ตอนที่ 4
ช่วงค่ำวันต่อมา ขณะที่นิธารากำลังเปิดประตูเข้าห้องพักก็มีห้องข้างๆ เปิดประตูออกมาทักทายและก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
“สวัสดีครับ เพิ่งกลับมาเหรอครับ” หนุ่มฝรั่งทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร หลังจากเขากะเวลาเอาไว้แล้วว่าสาวสวยข้างห้องจะกลับมาเวลานี้
“ค่ะ พอดีงานเพิ่งเลิก” คนถูกทักตอบกลับเสียงราบเรียบ มุมปากกดยิ้มเล็กน้อยพอเป็นพิธี ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าห้องพักไปบอกเป็นนัยว่าไม่อยากสนทนากับหนุ่มต่างชาติ เพราะเธอเหนื่อย อยากพัก แต่คงพักไม่ได้เพราะค่ำนี้มีนัดกับว่าที่คู่หมั้น
“คุณพักอยู่คนเดียวเหรอครับ”
“คุณน่าจะรู้อยู่แล้วนะคะ” คนถูกถามตอบกลับด้วยปลายเสียงสะบัดเล็กน้อย สีหน้าก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจกับถามของอีกฝ่าย
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้คุณไม่พอใจ” หนุ่มฝรั่งเอ่ยเสียงเรียบ แต่ก็ทุกคำก็กลั่นออกมาใจจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีฉันเหนื่อยๆ เลยทำสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบโทรศัพท์ของเธอก็ส่งเสียงร้อง เธอจึงหันไปยิ้มให้กับหนุ่มฝรั่งเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาดู พอเห็นชื่อคนโทรมาเธอก็ถอนใจออกมาเบาๆ
“พี่สิริ นิดเพิ่งมาถึงคอนโด ขอนิดอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ พี่สิริไม่ต้องรีบมานะคะ จะได้ไม่ต้องมารอนิดนาน” คนไม่อยากไปดินเนอร์ตอบกลับเสียงเรียบเมื่อว่าที่คู่หมั้นโทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว หลังจากเขาไม่ได้มาส่งที่คอนโด เพราะติดงาน
“พี่ยังไม่ได้ออกไปรับนิด คือพี่...” สิริอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาบอกว่าที่คู่หมั้นคนสวย
“ถ้าพี่สิริมีธุระ พี่ก็ไปเถอะค่ะ ส่วนเรื่องดินเนอร์เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”
“แล้วนิดไม่โกรธพี่ใช่ไหมที่พี่ผิดนัดกับนิดอีกแล้ว”
“นิดจะไปโกรธพี่ทำไมค่ะ แล้วถ้าพี่นัดนิดแล้วเกิดมีธุระด่วน พี่ก็ไปทำธุระของพี่ได้เลยนะคะ ไม่ต้องห่วงนิด นิดเข้าใจดีว่าพี่สิริงานเยอะ”
“ถ้างั้นดินเนอร์ครั้งหน้า พี่จะหาของขวัญให้นิดนะครับ” สิริพูดเอาใจว่าที่คู่หมั้นสาว โดยไม่รู้เลยว่าว่าที่คู่หมั้นคนสวยไม่ต้องการของขวัญสุดพิเศษอะไรเลยนอกเสียจากอยากให้งานหมั้นที่กำลังจะเกิดขึ้นถูกยกเลิก
“พี่สิริไม่ต้องเอาของขวัญอะไรให้นิดหรอกค่ะ”
“ก็ตามใจนิดแล้วกัน ถ้างั้นพี่วางสายก่อนนะ” สิริไม่อยู่รอฟังคำใดๆ จากว่าที่คู่หมั้น เขาก็กดวางสายทันทีเพราะสาวสวยอีกคนมาถึงแล้ว
“พิณแก้ว” สิริเอ่ยเรียกเมื่อผู้ช่วยเลขาคนสวยมองหาเขาอยู่
“คุณสิริ” พิณแก้วมองซ้ายมองขวา เพราะกลัวจะมีคนรู้จักผ่านมาเห็น ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้านายหนุ่ม
“ไม่ต้องกลัวที่รัก จะไม่มีใครมาเห็นเราสองคน” สิริยื่นมือไปกุมมือเล็กแล้วยกขึ้นจูบเบาๆ ส่งผลให้เจ้าของมือนุ่มผิวหน้าเห่อร้อน ก่อนจะถูกเจ้านายหนุ่มสั่งให้เข้าไปในรถ ครั้นพอเข้ามาแล้วเธอก็ถูกเจ้านายหนุ่มรั้งเข้าไปกอด
“คุณสิริ” พิณแก้วใจเต้นกระหน่ำเมื่อถูกสวมกอดทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกกอด
“ทำไม” สิริถามกลับเสียงพร่า
“ปล่อย ปล่อยพิณก่อนเถอะค่ะ” พิณแก้วยกมือดันอกของอีกคนเอาไว้ ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างเขินอาย
“แต่ผมอยากกอดคุณ” สิริเอ่ยเสียงพร่า ยอมรับเต็มปากเลยว่าความต้องการพุ่งพล่านจนแทบไม่อยากพาหญิงสาวในอ้อมกอดไปทานอาหารมื้อค่ำ แต่อยากจะพาหญิงสาวไปทำอย่างอื่น
“แต่พิณกลัวคนเห็น”
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว” สิริเริ่มลูบไล้ขาสวยๆ ของผู้ช่วยเลขา
“ลาน ลานจอดรถนะคะคุณสิริ” พิณแก้วทักท้วงเสียงสั่นๆ ร่างกายเกิดอาการบางอย่างเมื่อมือของเจ้านายหนุ่มล้วงเข้ามาด้านใน แล้วก็ลูบไล้เนินเนื้อ
“ใช่ ลานจอดรถ” สิริตอบรับเสียงแหบพร่า สอดนิ้วเข้าขอบกางเกงชั้นในแล้วเข้าไปสัมผัสกับกลีบเนื้อ เขาคลึงนิ้วเบาๆ
“คุณสิริ อ่า” พิณแก้วครางออกมาอย่างซ่านเสียว
“ชอบมั้ย” คนถามกดนิ้วแทรกลึกลงไปในกลีบเนื้อแล้วขยับเบาๆ ก่อนจะเร็วขึ้นตามลำดับ
“อ่า คุณสิริขา อย่าทำพิณ”
“แล้วคุณจะชอบ พิณแก้ว” สิ้นเสียงแหบพร่าสิริก็ขยับนิ้วเร็วและแรงขึ้นจนผู้ช่วยเลขาคนสวยกรีดร้องออกมาลั่นรถ ด้านสิริก็โน้มหน้าลงไปตวัดลิ้นลงบนเนินเนื้อ ทำเอาผู้ช่วยเลขาถึงกับดิ้นพล่าน ปากก็ร้องให้หยุด แต่กลับเด้งสะโพกเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายหนุ่ม
“ที่รัก” เมื่อส่งผู้ช่วยเลขาได้อีกครั้ง สิริก็หันมาประคองใบหน้าสวยแล้วประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม ทีแรกพิณแก้วก็ขัดขืนแต่สุดท้ายก็จูบตอบ สองหนุ่มแลกลิ้นกันนัวเนียจนสิริตัดสินใจเอ่ยชวนผู้ช่วยเลขาด้วยเสียงแหบพร่า “ไปคอนโดผมนะที่รัก”
“แต่เราจะไปทานอาหารกันไม่ใช่เหรอคะ” พิณแก้วทักท้วง
“ก็ไปทานอาหารที่คอนโดของผมไง”
“ไป...ไปก็ได้ค่ะ”
สิริมอบรางวัลให้กับคนว่านอนสอนง่ายด้วยจุมพิตแสนหวานเนิ่นนาน ก่อนจะยอมตัดใจถอนจูบออกมาแล้วขับรถพาผู้ช่วยเลขาคนสวยไปคอนโด กระทั่งมาถึงคอนโด สิริก็ทำอย่างที่ใจปรารถนาจนสุขล้น ไม่ต่างจากพิณแก้ว แต่พอนึกได้ว่าอีกไม่นานคนที่เธอนอนกอดอยู่จะหมั้นกับคนอื่น ใจก็เกิดความอิจฉา ความสุขก่อนหน้ามลายหายไปจนหมด