ตอนที่ 3 เสียรู้

1089 คำ
พิมพ์ประไพรมาถึงก่อนเวลานัดกับพจน์เกือบครึ่งชั่วโมง หญิงสาวนั่งรอที่ห้องโถงของโรงแรมที่พจน์เป็นเจ้าของ แต่ขณะที่นั่งรออยู่นั้นเธอเหมือนกับถูกสายตาจับจ้องมองอยู่ตลอดเวลา หญิงสาวจึงมองไปรอบๆ เผื่อจะเจอคนรู้จักแต่ไม่กล้ามาทักเธอ พอดีกับพนักงานโรงแรมเดินมาหาเธอพอดี “คุณพิมพ์ประไพรครับ คุณพจน์เชิญที่ห้องอาหารครับ” พนักงานผายมือเชื้อเชิญ และพาหญิงสาวเดินไปห้องอาหารที่อยู่ด้านใน เมื่อไปถึงพจน์ก็นั่งดื่มไวน์รออยู่ พอเขาห็นเธอก็ลุกขึ้นต้อนรับในทันที แววตาของของพจน์แพรวพราวอย่างเปิดเผยยามเมื่อมองเธอ ทำให้พิมพ์ประไพรรู้สึกระวังตัวมากยิ่งขึ้น หากไม่ติดที่ว่าเขาเป็นคนที่เคทติดต่อให้ เธอคงไม่เอาสร้อยมาจำนำกับเขาแน่ๆ “เชิญนั่งครับคุณไพร” พจน์เป็นชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ด เขาเป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้พิมพ์ประไพรนั่งตรงข้ามกับเขาอย่างสุภาพ “ขอบคุณคุณพจน์มากนะคะที่สนใจสินค้าที่ฉันเสนอ ฉันแค่อยากจะจำนำไว้ก่อน ถ้ามีเงินจะมาไถ่คืนค่ะ” “ไม่มีปัญหาครับ สำหรับคุณไพรผมเซ็นเช็คให้เฉยๆ ยังได้เลย ถ้าคุณยอมเอ่อ…” เขาหยุดพูดเพื่อดูปฎิกิริยาของหญิงสาว พิมพ์ประไพรอยากตะบันหน้าพวกผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นนัก แต่ก็จำต้องเก็บงำไว้ “ฉันคงรบกวนแค่จำนำของเท่านั้นค่ะ อย่างอื่นไม่คิดจะขาย ขอบคุณนะคะ” เธอเอ่ยเสียงปกติ แต่ดวงตาคมโตกลับวาววับขึ้นอย่างไม่พอใจ จนพจน์รับรู้ได้ว่าเธอเริ่มโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว มือบางหยิบกล่องสร้อยเพชรของมารดาออกมาส่งให้ “นี่สร้อยค่ะ คุณตรวจดูก่อนนะคะ” พจน์รับมาแล้ววางไว้ด้านข้าง “เรื่องเงินเอาไว้ก่อนดีกว่านะครับ ผมว่าเราทานอาหารกันก่อนดีกว่าไหม เย็นแล้วจะไม่อร่อย” พจน์ยิ้มให้ แววตาเจ้าเล่ห์มองใบหน้านวลอย่างพอใจ “ผมสั่งเมนูที่อร่อยที่สุดของโรงแรมไว้ หวังว่าคุณคงจะชอบ” “ฉันทานอะไรก็ได้ค่ะ” เธอบอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่นั่งรอพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟ หญิงสาวก็หันมองทั่วห้องเพราะรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่จริงๆ พอไม่เจอใครเธอก็ลุกขึ้นยืน “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ” พจน์ผายมือเชิญ พิมพ์ประไพรเดินออกจากห้องอาหารโดยมีสายตาหื่นกระหายของพจน์มองตามหลัง เมื่อหญิงสาวเดินไปพ้นสายตา พจน์ก็เรียกพนักงานมาหาแล้วส่งอะไรบางอย่างให้ “จัดการให้เรียบร้อย แล้วให้คนเปิดห้องรอเลย” พจน์กระซิบบอกเบาๆ พนักงานโค้งตัวรับแล้วรีบเดินไปที่หลังเคาน์เตอร์ในทันที พิมพ์ประไพรหายไปไม่นานก็กลับเข้ามา พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ พจน์กระตุกยิ้มที่มุมปากนิดๆ พลางตักอาหารใส่จานให้เธอ “เนื้อปลาสดๆ ลาดซอสจากฝรั่งเสศครับ อร่อยมากลองชิมดูสิ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเชื้อเชิญ และในขณะที่หญิงสาวกำลังจะเตรียมตักอาหารไปชิม พจน์ก็ทัดทานขึ้น “อะ…อะ เดี๋ยวก่อนครับ ถ้าจะให้อร่อยสุดๆ ก็ต้องจิบไวน์เรียกน้ำย่อยก่อนนะครับ” พจน์ส่งแก้วทรงสูงที่มีไวน์เกือบครึ่งให้เธอ “ฉันไม่ดื่มค่ะ” “นิดหนึ่งนะครับ” เขาคะยันคะยอ เธอเลยจำเป็นต้องรับแก้วมาจิบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่พิมพ์ประไพรจิบไวน์ สายตาของพจน์พลันเป็นประกายในทันที “อีกนิดนะครับ” เขารีบยกแก้วชนกับแก้วเธอแล้วดื่มรวดเดียวจนหมด แต่พิมพ์ประไพรกลับดื่มไปเพียงนิดหน่อยก็วางลง จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารไปเงียบๆ เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง… ขณะที่พิมพ์ประไพรนั่งทานอาหารไปเงียบๆ อยู่นั่น จู่ๆ เธอก็รู้สึกรุ่มๆ ไปทั้งตัวคล้ายกับจะเป็นไข้แปลกๆ หญิงสาวครั่นเนื้อครั่นเนื้อครั่นตัวจนใบหน้าแดงก่ำ ปลายประสาททุกส่วนของหญิงสาวเริ่มตื่นตัวจนมีความรู้สึกได้ เธออยากลูบไล้ตัวเองแรงๆ ตลอดเวลา อาการแบบนี้ทำให้หญิงสาวพยายามบังคับตัวเองอย่างสุดกำลัง ทว่ายิ่งนานเข้าเธอก็ยิ่งรู้สึกรุ่มร้อนหนักขึ้น พิมพ์ประไพรส่ายหน้าของตนเองแรงๆ หลายที เธอพยายามเรียกสติอันน้อยนิดกลับคืนมา ความงุนงงเริ่มจู่โจมประสาทและสมองทำให้เธอรู้สึกเบลอๆ แปลกๆ เมื่อพจน์เห็นอย่างนั้น ชายหนุ่มก็รีบลุกขึ้นไปลูบไล้บ่าของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าสัมผัสของเขากลับเรียกเสียงครางกระเส่าจากริมฝีปากของพิมพ์ประไพรอย่างไม่อาจฝืนทน ในตอนนั้นหญิงสาวเองก็รู้สึกงุนงงกับตัวเองอยู่ไม่น้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมจู่ๆ อาการครั่นคร้ามไปทั้งตัวแบบนี้ถึงได้เกิดขึ้นกับเธอ “คุณไพร คุณไม่สบายเหรอครับ?” “อืม ทำไมฉันถึงรู้สึกร้อนจังค่ะ…คุณพจน์” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อม พิมพ์ประไพรรู้สึกว่าตัวเธอเองเริ่มจะเสียการควบคุม มือไม้ของเธอดูสั่นไปหมด ไม่รอช้าพจน์รีบประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืนด้วยความหวังดี ชายหนุ่มรีบใช้มือโอบเอวบอบบางพาเธอเดินออกจากห้องในทันที “ไปครับ ไปพักที่ห้องผมก่อนนะครับ” เขาเอ่ยกระซิบข้างหูเธอช้าๆ แต่ใบหน้าของชายหนุ่มไม่อาจที่จะปกปิดความตื่นเต้นในน้ำเสียงได้จริงๆ เพราะเหยื่อกำลังจะติดเบ็ด ใครเล่าจะห้ามใจได้ไหว ด้านเหยื่อสาวเคราะห์ร้ายอย่างพิมพ์ประไพรก็พยักหน้าของตนช้าๆ อย่างงงงวย ก่อนที่หญิงสาวจะเอนตัวไปซบกับอกของพจน์ด้วยอาการที่ยากจะทานไหว เล่นเอาชายหนุ่มเหยียดยิ้มนิดๆ ด้วยความลำพองใจ ว่าแล้วเขาก็รีบประคองเธอไปที่ลิฟท์ทันที พจน์เองก็ไม่ลืมที่จะหยิบกล่องสร้อยเพชรติดไม้ติดมือไปด้วย และก่อนที่พจน์จะรีบพาเจ้าของร่างสะบึ้มก้าวเข้าไปในลิฟท์ ก็มีเสียงห้วนๆ เอ่ยขึ้นอยู่ทางด้านหลังของเขาราวกับกะเกณฑ์เวลาได้ถูกจังหวะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม