หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากที่ที่พราวรัมภาและพลอยไพลินกลับไปเยี่ยมบ้าน ทั้งสองสาวกลับไปทำงานปกติ หลังจากนั้นเธอกับพี่สาวก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย พลอยไพลินย้ายไปอยู่กับกริชชัยที่คอนโดใช้ชีวิตร่วมกัน
พราวรัมภาไม่ได้รับข้อมูลหรือรายละเอียดจากผู้ชายคู่กรณีของเธอเลย เขาแอดไลน์มา แต่ไม่ส่งรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายมาให้ เธอคิดเอาเองว่า เขาคงนำรถเข้าศูนย์เอง รถเขาไม่ได้เสียหายอะไรมาก เลยตัดสินใจเปลี่ยนไอดีไลน์ใหม่
เรื่องที่ทำให้ทั้งเธอและพี่สาวแปลกใจอีกเรื่องคือ ทำไมพ่อกับแม่เงียบมาก กับเรื่องของพี่พลอย ปกติจะโทรหาเธอหรือไม่ก็โทรหาพี่สาว แอบดีใจว่า พ่อกับแม่คงล้มเลิกความคิดแล้ว ดีเหมือนกัน เธอเองก็ไม่อยากให้ทุกฝ่ายเสียหายหรือเสียงชื่อเสียง บ้านเธอเป็นสังคมชนบท มีเรื่องมีราวไม่งามคนก็จะเล่าลือไปทั่ว ทำให้พ่อแม่รวมถึงญาติพี่น้องอับอายได้ ซึ่งพ่อกับแม่ของพวกเธอไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอน
วันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ พราวรัมเร่งงานไม่อยากให้งานค้างไปถึงวันจันทร์ เธอตั้งใจเลิกงานสักประมาณสามทุ่มรอให้ถนนว่าง ตั้งใจแวะซื้อของใช้และอาหารสดที่ห้างนิดหน่อย แล้วกลับคอนโดเลย การที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่คอนโด ไม่ได้ทำให้เธอเหงา ได้เวลาเลิกงานก่อนกลับบ้านหญิงสาวแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านโปรด พลอยไพลินโทรเข้ามาพอดี
“สวัสดีค่ะพี่พลอย มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรเป็นห่วง พราวอยู่ที่ไหน”
“เพิ่งกลับจากที่ทำงานค่ะ แวะซื้อของที่ห้าง แล้วก็กำลังจะกินก๋วยเตี๋ยว เสร็จแล้วก็จะกลับคอนโดเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกคิดถึง พรุ่งนี้พี่กับพี่กริชจะไปเชียงใหม่ พราวไปด้วยกันนะ วันอาทิตย์บ่ายๆค่อยกลับ เดี๋ยวพี่จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้”
“ไม่ดีกว่าค่ะพี่พลอย พราวจะทำความสะอาดห้อง ซักผ้า รีดผ้า พี่พลอยไปเถอะ เที่ยวให้สนุกนะคะ”
พลอยไพลินวางสายไปแล้ว ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เธอไม่ไปเชียงใหม่ด้วย ฝนเริ่มตกหนักเมื่อเธอขับรถออกจากร้านก๋วยเตี๋ยว
กว่าจะฝ่าฝนที่ตกหนักกลับมาที่คอนโดได้ ก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงทั้งๆที่ไม่ได้ไกลกันมากนัก เวลาปกติฝนไม่ตกรถไม่ติดใช้เวลาแค่สามสิบนาที ยังไม่ทันที่จะเข้าห้อง พลอยไพลินก็โทรกลับมาอีกครั้ง
“คะพี่พลอย มีอะไรหรือเปล่า”
“พี่รู้สึกระแวงยังไงก็ไม่รู้ ทำไมพ่อกับแม่เงียบไปเลย”เสียพี่สาวฟังแล้วมีความกังวล
“พราวว่าพ่อกับแม่คงจะยกเลิก เรื่องจับพี่พลอยแต่งงานกับลูกเพื่อนแล้วล่ะคะ เงียบแหละดีพี่พลอยก็ไม่ต้องคิดมากหรอก รอเวลาพาพี่กริชไปกราบพ่อกับแม่ พูดคุยเรื่องการสู่ขอก็พอ”
“มันเงียบเกินไปนะพราว พี่ไม่ค่อยไว้ใจเลย”
“คงไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่พลอย ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ พี่พลอยก็จดทะเบียนกับพี่กริชแล้ว ไม่น่ามีอะไรหรอกค่ะ หรือพี่พลอยจะไปอยู่ต่างประเทศ จะได้สบายใจ”
“อืม....เข้าท่าดีนะ พี่กริชชวนพี่เหมือนกันเขากำลังจะไปดูงาน”
“นั่นล่ะค่ะ ไปเลย ไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตให้มีความสุข ไว้เดือนหน้าค่อยกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ “
“พี่ขอบใจพราวนะ ที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีมาก”
“ก็พี่พลอยเป็นพี่พราวนี่คะ เรามีกันอยู่แค่สองคน งั้นแค่นี้ก่อนนะคะพี่พลอย พราวกำลังขนของจะเข้าห้องแล้วค่ะ ฝนตกหนักมาก”
พราวรัมภากลับมาขนของที่รถสองรอบ เธอตุนทั้งอาหารสดและของแห้ง ไม่รวมพวกของใช้ต่างๆ พี่พลอยไม่อยู่แต่ก็ยังคงช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายของน้องสาว พราวรัมภาจึงมีเงินเก็บเรียกว่าใช้เงินเป็นไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อนที่ทำงานชวนไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาหญิงสาวปฏิเสธตลอด จนเพื่อนๆเลิกชวน เพราะชวนเมื่อไหร่ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่าไม่ไป
พราวรัมภาชอบใช้ชีวิตคนเดียว ไปคาเฟ่ ช้อปปิ้ง พักผ่อนอยู่ที่คอนโด อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน ดูหนัง ฟังเพลง หากเดือนไหนมีวันหยุดหลายวัน อาจขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดกับพี่พลอย หรือไม่ก็กลับบ้าน ยิ่งพี่สาวมีแฟน เธอก็อยู่คนเดียวมีความสุขดี
เช่นเช้านี้ขณะที่หญิงสาวกำลังล้างห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์ดังรัวๆเธอสงสัยว่าเบอร์ของใคร ปกติจะบันทึกชื่อไว้ทุกคน ไม่ใช่เพื่อนที่ทำงาน ไม่ใช่พลอยไพลิน หญิงสาวตัดสินใจรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“นี่เธอ ทำอะไรอยู่ ทำไมนานกว่าจะมารับ”
พราวรัมภางง ใครกันโทรหาเธอ เสียงดุจัง
“โทรผิดหรือเปล่าคะ ฉันไม่รู้จักคุณ”
“นี่เธอ ตกลงจะเบี้ยวกันจริงๆใช่ไหมเรื่องค่าเสียหาย”
พราวรัมภาลืมไปเลยจริงๆนิ่งไปสักพักเธอนึกขึ้นมาได้
“อ๋อ....คุณนั่นเอง ฉันไม่ได้เบี้ยวนะคะ ก็ฉันให้คุณส่งรายละเอียดมาทางไลน์แล้ว ฉันรอคุณตั้งหนึ่งเดือน คุณไม่ส่งมาให้ฉัน ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง ติดต่อคุณก็ไม่ได้”
“แล้วทำไมเธอไม่โทรฉัน เบอร์ที่โทรหาก็มี ทำไมไม่โทรกลับ”
“ฉันจำไม่ได้หรอกค่ะ เบอร์แปลกๆไม่รู้จักฉันก็บล็อค หรือไม่ก็ลบทิ้ง”
“นี่โยกโย้เหรอ จะหนีหรือไง”
“เท่าไหร่คะ มีค่าอะไรบ้างคุณก็บอกมาเลยค่ะ ฉันชดใช้ให้ ส่วนของฉันไม่เป็นไรมาก ฉันซ่อมแล้ว ขอเลขบัญชีด้วยนะคะฉันจะโอนเลย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เธอต้องได้ชดใช้แน่”
“คุณ บอกมาเลยค่ะว่าเท่าไหร่ ฉันจะได้ทำงานของฉันต่อ ไม่ได้ว่างนะคะ”
“ทำไม แค่คุยนี่เสียเวลามากเลยรึยังไง ”
“ตกลงจะบอกไหมคะ”
“อย่าใจร้อนน่า พูดดีๆหน่อยน้ำเสียงนี่รำคาญเหรอ”อีกไม่กี่วินาทีต่อมา มินทดาหน้าชา ที่อยู่ๆคนปลายสายก็วางสายไป เขาพยายามโทรกลับอีกครั้ง น่าตลกนักผู้หญิงคนนั้นบล็อคเขา ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง สบถเสียงดัง “เอาเถอะปล่อยไปก่อนและเธอจะรู้ว่าฉันไม่ใช่คนธรรมดา พราวรัมภา” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้กับฉันเลยนะ
"บ้าหรือเปล่าจะพูดก็ไม่พูด ฉันไม่มีเวลามาพูดเล่นหรอกนะ หายไปตั้งนาน และฉันก็รู้ว่าค่าซ่อมรถมันไม่เท่าไหร่หรอก นึกถึงหน้าตาและท่าทางของผู้ชายคนนั้น ไม่น่าไว้วางใจ บล็อคๆไปดีกว่า" พราวรัมภาบ่นเบาๆจากนั้นกลับเข้าไปล้างห้องน้ำต่อ
สามเดือนผ่านไปพราวรัมภายังคงใช้ชีวิตปกติเรียบง่ายคนเดียว อยู่ๆพลอยไพลินก็โผล่มาหาเธอที่คอนโด โดยที่ไม่ได้โทรมาก่อนล่วงหน้า
“พี่พลอย มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมอยู่ๆมาได้ไหนว่าไปต่างประเทศไม่ใช่เหรอคะ”
“เตรียมกระเป๋านะ กลับบ้านกัน”
“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่พลอย”
“พรุ่งนี้ผู้ใหญ่เขาจะมาคุยและตกลงกันเรื่องงานแต่ง”
“อ้าว...แล้วพี่พลอยจะทำยังไงคะ”
“พี่จะไปฟังก่อน แต่ไม่ตกลงแน่นอนอยากให้แต่งก็จะแต่ง แต่พี่อยากให้พราวไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย”
“ได้ๆค่ะ งั้นรอพราวแป๊ปนะคะ”พราวรัมภาใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าพี่สาวคิดอะไรอยู่ เรื่องที่พ่อกับแม่อยากให้แต่งงานเข้าใจว่าล้มเลิกไปแล้วเพราะเห็นเงียบๆสรุปว่ายังเหมือนเดิมทุกอย่าง
“พี่พลอยเครียดไหมคะ”
“ไม่เครียดหรอก พี่มีแผนอยู่ในใจแล้ว”
“ยังไงคะ บอกได้ไหม”
“ไม่ได้ยังไม่ถึงเวลา”
“ตกลงว่าที่เราไปวันนี้ เป็นวันที่ครอบครัวโน้นมาสู่ขอเป็นเรื่องเป็นราวเหรอคะพี่พลอย”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันแต่พ่อกับแม่โทรหาให้กลับบ้านด่วน พี่ก็เลยมาหาพราวให้ไปเป็นเพื่อนนี่แหละ”
พราวรัมภารู้สึกหนักใจกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ หญิงสาวไม่ค่อยสบายใจเลย เธอไม่รู้ว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบไหน ยังไง
สองพี่น้องใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงบ้าน ต่างคนต่างเงียบ พราวรัมภาทำหน้าที่ขับรถให้พี่สาว
“พราวรู้ใช่ไหมว่าแม่เป็นโรคหัวใจ”
“ค่ะ ทำไมคะ”
“แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้น สมมุติว่า ถ้าพี่ไม่ยอมจะอันตรายไหม”
“พราวไม่แน่ใจค่ะพี่พลอย แต่พราวก็ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องไม่ดี”
“ไว้ค่อยคุยกับผู้ใหญ่อีกทีล่ะกัน พี่อยากเห็นหน้าลูกเพื่อนแม่จังเลย สงสัยว่าทำไมเขายินยอม”
“บางทีนะคะ พราวว่าเขาก็คงไม่ยินดีหรอก แต่อาจเหมือนเรา ที่ปฏิเสธไม่ได้ “
“แต่พี่กริชไม่มีปัญหาแน่นะคะพี่พลอย”
“ไม่มี อยู่ที่พี่ว่าจะตัดสินใจยังไง แต่เขาไมยอมยกพี่ให้ใครแน่นอน”
“พราวไม่รู้นะคะว่าพี่พลอยจะตัดสินใจยังไง แต่ว่าพราวก็เอาใจช่วย ไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีเลยค่ะ”
“ดีแน่นอนพราว ไม่มีเรื่องไม่ดีหรอกสบายใจได้”
สองพี่น้องปรากฏตัวอยู่ที่บ้านของพ่อกับแม่ เห็นได้ว่ารอบบริเวณบ้านถูกปรับพื้นที่สำหรับเตรียมงานแต่ง
สองสามีภรรยาดีใจที่ลูกสาวทั้งสองคนกลับบ้าน โดยเฉพาะพลอยไพลิน ลูกสาวคนโตของบ้านที่ไม่ค่อยยอมใคร เก่งทุกอย่างเป็นตัวของตัวเอง เป็นความภูมิใจของครอบครัว ทั้งคู่รักลูกสาวคนโตมาก ยอมรับว่ารักมากกว่าลูกสาวคนเล็ก
“มากันแล้วเหรอสองสาว มาลูกขึ้นมาบนบ้านก่อน”
“ยังไงกันคะแม่ นี่เตรียมปรับพื้นที่เลยเหรอ ไหนที่บอกพลอย บอกว่าไม่มีงานใหญ่โตไม่ใช่เหรอคะ จะจัดแบบง่ายๆไม่ต้องบอกใคร นี่คือสิ่งที่พลอยต้องการนะคะแม่”
“ก็ใช่ แต่ว่าเฉพาะญาติของเรากับญาติของเขาก็เยอะแล้วนะลูก แม่ไม่ได้แจกการ์ดเลยนะ”
“แม่คะ พลอยยอมทุกอย่าง แต่อยากทำเงียบๆแค่บ้านเขากับบ้านเราไม่ได้เหรอคะแม่พ่อ”
สองสามีภรรยานิ่งไป
“แม่พลอยแม่ข้อร้องนะ ไหนๆลูกก็ยอมแล้วงานนี้พ่อกับแม่หวังมาก ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากนี้ ตามใจพ่อกับแม่สักครั้งเถอะนะลูก หลังจากนี้พ่อกับแม่จะไม่ยุ่งกับลูกๆอีกเลย”
“แม่กับพ่อไม่คิดที่จะถามพลอยเลยเหรอคะว่าพลอยมีแฟนไหม มีคนรักไหม อยากแต่งไหม ทำไมโลกนี้โหดร้ายกับพลอยจังเลยคะแม่ ทำไมต้องเป็นพลอย”
“ทำไม่พ่อจะต้องถาม ลูกเป็นลูก แล้วเรื่องนี้พ่อกับแม่ก็พูดก็บอกมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ลูกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ที่พ่อกับแม่ทำเพราะหวังดีกับลูก”นายภพเริ่มรู้สึกโมโหที่ลูกสาวเอาแต่พูดและต่อว่าแม่
“พ่อคะแต่ชีวิตของลูกต้องทำตามที่พ่อกับแม่กำหนดเหรอคะ ไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเองได้เลยเหรอ”
“พลอยไพลิน ฟังแม่นะตั้งแต่เด็กพ่อกับแม่ไม่เคยห้ามลูกเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องทำงานปล่อยอิสระทุกอย่าง แต่เรื่องนี้แม่ขอนะลูก เรื่องนี้เรื่องเดียว เสร็จจากงานแต่งลูกจะอยู่ยังไงทำอะไรก็แล้วแต่ลูกเลย”
“แม่คะ แล้วแม่ไม่คิดเหรอคะว่า ถ้าพลอยกับเขาแต่งงานกันไปแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราเกิดเลิกกันขึ้นมาล่ะคะแม่ ไม่ต้องเสียกันทั้งสองฝ่ายเหรอ”
“แม่กับพ่อเชื่อว่า จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน และลูกไม่ใช่คนใจร้าย”
พลอยไพลินถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่คุยกับแม่ คุยมาหลายครั้ง และหลายปีมาก พ่อไม่มีความเห็นอะไรช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย เห็นดีกับแม่ทุกอย่าง ก็ได้ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะคุยเรื่องนี้
“ถ้ามันเป็นความฝันของพ่อกับแม่ พลอยก็จะยอมค่ะ และจะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วแต่พ่อกับแม่เลยนะคะว่าจะทำยังไง จัดการอะไร พลอยแค่รอเวลาทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น”
สองพี่น้องค้างที่บ้านหนึ่งคืน เกือบทั้งคืนพ่อกับแม่และญาติๆมารวมตัวกันที่บ้าน พูดคุยเรื่องพิธีการต่างๆ ญาติๆต่างก็มาแสดงความยินดีกับพ่อและแม่ บรรยากาศตึงเครียด
พรามรัมภาทั้งเห็นใจและสงสารพี่สาวมาก พลอยไพลินเงียบ ไม่ยินดียินร้ายอะไร แปลกที่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้บอกใครว่าลูกสาวคนไหนจะแต่งงาน หญิงสาวมารู้ทีหลังว่า พลอยไพลินขอไว้ กระทั่งกลับ สองพี่น้องกลับกรุงเทพฯทำงานตามปกติ รอแค่วันและเวลาเท่านั้น