"น้องพริกแกงช่วยรดน้ำดอกไม้หน้าร้านให้พี่หน่อย"
"ได้ค่ะ!" ในที่สุดฉันก็ได้งานร้านกาแฟแถมยังอยู่แถวหน้ามหาลัยอีก พี่ตุ้มเจ้าร้านก็ใจดีงานก็ไม่ได้ยากอะไรตอนนี้ก็ฝึกงานในร้านไปก่อน
"เอ... ทำไมน้ำไม่ไหลล่ะ?"
พริกแกงเปิดก๊อกน้ำเพื่อที่จะรดน้ำดอกไม้หน้าร้านแต่น้ำไม่ไหล เธอเดินย้อนกลับมาที่ก๊อกน้ำจึงเห็นสายยางพับอยู่ เธอคลี่สายยางออกเพื่อให้น้ำไหลพอรดน้ำได้ไม่ทันไรสายยางก็พับอีกเนื่องจากสายยางรดน้ำเก่ามากแล้วเธอต้องคอยมองว่าสายย่างจะพับอีกหรือไม่จึงไม่ทันได้ดูว่ามีคนเดินผ่านมาเธอจึงฉีดน้ำใส่เต็มๆ
"นี่!! ทำอะไรของเธอฉันเปียกหมดแล้ว!!" ชายคนนั้นคือคริสที่เดินผ่านมานั่นเอง
"ซอรี่ค่ะพอดีฉันไม่ทันมอง" คริสเงยหน้าขึ้นมองดูหน้าคู่กรณีทันทีที่เห็นเขาก็จำเธอได้
"เธออีกแล้วเหรอ!"
"นายปากเสียรถเบนซ์นรกนี่" โอ้มายก๊อด... ทำไมมันโลกกลมอย่างนี้
"เธอว่าใครปากเสียฮะ อยากจะโดนปิดร้านนี่หรือไงทำฉันเปียกแล้วยังจะปากดีอีก!" แค่การแต่งตัวเขาพอเดาออกว่าเธอเป็นเด็กเสริฟร้านกาแฟนี้
"ฉันก็ขอโทษแล้วไง ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่แล้วนายก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย แค่เปียกนิดหน่อย"
พริกแกงกับคริสยืนเถียงกันเสียงดังอยู่หน้าร้านสร้างความสนใจแก่คนในร้านเป็นอย่างมาก เสียงโทรศัพท์ของคริสดังขึ้นเขาจึงเลิกสนใจเธอ
"ครับริสาจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ครับ ครับ" คริสปิดโทรศัพท์แล้วหันมามองพริกแกงตาขวาง
"วันนี้ฉันรีบถือว่าเธอดวงดีละกัน ถ้าเจอกันคราวหน้าฉันเล่นงานเธอแน่"
พอคริสเดินจากไปพี่ตุ้มกับหมูเด็กในร้านรีบวิ่งออกมาถามพริกแกงว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเล่าเรื่องคราวๆ ที่เคยเจอกันครั้งก่อนและครั้งนี้ให้พี่ตุ้มเจ้าของร้านฟัง ตอนแรกเธอคิดว่าจะโดนไล่ออกที่ก่อความวุ่นวายแต่พี่ตุ้มไม่ถือสาแค่เตือนให้ระวังคริสไว้ให้ดี
"คุณคริสเข้าเป็นลูกชายคุณหญิงวัชรีและเป็นผู้บริหารมหาลัยโฮลลี่ เลี่ยงการมีปัญหาได้จะดีมากที่ดินแถวนี้เป็นของตระกูลเขาทั้งนั้น พี่ล่ะใจหายนึกว่าจะโดนปิดร้านซะแล้วเห็น ร้านขายของตรงข้างโรงเรียนเก่งพาณิชนั่นก็โดนปิดร้านเพราะไปทะเลาะกับคุณคริสเลยโดนไล่ที่
"อ๋อ... ลูกเศรษฐีนี่เอง มิน่าใหญ่คับฟ้าเชียว" เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ อิทธิพลมืดนี่มีอยู่ทุกที่
"สวัสดีครับพี่ตุ้มไงหมูวันนี้ลูกค้าเยอะมั้ย"
มาวินพนักงานที่ร้านอีกคนหนึ่งที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนเพราะหยุดไปเข้าค่ายเดินเข้ามาสวัสดีทุกคนในร้าน ร่วมทั้งเธอด้วย
"ยู... คนที่โดนต่อยหลายอาทิตย์ก่อนนี่?"
พริกแกงเห็นหน้าก็จำได้ทันที เขาคือนักเรียนชายที่ป้ายรถเมล์นั่นเอง แหม... พอหน้าช้ำๆ หายแล้วหล่อชะมัด
"มาพอดีเลยวินพี่จะแนะนำพนักงานใหม่ให้รู้จัก"
ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่เข้ามาใหม่มองดูพริกแกงแล้วยิ้มให้เล็กน้อย เขาเองก็จำพริกแกงได้เหมือนกันหญิงสาวผู้ซึ่งยืนดูผู้ชายหลายคนชกต่อยกันอย่างไม่สะทกสะท้าน มาวินใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายเก่งพาณิชที่อยู่ติดกับมหาลัยโฮลลี่
ไอ้เด็กคนนี้ท่าทางเอาเรื่องแฮะ
พริกแกงทำความรู้จักเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายไปทำงาน เธอเช็ดถูโต๊ะเก้าอี้ที่ไม่มีลูกค้านั่งให้สะอาดตาก็เหล่มองมาวินเป็นระยะรู้สึกถูกชะตาชอบกล
"สะอาดละ เราก็มีฝีมือนะเนี่ย"
พริกแกงชมผลงานตัวเองแล้วเก็บผ้าขี้ริ้วไปซัก แรกๆ เธอต้องให้พี่ตุ้มสอนทำความสะอาดร้านสร้างความสงสัยให้แก่คนในร้านเพราะแค่เช็ดโต๊ะแค่นี้ใครๆ ก็ทำเป็น เธอทำงานแบบดูเก้ๆ กังๆ แต่พอทำให้ดูเธอก็สามารถทำงานได้คล่องขึ้นจนเป็นที่พอใจของเจ้านาย
"เจอกันพรุ่งนี้จ้า"
ถึงเวลาเลิกงานเวลาสามทุ่มครึ่งทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน พริกแกงตั้งใจจะเดินกลับคอนโดเพราะอยู่ไม่ไกลเนื่องจากเธอขึ้นรถโดยสารยังไม่เป็น เธอกำลังจะเดินข้ามถนนก็มีรถขับตัดหน้าทำให้เธอเสียหลักล้มลงกับพื้น
"โอ้ย..."
"ไง บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะยัยเด็กเสริฟ" เป็นคริสเองที่ขับรถตัดหน้าพริกแกง เขาลงมาทักทายสะใจที่ได้แกล้งคน
"นายแกล้งฉันเหรอ!" ไอ้ขี้เก๊กนี่ตั้งใจจะแกล้งฉันแน่ๆ ทำไมซวยอย่างนี้วะเจอแต่คนที่ไม่อยากเจอ ทำไม ทำไม!
"เปล่านี่... แค่อุบัติเหตุ" คริสยักไหล่กวนๆ
"นายจะเอาไงอยากมีเรื่องกับฉันมากเหรอ"
พริกแกงจ้องคริสอย่างท้าทาย สีหน้าบ่งบอกว่าอารมณ์เสียสุดๆ ส่วนคริสก็จ้องเธอกลับอย่างกวนอารมณ์ไม่แพ้กัน ทั้งสองยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรประตูรถของคริสก็ถูกเปิดออก หญิงสาวหน้าตาดีเดินลงมาคล้องแขนคริสแสดงความเป็นเจ้าของ เธอถามคริสว่าพริกแกงเป็นใครอย่างระแวงในหน้าตาของพริกแกงที่จัดว่าสวยมากถ้าไม่มีแว่นตามาบดบัง ซึ่งผู้หญิงด้วยกันมองออก
"ไม่มีอะไรแค่ทักทายเด็กเสริฟมารยาทเสียน่ะ ไปกันเถอะเดี๋ยวเธอไปเดินแบบไม่ทัน"
คริสชวนริสาขึ้นรถทันทีที่เธอได้ยินว่าหญิงสาวเป็นแค่เด็กเสริฟก็มองด้วยสายตาดูแคลน คริสกำลังจะขึ้นรถก็นึกอะไรออกเขาเดินกลับมายังพริกแกงแล้วยัดเงินสดสามพันบาทใส่กระเป๋าเสื้อด้านหน้าบอกเธอว่าค่าทำขวัญ คริสขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยความเร็วปล่อยพริกแกงตะโกนด่าอยู่ข้างถนนพร้อมชูนิ้วใส่เป็นคำหยาบ คริสเห็นหญิงสาวเดินผ่านหน้ามหาลัยเลยนึกอยากจะแกล้งคืนที่เธอทำเขาเปียกเมื่อตอนกลางวันสักหน่อย การที่ได้แกล้งหญิงสาวไม่น่าเชื่อที่มันทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีหลังจากอารมณ์เสียจากการเตรียมกิจกรรมมากมายในมหาลัย เขาขับรถไปส่งริสานางแบบดาวรุ่งคู่ควงคนล่าสุดที่เรียนที่เดียวกันก่อนจะตามเพื่อนของเขาไปปาร์ตี้ที่ไนท์คลับสุดหรูที่เขาร่วมหุ้นกันเปิดกับเพื่อนๆ ในกลุ่มเพื่อจะได้มีที่สังสรรค์กัน
เฮ้อ... งานก็สนุกดีอยู่หรอกได้ทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำแต่ที่เซ็งก็เพราะเจอไอ้บ้าคริสอะไรนั่น สงสัยจะเป็นโรคประสาทอยู่ๆ ก็มาหาเรื่องกันทั้งที่มันเป็นอุบัติเหตุแท้ๆ ดูสิแขนกระแทกพื้นเขียวเป็นจ้ำเลย
ปิ้น!!
แล้วนี่ใครมาบีบแตรรถใส่อีกอยากตายหรือไงคนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่
"หน้าบูดเชียว เป็นไร" ฮิวโก้เปิดกระจกรถทักทายเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี
"เซ็ง... เจอคนโรคจิตน่ะ"
ทั้งสองแวะร้านอาหารก่อนกลับที่พักเพื่อพูดคุยกัน ตั้งแต่วันที่พริกแกงออกจากที่ทำงานเก่าทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
"งานเป็นไงบ้างทำได้มั้ย ถ้าไม่อยากทำบอกนะ สวยๆ อย่างแกไปถ่ายแบบไม่กี่วันเดี๋ยวก็ซื้อรถได้แล้วเผลอๆ ดังขึ้นมาโกยอย่างเดียวเลยนะ"
ฮิวโก้เสนองานถ่ายแบบให้เพื่อนสาว เขาจับคางเธอเชิดหน้าขึ้นลงอย่างเสียดายในความสวย นี่ถ้าไม่ติดเป็นเพื่อนกันตั้งแต่แบเบาะและความเพี้ยนละก็เขาจีบไปนานแล้ว พริกแกงปัดมือออกอย่างรำคาญ เธอเล่าเรื่องราวที่เธอเจอให้ฮิวโก้ฟังท่ามกลางเสียงหัวเราะของชายหนุ่มก่อนให้กำลังใจแก่เพื่อนสาวตักเนื้อปลาแซลมอนย่างชิ้นโตเข้าปาก
"ฉันว่าจะหางานเพิ่ม ถ้าทำงานที่ร้านกาแฟอย่างเดียวค่ากินยังไม่พอเลยยิ่งค่าเทอมนี่อย่าหวังเลย"
"บอกให้เอาที่ฉันก่อนก็ไม่เอา"
"ฉันแค่อยากลองใช้ความสามารถของตัวเองดู ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวจะบอก"
"ก็แล้วแต่ละกันนะ" ทั้งสองทานข้าวพร้อมพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เจอในแต่ละวันพร้อมวีดีโอคอลหาเพื่อนๆ ที่ต่างประเทศพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสองเสียงดังเต็มที่เพราะอยู่โซนวีไอพีเพื่อกันคนเข้ามาวุ่นวายกับฮิวโก้
"ทำไมวันนี้มันเงียบจัง" พริกแกงถอนหายใจพร้อมทั้งเช็ดแก้วน้ำไปด้วย พัฒนาการด้านการทำงานของเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สังเกตจากที่วันนี้เธอยังไม่ทำอะไรแตกสักอย่าง
"ถ้าไอ้มาวินไม่มาก็เงียบอย่างนี้แหละ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกสาวๆ ที่มาชอบมาวินมันน่ะ" หมูเล่าให้ฟังอย่างกระหายอยากเล่า
"ร้านเรามันขายไม่ดีตั้งแต่กาแฟร้านโน้นมาเปิด ร้านโน้นมันไฮโซดูดีใครก็อยากใช้บริการ"
"ไอ้ร้านนั่นนะ"
เธอชี้ไปทางร้านที่อยู่ห่างกันไม่มากนักมีลูกค้ามากมายส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาลัยโฮลลี่ บรรยากาศก็แสนจะหรูหรายกระดับลูกค้าต่างจากร้านเธอลิบลับ
"น้องพริกแกงเห็นว่าจะขอไปมหาลัยใช่มั้ย ว่าแต่เราเรียนที่ไหนล่ะพี่จะได้จัดตารางเข้างานใหม่" พริกแกงขอพี่ตุ้มเจ้าของร้านไปเรียนซึ่งนางไม่มีปัญหาที่จะให้พริกแกงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพราะโดยเฉลี่ยแล้วคิดค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงแต่จ่ายเป็นรายเดือนเหมือนกับเด็กคนอื่นในร้าน
"เรียนที่่โฮลลี่ตรงข้ามนี่เอง"
"ว้าว... นี่เธอเรียนที่โฮลลี่เองเหรอ! เก่งเวอร์ค่าเรียนแพงมากเลยนะมีแต่ลูกคุณหนูเรียนกัน! เอ๊ะ! แล้วเธอเข้าไปเรียนได้ยังไงหรือพริกแกงเป็นลูกเศรษฐี" พี่ตุ้มถามไม่ได้จริงจังอะไรมาก
"แหม... ถ้าพี่พริกเป็นคุณหนูแล้วจะมาทำงานที่นี่หาค่าเทอมทำไม พี่สอบเข้าได้ใช่มั้ยเห็นมีให้สอบเข้านี่ ถ้าสอบเข้าได้จ่ายค่าเทอมครึ่งเดียวผมยังเคยลองไปสอบเทียบชั้นมัธยมดูแต่ไม่ผ่าน"
"มัดยม... อ๋อไฮสคูล"
หมูดูจะเชื่อว่าเธอเป็นเด็กบ้านจนสังเกตจากการเดินกลับที่พักทุกวัน อาหารก็อาศัยเจ้าของร้านเลี้ยงทุกเที่ยง จะมีคุณหนูที่ไหนมาทนลำบากอย่างนี้เขาไม่เคยเห็น
"ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ" พริกแกงตอบแบบเออออไปก่อนไม่อยากจะอธิบายอะไรมากตาก็มองออกไปข้างนอกร้านที่เงียบเหงาชวนง่วงนอน เธอทำงานมาสามชั่วโมงพึ่งจะมีลูกค้าแค่ห้าคน
อืม... จะรอดไม่วะฉัน