแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ กูก็ว่าจะแต่งไปตามหน้าที่แล้วก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เชื่อง ๆ แบบนี้โง่จะตาย ให้อยู่เฝ้าบ้านทำกับข้าวรอผัวแสนดีอย่างกูกลับไปกินแต่ละวันก็พอ แค่นี้กูก็เป็นเสือล่าเหยื่อได้เหมือนเดิมแล้ว ”