“เดี๋ยวก่อนสิ”
ด้านพจน์เองก็รีบหันหลังกลับไปมองคนที่เรียกตนในทันที เขาเห็นทยุตและบอดิการ์ดทั้งสองคนเดินมาขนาบข้างถึงตัวอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมเข้มมองร่างที่อ่อนระทดระทวยของพิมพ์ประไพรในอ้อมแขนของพจน์ด้วยความไม่พอใจ
ฝั่งทยุตรีบใช้มือหนากระชากร่างของเธอออกมาจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เล่นเอาพนจ์ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ
“แต่เธอเป็นผู้หญิงของฉันนะ นายมาทีหลังหัดดูตาม้าตาเรือซะบ้างสิวะ!”
เมื่อถูกฉกเหยื่อไปต่อหน้าต่อตาใครจะยอมไหว พจน์คิดขยับจะเอาเจ้าของร่างสวยคืนเช่นกัน แต่ทว่าการ์ดของทยุตนั้นรีบเข้าไปขวางไว้ พร้อมกับล้วงเข้าไปในเสื้อสูทเพื่อเอาอะไรบางอย่างขึ้นมา ซึ่งไม่ต้องบอกว่าอะไร เล่นเอาพจน์ถึงกับกลืนน้ำเหนียวๆ ลงคอ
ในขณะที่ทยุตยืนคุยอยู่นั้น มือบางของพิมพ์ประไพรก็เริ่มรีบจู่โจมลูบไล้แผ่นอกกว้างอย่างอดใจไม่อยู่ หญิงสาวรีบเบียดตัวของเธอเข้าหาเขาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนทยุตเองก็อดไม่ได้ที่จะร้อนรุ่มไปทั้งตัวเช่นเดียวกัน
“แต่เธอเต็มใจมากับฉันเองนะ” พจน์มองเหยื่ออย่างพิมพ์ประไพรด้วยความเสียดายเพราะจู่ๆ ก็ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา ทยุตแสยะยิ้มเมื่อเห็นอาการของสาวเจ้าดูผิดปกติ เขาก็พอจะเดาออกว่าเธอโดนอะไรมา
“ฉันว่าคงไม่มั้ง เธอน่าจะโดนนายวางยามากกว่ามั้ง? ถ้านายไม่อยากให้เรื่องถึงหูตำรวจ…ก็อย่าแตะต้องเธอจะดีกว่า เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉัน!” ในวินาทีนี้คนอย่างทยุตประกาศกร้าวด้วยอารมณ์เคืองขุ่น ก่อนที่เจ้าตัวจะอุ้มร่างระหงขึ้นมาแนบอกด้วยท่าทางเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“เบื่อเมื่อไหร่ก็บอกนะคุณทยุต” พจน์ถึงกับจนมุมเมื่อถูกอีกฝ่ายมองเกมของตนออก
“หึหึ ผู้หญิงของฉัน...ไม่ว่าใครก็ห้ามทับรอยจำไว้!” ทยุตตอบเสียงห้วนก่อนจะอุ้มหญิงสาวออกประตูหลังในทันที โดยมีบอดิการ์ดทั้งสองเดินตามหลังมาติดๆ
ด้านพจน์เองชายหนุ่มถึงกับทุบกำปั้นใส่ฝ่ามืออีกข้างอย่างโกรธแค้น เพราะเหยื่อที่ตนอุตส่าห์วางแผนไว้ถูกคาบไปกินซะอย่างนั้น ชายหนุ่มอดที่จะเสียดายไม่ได้ เพราะทุกอย่างกำลังจะเข้าที่ เขาเกือบจะได้เคลมเธอแล้วเชียว แต่โชคร้ายกลับถูกคนอื่นคาบไปกิน
“อื้ม…คุณทยุตเหรอ? ฉันร้อนจังเลยค่ะ” เธอยกตัวขึ้นไปจูบไซ้ซอกคอหนาขณะที่ถูกเขากำลังอุ้มเธอไปที่รถ ทยุตชบกัดกรามแน่นก่อนจะรีบก้าวยาวๆ ไปที่รถ โดยมีการ์ดเปิดประตูรอ แล้วชายหนุ่มก็พาเธอไปนั่งที่เบาะหลัง
“ไปที่บ้านด่วนเลย!” ทยุตรีบสั่ง ด้านบอดิการ์ดคนสนิทรู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถาม เขารีบเลื่อนกระจกกั้นปิดเพื่อให้เจ้านายมีพื้นที่ส่วนตัว
“ใจเย็นๆ นะพิมพ์ประไพร” ทยุตเองรีบจับมือเล็กที่คอยยุบยับตามเนื้อตามตัวไว้ ทว่าร่างระหงกลับไม่ยอมแต่โดยดี เธอรีบเบียดตัวเองเข้าหาเขาอย่างร้อนรน ก่อนที่จะรีบเอาปากกับจมูกของเธอถูไถแก้มสากๆ ของเขาไปมา
“จูบ...ไม่เป็นยังจะมาอวดเก่งอีกนะแม่ตัวดี” ทยุตดันใบหน้าแดงก่ำให้ออกห่าง ก่อนจะปัดผมที่ละใบหน้าสวยไปด้านหลังให้เรียบร้อย ก่อนจะก้มลงไปเริ่มบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มอย่างแรงๆ อย่างอดใจไม่อยู่ แต่ทว่าแทนที่หญิงสาวจะเบี่ยงตัวหลบเหมือนตอนบ่ายที่เจอกัน สาวเจ้ากลับจูบตอบเขาด้วยท่าทางเงอะๆ งะๆ พร้อมกับเสนอตัวเองบดเบียดกับร่างกำยำอย่างใจกล้า
“ช่วยด้วย ฉันร้อน ร้อนไปทั้งตัวแล้วตอนนี้...” พิมพ์ประไพรร้องเสียงครางกระเส่าเร่าๆ ดวงตาคู่งามพลันหลับพริ้ม แต่ใบหน้างามแหงนรอรับจูบของเขาอย่างไม่เกี่ยงงอน ทยุตแสยะยิ้มเมื่อภาพความหยิ่งผยองในตอนบ่ายของหญิงสาวลอยเข้ามาในหัวเขา
“เธอเสนอเองนะ ฉันก็เลยจำเป็นต้องสนองนะพิมพ์ประไพร” เขาจับปลายคางเธอตรึงไว้อยู่กับที่ ร่างระหงแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วเย้านัก ยิ่งทำให้ทยุตมีอารมณ์อยากมากขึ้นกว่าเดิมมากขึ้น
“อืม...ได้” หญิงสาวรีบรับคำ ก่อนจะรีบถอดเสื้อของตัวเองออกโดยเร็ว
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวเธอจะได้ท่องสวรรค์กับฉันทั้งคืนแน่ หรือไม่ก็จนกว่าฤทธิ์ยานรกนั้นนะหมดนั่นแหละ”
“อูย…อยากไปตอนนี้เลยค่ะ ช่วยฉันด้วยเถอะ ได้โปรดช่วยฉันที…” พิมพ์ประไพรเอ่ยร้องขอด้วยความทรมานเหลือทน เล่นเอาทยุตส่ายหน้าตัวเองเบาๆ
เมื่อรถยนต์คันหรูวิ่งเข้าไปจอดที่หน้าประตู บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็รีบเปิดประตูให้ชายหนุ่มอย่างรู้งาน ทยุตรีบถอดเสื้อสูทตัวนอกออกมาคลุมร่างระหงทันที ก่อนที่เขาจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ยานรกนั่นก็ยิ่งออกฤทธิ์มากขึ้นเท่านั้น เล่นเอาร่างงามกระสับกระส่ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว พิมพ์ประไพรแอบจูบไซ้ซอกคอแกร่งขณะที่เขาพาเธอเดินขึ้นบันได เล่นเอาทยุตร้องคำรามและรีบเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้นด้วยอารมณ์ปั่นป่วนนัก ตอนนี้เขาอยากจะจัดการกับเธอให้สมกับความต้องการที่เก็บกักไว้เมื่อตอนบ่ายอย่างเหลือทน ส่วนการ์ดของเขารีบเปิดประตูห้องรอไว้อย่างรู้หน้าที่ พอชายหนุ่มก้าวเข้าไปในห้อง ประตูก็พลันปิดลงทันที