“แม็กซ์...คุณก็ดีแต่ว่าพี่สาวฉัน แต่ตัวคุณเองก็ไม่ผิดไปจากเขาสักเท่าไหร่เลย”
บุษราคัมกล่าวน้ำคลอหน่วยตา เธอกำลังเจ็บใจตัวเองมที่เผลอปล่อยอารมณ์ตามเขาไปทั้งที่ไม่เคยยินยอมให้ผู้ชายคนไหนทำเช่นนี้
“ผมกำลังจะบอกคุณอย่างไรล่ะ บีน่า ว่ามันเป็นกฎของการอยู่ที่นี่”
“กฎ...อย่างนั้นหรือคะ?” ร่างอรชรนิ่วหน้าอย่างต้องการคำอธิบาย
“กฎของการอยู่ร่วมกัน เป็นกฎของเจ้าของเกาะ นั่นก็คือ...ผมอยากจูบคุณ ที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเมื่อ”
“นี่คุณ!”
“ถ้าปฏิเสธผมจะทำยิ่งกว่าแค่จูบคุณ!”
ฮอฟมันน์ชี้นิ้วปรามทันใดที่บุษราคัมตั้งท่าจะเถียง ใบหน้างามแดงซ่านทั้งโกรธทั้งอายจนแทบอยากจะขย้ำเขาให้หลุดออกเป็นชิ้น ๆ
“ฉันไม่เคยได้ยินกฎบ้า ๆ แบบนี้ที่ไหนมาก่อน! คุณมันเจ้าเล่ห์ เอาเปรียบผู้หญิงเป็นที่สุด!”
“ผมไม่ได้เอาเปรียบถ้าคุณจะคิดถึงการกระทำของพี่สาวคุณให้มาก”
ร่างสูงใหญ่ก้มหน้าคมคร้ามลงไปเกือบชิดใบหน้าหวานอีกครั้ง เขายังทำสีหน้าดุดันทั้งที่ข้างในปรารถนาได้อยู่ใกล้มากกว่านั้น
“ผมให้คุณเลือกระหว่างคู่หมั้นกับความปลอดภัยของพี่สาวคุณ”
“คุณจะทำอะไรพี่อิง!”
ดวงตาวาววามเบิกกว้าง แน่ล่ะ...ถ้าฮอฟมันน์เคยเป็นทหารฝีมือฉกาจฉกรรจ์ในหน่วยซีลเขาก็น่ากลัวนัก หากเขาคิดจะทำอะไรอัญมณีขึ้นมาจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย
“มันก็แค่ข้อแลกเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ ...ถ้าคุณเลือกที่จะกลับไปหาคู่หมั้น ผมไม่ขอรับประกันความปลอดภัยอีหนูของพ่อ แต่ถ้าคุณเลือกพี่สาว คุณก็ต้องอยู่ที่นี่ ทำทุกอย่างตามที่ผมพอใจ!”
หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันแน่น มือทั้งสองขยุ้มผ้านวมที่ปกปิดร่างเปลือยเปล่าไว้แทบจะให้ขาดออกจากกัน ฮอฟมันน์กำลังขู่เธอ เขายื่นข้อเสนอที่เชลยไม่มีทางเลือก
“ถ้าอย่างนั้น...คุณจะให้ฉันอยู่ที่เกาะนี่อีกนานแค่ไหน!”
“นี่คงเป็นคำตอบของคุณสินะ”
ฮอฟมันน์หรี่นัยน์ตาวาววับทว่าทรงเสน่ห์คู่นั้นลง แต่รอยยิ้มเหยียดนี่สิมันทำให้หญิงสาวอยากบีบคอเขาเป็นที่สุด
“คุณยังไม่ได้ให้คำตอบฉันเลยนะคะ แม็กซ์...ว่าจะให้ฉันอยู่ที่เกาะนี่อีกนานแค่ไหน”
“คุณคงคิดถึงคู่หมั้นใจจะขาด คงอยากกลับไปหาเขาแทบทนไม่ไหว”
“ใช่! ฉันคิดถึงเขามาก”
บุษราคัมโพล่งออกไปอย่างเหลืออด ดวงตาวาววามเต็มไปด้วยหยาดน้ำรินไหล เขาไม่มีวันรู้ว่าเธอคิดถึงเจ้าของแหวนวงนี้แค่ไหน ป่านนี้ เขา คงอยู่บ้านและรอนับวันที่เธอจะกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ
“คุณมันใจหิน! วันหนึ่งคุณจะได้รู้ว่าการพลัดพรากจากคนที่คุณรักมันเป็นยังไง!”
ฮอฟมันน์นิ่งไปและไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่อยากลุกไปไหนในตอนนี้ เขาจับจ้องอยู่แต่วงหน้างามกับความรู้สึกบางอย่างกำลังดิ่งลงต่ำทุกขณะ แทนคำตอบร่างสูงใหญ่กลับทำตามความปรารถนาด้วยการรั้งร่างบางเข้ามาแนบชิดและก้มหน้าลงไปหาจนหญิงสาวตั้งตัวแทบไม่ติด จูบครั้งที่สามทำเอาบุษราคัมหวิวหวาดลงไปถึงใต้บึ้ง
เจ้าของร่างนุ่มปล่อยให้ริมฝากร้อนประกบปิดกลีบปากบางระริกและแทรกปลายลิ้นหนาเข้าไปภายในเพื่อโลมไล้ราวกับจะปลอบประโลม ครั้งนี้เธอยอมเขา ไม่ขัดขืนหรือส่งเสียงเอ็ดอึงในลำคอ ขณะเดียวกันฮอฟมันน์กลับเป็นฝ่ายเริ่มสั่นสะท้านเมื่อปลายลิ้นพลิ้วพลิกหยั่งเข้าไปในโพรงปากแสนหวานลึกขึ้นเรื่อย ๆ
เขาไม่ได้แค่อยากจูบเธอเสียแล้ว...แต่อยากดูดดื่ม กลืนกินทุกอย่างที่ลิ้นเขาได้สัมผัส ใช่แต่เขาจะจุมพิตเธอแนบสนิท แต่ความยับยั้งชั่งใจกำลังก้าวล่วงไปเกินกว่าสติจะฉุดรั้ง มือใหญ่เริ่มไล้ลูบไปบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าบนเนื้อตัวสีชมพู เขากำลังปลุกปั่นเลือดอุ่นในกายสาวสูบฉีดแรงจนผิวแก้มแดงซ่าน
เธอจะยอมให้เขาจูบเท่านั้น...บุษราคัมย้ำเตือนกับตัวเองเมื่อปลายนิ้วหยาบกดลงบนผิวละมุนราวจะปลุกให้เธอร้อนรุ่มยิ่งกว่าน้ำเดือด
“แม็กซ์!”
หญิงสาวหายใจหอบขัดเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกเพราะหัวไหล่กว้างถูกปลายเล็บเรียวจิกลงไปเต็มแรง ฮอฟมันน์หยุดตัวเองลงในฉับพลันแต่ยังตระกองกอดร่างบอบบางไว้ในอ้อมแขน
“ในเมื่อฉันยอมอยู่ที่นี่คุณก็ต้องสัญญาว่าจะทำตามที่คุณพูด”
“ว่า...”
“คุณจะจูบฉัน...จูบฉันเท่านั้น” บุษราคัมพูดเสียงปนหอบทั้งที่ปลายจมูกเธอและเขายังชนกันอยู่เช่นนั้น
“ผมไม่ลืมสัญญา ถ้าคุณทำตัวดี ๆ และไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ ระหว่างเรา”
“ถ้าอย่างนั้น...บอกฉันได้หรือยังคะว่าเมื่อไหร่คุณจะให้ฉันไปจากที่นี่”
หญิงสาวยังคงทวงถาม แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะตอบเสียงเฮลิคอปเตอร์ที่ร่อนลงจอดด้านนอกก็ดังแทรกเข้ามาเสียก่อน สองหนุ่มสาวหันไปมองนอกกระจกพร้อมกันเมื่อแสงสปอร์ตไลต์สว่างจ้าสาดเข้ามาด้านใน ร่างสูงใหญ่หันกลับมามองหญิงสาวซึ่งดูเหมือนนัยน์ตาคู่นั้นพราวพรายราวกับมีความหวัง
“คิดว่าใครจะมาช่วยคุณอย่างนั้นหรือ...พวกที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์นั่นน่ะคนของผมเอง!”
น้ำเสียงดุดันแฝงไว้ด้วยรอยเย้ยหยันและรู้เท่าทันความคิดทำให้บุษราคัมหันมาทำตาเขียวใส่ ร่างอรชรกระชับผ้าห่มที่ปกปิดร่างเปลือยไว้ก่อนขยับตัวถอยห่างไปจนชิดหัวเตียง
“นี่คุณกะจะขนคนมาเฝ้าฉันไม่ให้ไปไหนหรือยังไง ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ถึงยังไงฉันก็หนีไปจากที่นี่ไม่ได้อยู่แล้ว”