2 อาทิตย์ผ่านไป
"เคน! ลูกไม่ได้มีแผนอะไรในใจใช่ไหม"
"แผนอะไรครับม๊า ไม่มี๊!!"
ในระหว่างที่ผมขับรถพาคุณริกะคุณแม่สุดสวยของผมไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งมันก็คือบ้านของว่าที่เมียของผม อยู่ๆ แม่ผมก็ถามประโยคนี้ขึ้นมาซะงั้นคนอย่างผมจะไปมีแผนอะไรได้ใช่ไหมล่ะ
"ก็ตั้งแต่ที่ลูกตกลงจะแต่งงานกับงานน้องนี่มันก็ผ่านมาจะ2อาทิตย์แล้วลูกยังไม่ยอมเจอหน้าน้องเลยบ่ายเบี่ยงตลอดน้องต้องคอยเจอลูกเก้อมากี่ครั้งแล้ว"
"โธ่!!ม๊า ก็ผมติดงานนี่ครับไม่รู้อะไรงานมันถึงมาเข้าตอนช่วงที่นัดกับว่าที่ลูกสะไภ้สุดที่รักของม๊าทุกที"
ผมขับรถไปยิ้มไปตอบแม่ผมไปเพื่อไม่ให้ท่านจับพิรุธผมได้ ก็อย่างที่แม่ผมบอกนั่นแหละครับผมเบี้ยวนัดยัยฆาตรกรนั้นมาหลายรอบแล้ว ก็คนมันไม่อยากเจอไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้านี่ถ้าไม่ติดว่าวันนี้ผมถูกคุณริกะคนสวยแม่ผมไปดักรอที่บริษัทผมกะว่าจะโผล่ไปให้ยัยนั้นเจอตอนวันแต่งงานซะเลยอยากรู้ว่ายัยนั้นจะรู้สึกยังไง ยังจะหน้าด้านหน้าทนเสนอตัวมาแต่งงานกับผมอีกไหม
"เคน!! แม่ขอนะลูก ไม่ว่าลูกจะคิดอะไรอยู่แม่ขอร้องอย่าทำรุนแรงกับน้องอย่าทำน้องเสียใจน้องหน้าสงสารมากนะ"
หึ!! น่าสงสารงั้นเหรอแล้วโมนิของผมล่ะไม่น่าสงสารรึไงเธอต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ทำไมไม่มีใครนึกถึงเธอบ้างทำไมทุกคนต้องคอยแต่จะเห็นใจยัยเด็กขี้อิจฉานั่น ผมได้แต่คิดแบบนี้ในใจไม่โต้ตอบอะไรแม่ผมแต่ผมสาบานเลยว่าผมจะเล่นละครตบตาทุกคนเวลาอยู่กับยัยนั้นให้เสมือนว่ารักและเอ็นดูแต่ลับหลังเมื่อไหร่เธอได้รับบทเรียนหนักๆ จากฉันแน่โมนา
"สวัสดีค่ะคุณป้า"
"นี่แหน่ะ! บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกคุณแม่ไม่ก็เรียกม้ายังจะมาคุณป้าอีก"
ทันทีที่ผมขับรถเข้ามาจอดแม่ผมเปิดประตูรถลงไปก่อนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักทายท่าน เสียงนี้ผมจำได้ดีเสียงที่เมื่อก่อนจะคอยเรียกผมคอยสรรหาอะไรมาคุยกบผมเสียงที่ผมรู้จักและได้ยินก่อนที่ผมจะเจอโมนิ
เหอะ!!บ้าชิบแล้วทำไมผมต้องไปคิดถึงอดีตน้องสาวแก่นกะโหลกน่ารักๆ คนนั้นของผมด้วยย้ำนะครับว่าอดีตเพราะตอนนี้ผมไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับยัยนี่อีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องปั้นหน้าลงไปเจอแล้วสินะ
"ไงคะโมนาไม่คิดจะทักทายพี่เลยเหรอ"
"สะ..สวัสดีค่ะพี่เคน"
"เสียงสั่นเชียวกลัวพี่เหรอคะ! โธ่ๆ เด็กน้อย"
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาคะตอนแรกฉันคิดว่าพอเขาเห็นหน้าฉันแล้วจะทำหน้าตึงไม่ก็พูดจาแย่ๆใส่ฉันเหมือนเมื่อก่อนซะอีก ทำไมพูดกับฉันอย่างอ่อนโยนแบบนี้แถมยังเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอามือมายีผมของฉันเบาๆ นี่เขาหายโกรธหายเกลียดฉันแล้วเหรอ หรือเป็นเพราะคุณลุงคุณป้าขอร้องเขาให้ทำดีกับฉันกันแน่นะ
"บ้านหลังนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเลยนะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย"
"ค่ะ!"
เขาเดินล้วงกระเป๋าเดินไปมาราวกับว่าสำรวจอะไรต่างๆ ในบ้านโดยที่มีฉันกับคุณป้ามองตามเขา
"เห็นแบบนี้แล้ว คิดถึงโมนิจัง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง"
แล้วฉันก็ต้องใจกระตุกหน่วงๆกับคำพูดประโยคนี้ของเขา หรือว่าที่เขาคุยกับฉันดีๆแบบนี้เพราะหน้าฉันเหมือนพี่โมนิเขาคงคิดถึงพี่โมนิมากเลยสินะถึงได้ยอมคุย ยอมมองหน้าคนที่เขาเคยบอกว่าเกลียดนักหนาอย่างฉัน เพียงเพราะฉันหน้าเหมือนคนรักของเขา
ความอ่อนโยนที่เขามอบให้ฉันเมื่อกี้ ตอนนี้มันกลับทำให้ใจของฉันมันกลับเจ็บไปหมดแต่ตรงประโยคสุดท้ายนี้สิเหมือนเขาจงใจพูดกระแทกใส่หน้าฉันยังไงก็ไม่รู้
"เคนจิ!!"
เหมือนคุณป้าจะรู้ว่าฉันกำลังรู้สึกไม่โอเคกับคำพูดของเขาเลยเรียกพี่เขาเชิงปรามๆ ว่าไม่ควรพูดแบบนี้
"งั้นเราไปกันเลยไหมครับเดี๋ยวเลือกชุดเสร็จผมจะได้พาน้องไปเลือกแหวนแต่งงานต่อ"
"เลือกทำไมแหวนแต่งงานม๊าเตรียมไว้แล้ว"
คุณป้าแย้งขึ้นมาเมื่อเขาพูดถึงเรื่องแหวนแต่งงานฉันก็งงกับเขาเหมือนกันอยู่ๆ ก็กลับมาพูดจาใช้สายตาอ่อนโยนกับฉัน
"ม๊าครับ! ผมก็อยากซื้อให้ว่าที่ภรรยาคนสวยของผมเองบ้างแหวนของม้าก็ส่วนของม๊าสิครับแต่ของผมก็ต้องมีผมอยากให้อะไรเป็นของขวัญกับโมนาเหมือนกัน ใช่ไหมคะโมนาคนสวยของพี่"
เขาพูดกับคุณป้าก่อนที่จะหันมาพูดกับฉันแต่ฉันจะไม่ตกใจเลยถ้าเขาพูดเฉยๆ แต่นี้เดินมาจับมือใช้ไปกุมไว้อีกด้วยเขากำลังคิดอะไร กำลังจะทำอะไรกันแน่
"เอ่อ!! แล้วแต่พี่เคนกับคุณป้าเลยค่ะโมนายังไงก็ได้"
ฉันตอบไปแบบอึกอักแต่ก็ยังปล่อยให้เขาจับมืออยู่อย่างนั้น
"เห็นแบบนี้ม๊าก็โล่งใจงั้นเอาเป็นว่าวันนี้ลูกสองคนไปเลือกชุดแต่งงานด้วยกันเลยดีกว่าม๊าไม่ไปแล้ว"
"ทำไมล่ะคะคุณป้า..เอ่อ คุณแม่ไหนคุณแม่บอกจะไปเป็นเพื่อนโมนาไงคะ"
ไม่ได้ค่ะถึงพี่เคนจะพูดดีกับฉันฉันก็ยังเกร็งๆอยู่ดีที่จะไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสองคุณป้าจะมาทิ้งฉันไว้กลางทางกับเขาแบบนี้ไม่ได้นะ
"ทำไมล่ะไม่อยากไปกับพี่สองคนเหรอ อย่าบอกนะว่าโมนายังไม่ไว้ใจพี่ ยังกลัวพี่อยู่เหรอ"
"มะ..ไม่ใช่ค่ะโมโนไม่ได้ไม่ไว้ใจพี่เคน"
"งั้นก็ไปกับพี่สองคนสิครับนะๆ นะคะ เราไม่เจอกันตั้งหลายปีพี่อยากคุยอยู่อยู่กับโมนาตามลำพังบ้าง"
"กะ..ก็ได้ค่ะ"
หลังจากตกลงกันเสร็จคุณป้าก็ปล่อยให้ฉันไปกับพี่เคนจิไปด้วยกัน2 ต่อ 2 โดยที่ท่านโทรตามคนขับรถให้มารับท่านที่บ้านของฉันแทนแต่ฉันรู้สึกว่าแววตาคุณป้าฉายความกังวลบางอย่างออกมาท่านยืนมองตามฉันกับพี่เคนจนพี่เคนพาฉันขับรถออกมาจนลับตาท่าน ฉันเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะกับพฤติกรรมของเขา
เพราะหลังจากที่ลับตาคุณป้าแล้วพี่เคนก็มีสีหน้าและแววตาที่เปลี่ยนไปดูยังไงก็ไม่เหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าคุณป้าฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
ก็ตั้งแต่ที่เขาเปิดประตูรถให้ฉันขึ้นมานั่งตอนที่คุณป้ายังยืนมองอยู่เขาก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ฉันก่อนที่เขาจะปิดประตูรถให้ฉันและนั้นมันก็คงจะเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่เขาส่งมาให้ฉัน
เพราะหลังจากที่ขับรถออกมาเขาก็เอาแต่ขับรถมองทางข้างหน้าไม่แม้แต่จะหันมาคุยมาพูดกับฉันเลยสักคำแล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นคือหลังจากที่เขาจูงมือฉันมาที่รถฉันจำได้ว่าเขาใช้มือข้างซ้ายของเขาจับมือฉันพอเขาขึ้นมานั่งฝั่งคนขับเท่านั้นแหละเขาหยิบทิชชูเปียกที่เขามีติดไว้บนรถขึ้นมาเช็ดมือเขาข้างที่จับมือฉันทันที บอกเลยตอนนี้ฉันหน้าชาเหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกไฟแดงยังไงอย่างงั้นสรุปแล้วเขาจะทำอะไรกับฉันกันแน่