“โอ้ย!”
คราวนี้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายร้องออกมาบ้างเมื่อเม็ดทรายหยาบกระเด็นเข้าตาก่อนเขาจะขยี้มันออกและเห็นว่าแม่สาวไทยจอมพยศวิ่งตรงไปยังน้ำทะเลเบื้องหน้า ร่างสูงใหญ่ปัดทรายบนหน้าอกและเช็ดบนริมฝีปากหนาด้วยอารมณ์ข้นคลั่ก
“บีน่า...คุณได้เจอกับผมแน่!”
ฮอฟมันน์คำรามกับตัวเองก่อนวิ่งตามร่างบางลงไปในน้ำทะเล เพียงไม่กี่ก้าวร่างสูงใหญ่ก็วิ่งไปถึงและความชำนาญจากการฝึกในน้ำมาอย่างหนักทำให้นายทหารอย่างเขาไม่ยี่หระต่อกระแสน้ำที่เริ่มหลากแรง หากแต่บุษราคัมเองที่ว่ายออกไปไม่ถึงไหนก็ถูกกระชากไหล่เอาไว้จนต้องร้องออกมาลั่น
“ไม่! ปปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉัน...ฉันจะกลับ...บ้าน”
เสียงกรีดแหลมขาดเป็นห้วง ๆ เพราะกลืนน้ำเค็มเข้าไปหลายอึกขณะรู้สึกว่าเอวบางถูกแขนแกร่งโอบรัดไว้จากข้างหลังก่อนถูกดึงกลับเข้าหาฝั่ง ร่างเล็กพยายามดีดดิ้นแม้รู้ว่าความพยายามนั้นมีแต่จะทำให้สิ้นหวัง เพียงครู่คนตัวโตก็ยกร่างอ้อนแอ้นเปียกโชกขึ้นพาดบนบ่าเหมือนเธอเป็นเด็กตัวเล็กที่เพียรตะกายดีดดิ้น
“ปล่อยนะ! ไอ้คนบ้าโรคจิต ถ้าออกไปจากที่นี่ได้ฉันจะบอกให้ตำรวจบาฮามาสมาจัดการกับคุณ!”
“คุณนั่นแหละหยุดคลั่งซะที!”
ฮอฟมันน์ตวาดพร้อมกับวางร่างอรชรลงบนชายหาดที่น้ำทะเลยังซัดถึงก่อนกดหัวไหล่ให้บุษราคัมนอนราบอยู่ใต้ร่าง ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าสวยที่เปรอะเปื้อนไปด้วยทรายและคราบน้ำเค็มอย่างเกรี้ยวโกรธ
“เรียกผมว่าแม็กซ์! ถ้าขืนยังว่าผมเป็นไอ้บ้าโรคจิตจะเอาคุณไปลอยทะเลให้พวกไอ้หลามมารุมทึ้ง!”
ดูเหมือนคำขู่ที่ดังก้องจะได้ผล บุษราคัมมีทีท่าสงบลงแต่ยังคงไม่หยุดร่ำไห้
“เอาเลย” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยเสียงแห้งโหย “อยากจะทำอะไรฉันก็ทำเลย ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่...ฉันเกลียดคุณ แม็กซ์...ได้ยินมั้ยว่า ฉันเกลียดคุณ”
“อย่าท้าทายผมนะ บีน่า...บีน่า”
ฮอฟมันน์รั้งร่างบางขึ้นมาหวังจะให้บทเรียนอันเจ็บแสบทว่าเขากลับรับรู้ถึงความโรยแรงของหญิงสาวที่กำลังอ่อนระทดระทวยในอ้อมแขน
“คงจะแกล้งทำมารยาเพื่อหาทางหนีไปอีก ผมไม่เชื่อคุณหรอก บีน่า”
ร่างสูงใหญ่ที่เปียกปอนไม่แพ้กันมองร่างที่คอพับคออ่อนจนใบหน้าหวานซุกซบลงกับอกกว้างด้วยลมหายใจรินรวย
“บีน่า...บี...”
ฮอฟมันน์เรียกชื่อนั้นซ้ำ ๆ สลับกับการตบแก้มซีดของคนในอ้อมกอดเบา ๆ ทว่าก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มนึกในใจว่าครั้งนี้เธอคงไม่ได้แสร้งทำแต่คงเหนื่อยล้าจนร่างกายไม่อาจทานทนได้จริง ๆ ผู้หญิงก็เท่านี้...พอพยศจนหมดแรงก็เป็นลม
ทว่าในความคิดแค้นกลับผสมปนเปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก ฮอฟมันน์ยังไม่ยอมขยับตัวหากแต่พินิจเจ้าของร่างเล็กซึ่งเขาจับศีรษะของเธอพาดไว้บนท่อนแขนข้างหนึ่ง ดวงตากลมโตลุกวาวพราวพรายดุจนางแมวป่าบนใบหน้าที่แหงนหงายบัดนี้ปิดสนิท เห็นแต่แพขนตางอนโค้งขยับถี่ ๆ และลมหายใจอ่อนเบาราวกับเหนื่อยล้าเต็มที่
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจับจ้องอยู่บนแก้มเนียนใสกระทั่งหยุดลงบนกลีบปากที่เขาล่วงล้ำเข้าไปอย่างอุกอาจเมื่อครู่ ชั่วแวบของความแข็งกร้าวเขากลับนึกถึงสัมผัสอันนุ่มนวลและรสล้ำฉ่ำหวานที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันแทรกลึกลงไปในหลืบของความรู้สึก
ทว่าเธอกลับสนองตอบอย่างสะเปะสะปะ บุษราคัมทำราวกับว่าไม่เคยสัมผัสปลายลิ้นของผู้ชายคนไหนมาเลยแม้สักครั้ง ความนึกคิดบางอย่างทำให้เขาอยากจูบกลีบปากนุ่มดุจกำมะหยี่นี้อีกครั้ง ความนึกคิดที่ร้อนรุ่มทำให้เขาอยากดึงเนื้อผ้าชื่นบางออกจากเรือนร่างอรชรในอ้อมแขน และก่อนที่ความคิดจะกระโจนออกไปถึงไหนต่อไหนชายหนุ่มก็ต้องหักใจอุ้มร่างเล็กที่สลบไปแล้วกลับบ้านพัก
เป็นเวลานานหลายชั่วโมงที่ร่างแน่งน้อยหลับใหลอยู่ใต้ผ้านวมบนฟูกอุ่นหนา กระทั่งเสียงเข็มนาฬิกาเริ่มกระตุ้นความรู้สึกให้ตื่นตัวเต็มที่อีกครั้ง
“อืม...อือ...”
บุษราคัมครางลึกอยู่ในลำคอแห้งผาก หญิงสาวรับรู้ถึงแสงสว่างเลือนรางก่อนลืมตาขึ้นมองเพดานและเลื่อนไปยังนอกบานกระจกเพื่อพบกับทิวทัศน์ซึ่งเธอไม่ปรารถนาจะได้เห็น
เธอยังอยู่บนเกาะไดโอนี...สวรรค์ที่แท้แล้วคืออเวจีตลอดกาล ดวงตาคู่สวยปิดลงด้วยไม่อยากรับรู้ภาพที่กำลังทิ่มแทงความรู้สึก แต่แล้วเสียงห้าวกังวานกลับปลุกให้เธอเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อรับรู้ว่า เขา ก็ยังอยู่ที่นี่
“ตื่นแล้วหรือ...บีน่า”
บุษราคัมเหลือบแลร่างสูงใหญ่ภายใต้กางเกงเดนิมสีซีดเพียงตัวเดียวที่หย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ ผู้ชายคนนี้หล่ออย่างร้ายกาจหากก็ไม่ต่างจากมัจจุราชสูบวิญญษณให้ด่าวดิ้น หญิงสาวแสร้งทำเป็นไม่สนใจด้วยการมองไปทางอื่น ทว่าชั่วครู่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบนเนื้อตัวก่อนก้มลงมองไหล่และอกขาวอวบอิ่มซึ่งเมื่อล้วงมือกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มก็สัมผัสได้ถึงผิวอันเปล่าเปลือยทุกอณู
“นี่...คุณ!”
ร่างเล็กผุดลุกขึ้นทั้งที่กุมผ้าไว้แนบอกเพื่อปกปิดเนินเนื้อกลึงกลมหากก็มิอาจปกปิดไหล่เปลือยขาวเนียนที่โผล่พ้นผ้านวมออกมาได้ บุษราคัมหายใจหอบขณะจ้องหน้าฮอฟมันน์ด้วยแววตาอันเจ็บปวด
“นี่คุณทำอะไรฉัน! แม็กซ์ คุณทำอะไรกับตัวฉันบอกมานะ!”
“ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ” ชายหนุ่มตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ “ไม่สิ...ผมถอดชุดของคุณออกเพราะมันเปียกตอนคุณสลบ”
“ใครอนุญาตให้คุณทำแบบนี้! คุณมันชอบฉวยโอกาสกับผู้หญิง คนเลว!”
“หรือคุณอยากจะอยู่ในชุดเปียก ๆ นั่น! อยากเป็นปอดบวมตายรึยังไง!”
ชายหนุ่มตวาดกลับและคว้าข้อมือบางที่กำหมัดทุบเขาเป็นพัลวันเอาไว้ ทว่านัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างส่องประกายวับวามอยู่บนนิ้วนางที่มือข้างซ้ายของสาวไทยจอมพยศและมันทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่
“บีน่า...นี่คุณมีคู่หมั้นแล้ว...อย่างนั้นหรือ?”