ณ หาดเขาเต่า
หาดเขาเต่าอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึง ไม่ใช่รถติดหรือหลงทางนะ แต่พ่อหน้านิ่งสิ ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. แถมแวะปั๊มอีก 2 รอบ ทำให้การเดินทางใช้เวลานานกว่าปกติ กว่าจะมาถึงก็สายแล้ว เริ่มมีแดด แต่ยังไม่แรงมาก หญิงสาวเองก็ไม่ได้เร่งหนุ่มตรงหน้า เพราะเธอไม่ได้มีธุระอะไรอยู่แล้ว
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" พูดขณะลงจากรถ
"รอด้วยสิ"
"รอทำไม"
"ไปด้วยกันไง"
"คุณไม่ต้องรอเราหรอก เดี๋ยวเรากลับเองได้ ขอบคุณอีกครั้งที่มาส่งค่ะ"
"ผมไม่ใช่คนขับรถนะ มาส่งเสร็จก็จะไล่ให้กลับเลย" ชายหนุ่มประชดประชัน
"แล้วจะเอาไง" หญิงสาวเริ่มงงกะคนตรงหน้า
"คอแห้ง เลี้ยงน้ำหน่อยสิ"
"อ่อ ได้ค่ะ จะดื่มน้ำอะไร จะไปซื้อให้ค่ะ"
"ยังนึกไม่ออก ไปด้วยกันดีกว่า ถึงร้านจะได้ดูว่ามีน้ำอะไรบ้าง"หนุ่มหน้านิ่งตอบ
หญิงสาวได้แต่มองคนตรงหน้า แล้วเดินนำไปที่ร้านน้ำ ไม่ไกลจากที่ทั้งสองยืนอยู่ เป็นร้านกาแฟตกแต่งสไตล์วิลเทจ ร้านน่ารักมากๆ มีมุมถ่ายรูป มองจากในร้านก็เห็นวิวทะเล ในร้านจะมีเมนูน้ำต่างๆ กับเมนูขนมปังปิ้ง
"จะดื่มน้ำอะไรดี" หญิงสาวถามพร้อมยื่นเมนูให้ ชายหนุ่มรับเมนูมาก จากสาวแก้มแดงตรงหน้าพลิกเมนูเลือกดู
"กีวี่ปั่นแก้วหนึ่งครับ"
สาวแก้มแดงจึงหันไปสั่งพนักงาน
"กีวี่ปั่นแก้วหนึ่งค่ะ" พนักงานสาวใส่ผ้ากันเปื้อนสีดำขานรับ แต่สาวตายังคงมองไปที่ชายหนุ่ม
"ทั้งหมด xx บาท ค่ะ"
"ทานนี่ หรือกลับบ้านดีคะ" พนักงานถามต่อ หญิงสาวกำลังจะตอบว่า กลับบ้าน
"ทานนี่ครับ" แต่พ่อหนุ่มรูปหล่อแย่งตอบก่อน
"ได้เลยค่ะ" พนักงานสาวขานรับพร้อมส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
"จะดื่มน้ำอะไร" ชายหนุ่มถาม
"ไม่ค่ะ" หญิงสาวหยิบเงินส่งให้พนักงาน หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย กำลังจะเดินออกจากร้าน
"นั่งเป็นเพื่อนก่อนสิ อุตส่าห์พามา ไม่มีน้ำใจซะเลย"
"ก็เลี้ยงน้ำแล้วไงคะ"
"เลี้ยงแล้วก็นั่งเป็นเพื่อนด้วยสิ"
หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย คิดว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก แต่ก็ยอมเดินไปนั่งที่โต๊ะพร้อมชายหนุ่ม ตอนนั้นรู้สึกได้เพียงว่า เค้าไม่คิดทำร้ายเราแน่ เพราะถ้าคิดทำเธอคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แน่ แต่ทำไมถึงไม่ยอมไปสักที หญิงสาวเก็บความสงสัยไว้เอาไปเล่าให้กั้งเพื่อนสนิทของเธอฟังคืนนี้
"สรุปเธอจะไม่บอกเหรอว่าชื่ออะไร"
"ชมพูค่ะ" หญิงสาวตัดสินใจบอกออกไป
"ชื่อ ชมพู เหรอ" ชายหนุ่มถามย้ำ
"แล้วเมื่อกี้ถามชื่อใครหระ"
"หึ กวน"
หญิงสาวทำหน้าเฉย มองออกไปทางทะเล ไม่สนใจหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า
"มาทำอะไรที่หัวหิน"
"มาพักผ่อนค่ะ" หญิงสาวที่กำลังนั่งใจลอยเผลอตอบออกไป
"มาคนเดียว?"
"ค่ะ"
"ไม่กลัวหรอ"
"ไม่นะ ชมเคยมากับพ่อแม่ แต่เมื่อหลายปีก่อน"
หญิงสาวคุยกับชายหนุ่ม โดยที่ตอบคำถามชายหนุ่มไปหลายเรื่องเลย
ในร้านกาแฟ.... ทั้งคู่นั่งคุยกันไปไม่นาน พนักงานยกน้ำมาเสิร์ฟ ด้วยความสงสัยของหญิงสาวว่าชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ แถมฐานะคงดีมากๆด้วย ทำไมถึงพยายามเข้าหาตนเองนัก ทั้งที่เมื่อครั้งแรกที่เจอกัน ท่าทางของชายหนุ่มดูจะเหม็นขี้หน้าเธอซะด้วยซ้ำ
"ถามจริงๆนะ ชมไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึป่าว"
"ก็ไม่มีอะไร หรือคิดว่าผมกำลังตามจีบหรือไง" ชายหนุ่มตอบ แต่สายตาที่มองเธอกลับแปลกไป
“แล้วคนปกติที่ไหน มาชวนคนที่ไม่รู้จักคุยหละคะ”
"ก็เห็นมาคนเดียว แล้วหน้าตาบ้านนอกๆ ดูบื้อ ๆ กลัวคนจะหลอกไป ขายซะก่อน" ชายหนุ่มบอกเหตุผล
หญิงสาวพอได้ฟังคำตอบชายหนุ่มทำหน้าเหวอทันที นี่เธอกำลังถูกหลอกด่าอยู่ใช่ไหม ถึงเธอจะมาจากบนดอย ไม่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวสักเท่าไหร่ แต่ก็มีคนชมตลอดว่า สวย สวยแบบธรรมชาติ แต่ธรรมชาติลงโทษรึป่าว อันนี้ไม่แน่ใจ
“ชมไม่ได้บื้อนะ" หญิงสาวพูดตอบกลับไป
ชอบหนุ่มลอบยิ้มมุมปาก เมื่อได้ฟังคำจากหญิงสาวตรงหน้า ยัยนี่ก็น่ารักดีนะ
"ทำไมถึงเลือกมาพักผ่อนที่นี่"
"ชอบทะเล มันทำให้ใจสงบดี"
"แล้วมาคนเดียว แฟนไม่มาด้วยหรอ" ชายหนุ่มถามต่อด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่ในใจรอลุ้นคำตอบมากๆ
"จะหลอกถามว่ามีแฟนยังหรอ"
"ทำไมต้องหลอกถามด้วย"
"นั่นสิ" หญิงสาวเริ่มงงเอง แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้นไป
"แล้วนี่จะไปไหนต่อ เดี๋ยวพาไป ไม่ได้อยากอยู่ด้วยหรอกนะ
“แค่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ"
"เดินเล่น"
"ดี เราไปเดินเล่นด้วยกัน" ชายหนุ่มรับคำ
"ตามใจ เพราะปฏิเสธยังไงก็คงไม่ฟังอยู่ดี"
"ใช่ แสดงว่าไม่บื้อเท่าไหร่"
“ชิ๊” หญิงสาวทำเสียงในลำคอ
ทั้งสองออกมาเดินเล่นที่ชายหาด วันนี้อากาศดีมาก แดดไม่แรง แถมยังมีลมพัด ทำให้รู้สึกสบายตัว ไม่ร้อน
"มาเที่ยว แต่ทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์ตลอดเวลา หรือว่าอกหักมา" ชอบหนุ่มถึงจะชอบแสดงว่าไม่ได้สนใจหญิงสาวเท่าไหร่นัก แต่ ความจริงคือ ทุกการกระทำของหญิงสาวอยู่ในสายตาของเขาตลอด หญิงสาวยังคงเดินไปเรื่อยๆ ไม่สนใจตอบคำถามของชายหนุ่ม
"ไม่ได้อกหัก แต่ไม่อยากพูดถึง"
ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวไม่อยากตอบ เลยไม่ได้เค้นถามต่อ
"แล้วจะมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน"
"ประมาณ 1 เดือน ต้องไปทำงานต่อ" ซึ่งจริงๆ งานของเธอก็คือมาเป็น ครูที่อยู่หัวหิน แต่ไม่ได้บอกชายหนุ่ม
"ลางานได้ทีเป็นเดือนๆ ทำงานอะไร" ชายหนุ่มเริ่มสงสัย
"หลอกถามปะ"
"ก็ไม่ได้หลอกนี่" พร้อมยิ้มมุมปาก
ด้วยเพิ่งรู้จักกัน หญิงสาวเลยไม่อยากบอกเรื่องส่วนตัวมากนัก จึงตอบคำถามแบบเลี่ยงๆไป
“ทำงานเป็นลูกจ้าง กินเงินเดือนเหมือนคนปกติทั่วไป"
"แล้วถ้าคนไม่ปกติ นี่เป็นไงหรอ"
"ส่องกระจกดูสิ" หญิงสาวบอกชายหนุ่ม
"จะหลอกว่า ผมไม่ปกติสิ?" ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง แสบจริงนะยัยแก้มป่อง
หญิงสาวยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นครั้งแรก เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกวูบไหวอย่างบอกไม่ถูก
"เวลายิ้มค่อยดูดีหน่อย"
หญิงสาวไม่ได้โมโหกับคำพูดของชายหนุ่ม แต่ตรงกันข้ามกลับรู้สึกสบายใจที่มีชายหนุ่มชวนเธอพูดคุย แม้จะชอบจิกกัดเธอไปบ้างก็ตาม
"ตอนนี้เรารู้จักกันแล้วสิ ถึงยิ้มให้แล้ว"
"ดูๆไป คุณก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ คงไม่ฆ่าเราหมกทะเล แถวนี้หรอกเนอะ"
" คิดไปไหน !"
"ไปนั่งที่เตียงผ้าใบกันไหม" หญิงสาวเอ่ยชวนชายหนุ่ม
"ไปสิ"
หญิงสาวเลือกนั่งเตียงที่หันหน้าเข้าทะเล ชายหนุ่มก็เลือกมานั่งข้างเธอ หญิงสาวสั่งน้ำเปล่า ส่วนชายหนุ่มสั่งเบียร์
"เบียร์หน่อยไหม"
"ไม่ค่ะ ไม่ดื่ม"
"กลัวเมาหรอ"
"เปล่า ไม่ดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้วค่ะ มันผิดศีลข้อ 5"
“นี่เพิ่งสึกจากบวชชีหรือข้ามยุคมาจากสมัยอยุธยา”
“แค่ไม่ดื่มเหล้าเอง เหล้าทำให้คนดื่มขาดสติ”
"ยังมีอีกหรอ สาวๆสมัยนี้ ที่ไม่ใช่นักดื่ม" ชายหนุ่มทำหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่พึ่งได้ยินไป
"ชมคงหลงยุคมา" หญิงสาวแกล้งตอบ เมื่อเห็นว่าอธิบายไปชายหนุ่มก็ไม่เชื่อ
"ไดโนเสาร์แปลงร่างเป็นคน?"
"ระวังจะกลับร่างเป็นไดโนเสาร์ ไล่กัดคุณนะ"
"ลองมากัดสิ" ชายหนุ่มท้าทาย
แต่ยังไม่ทันได้พูดตอบกลับไป กั้งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชมพู ได้โทรเข้ามาก่อน
“ว่าไงยัยกั้ง” ชมพูรับสาย
"วันนี้เป็นไงบ้างแก" กั้งถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
"ก็โอเค สบายใจขึ้นเยอะเลย ได้เปลี่ยนบรรยากาศ"
"แล้วจะกลับเมื่อไหร่"
"ก็อย่างที่บอก เช่ารีสอร์ตไว้เดือนหนึ่ง"
"มีอะไร โทรหาได้ตลอดนะ กูไปหาปั๊วก่อนนะ ปั๊วรอไปกินข้าว"
"โอเคย่ะ" แล้วกดวางสายไป
ชายหนุ่มนั่งจิบเบียร์ฟังหญิงสาวคุยโทรศัพท์แบบเงียบๆ ส่วนหญิงสาวหลังจากวางสายจากเพื่อน เธอก็นั่งเหม่อลอยมองทะเลที่ไกลสุดสายตา แล้วหลับไป........
เฮือก....เธอสะดุ้งตื่นขึ้น เพราะเธอฝันร้าย ฝันถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้นอีกแล้ว ในฝันของเธอมีแต่เลือดนองเต็มพื้น มีคนร้องไห้อยู่หลายคน บางคนกำลังชี้หน้าว่าเธอทำให้พี่คนนั้นเสียชีวิต
ในฝัน เธอกำลังกรีดร้องบอกคนอื่นว่าไม่ใช่เพราะเธอ แต่ไม่มีใครฟัง เธอกำลังจมอยู่ในความมืดมนไม่มีใครอยู่ข้างเธอเลย จนมีเสียงหนึ่งลอยเข้ามา เสียงที่ต่างจากคนอื่น “ไม่เป็นไรนะ อย่ากลัวๆ” แล้วเข้ามากอดเธอเอาไว้ ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ หลังจากได้ยินคำพูดนั้น เธอค่อยๆ สงบลง…
เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าชายหนุ่มกำลังจ้องเธออยู่ หญิงสาวตกใจ มากจึงผลักชายหนุ่มจนหงายหลังไป ชายหนุ่มรีบลุกขึ้น ปัดเศษทรายที่เลอะตามตัวออก แล้วขึ้นมานั่งบนเตียงผ้าใบอีกครั้ง
“ขะ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ” หญิงสาวเอ่ยออกไปอย่างติดขัด
“แรงดีจังนะ”
"คนตกใจหนิคะ มานั่งจ้องหน้าทำไมกัน" หญิงสาวแย้ง
"ก็เรียกตั้งนาน นอนกรนอีกต่างหาก เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น นี่มันเริ่มมืดแล้ว”
ทั้งที่ความจริงคือ ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวกำลังนอนละเมอ ร้องไห้ พูดแต่ว่า “ไม่จริงๆๆๆๆ” เขาคิดว่าเธอคงกำลังฝันร้ายอยู่แน่ๆ จึงปลุกเธอให้ตื่น แต่ไม่ได้บอกออกไป
"เห้อ ชมตกใจหมดเลย" หญิงสาวถอนหายใจก่อนกล่าว
"มองไปรอบๆ เริ่มมืดแล้วจริงๆ ดูเวลาก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว"
"นี่นอนหลับหรือซ้อมตาย"
"ขอโทษค่ะ ถ้ามีธุระคุณกลับไปก่อนก็ได้นะคะ" หญิงสาวเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
"เปล่า ไม่ได้มีธุระ บอกแล้วว่า วันนี้ว่าง"
"เรากลับกันเถอะค่ะ"
"ไม่นอนนี่แล้วหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยแซว
"ไม่ค่ะ เสียเงินค่าที่พักแล้ว จะมานอนบริจาคเลือดให้ยุงทำไม" หญิงสาวที่ปกติแก้มแดงอยู่แล้ว ยิ่งแก้มแดงขึ้นเพราะความเขินอาย